ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลักแบบออนไลน์ต่อการรับรู้สมรรถนะด้านการผดุงครรภ์ของนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต
คำสำคัญ:
การจัดการเรียนโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก, การผดุงครรภ์, นักศึกษาพยาบาล, การเรียนออนไลน์บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลักแบบออนไลน์ต่อการรับรู้สมรรถนะด้านการผดุงครรภ์ของนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต ออกแบบการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (quasi-experimental) แบบกลุ่มเดียววัดหลัง (one group posttest design) โดยทำการศึกษาในประชากรที่เป็นนักศึกษาพยาบาลศาสตร์บัณฑิตชั้นปีที่ 3 จำนวน 77 คน ที่กำลังศึกษาวิชาการพยาบาลมารดา ทารก และการผดุงครรภ์ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองคือ โปรแกรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลักแบบออนไลน์ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบบันทึกข้อมูลทั่วไป และแบบสอบถามสมรรถนะด้านการผดุงครรภ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) เพื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยการรับรู้สมรรถนะด้านการผดุงครรภ์ ผลการศึกษาพบว่านักศึกษาส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 94.2) อายุระหว่าง 20-34 ปี (mean = 21.75, SD = 2.94) มีเกรดเฉลี่ยสะสมระหว่าง 2.00-3.68 (mean = 2.76, SD = .34) คาดว่าจะได้รับเกรดในรายวิชาการพยาบาลมารดาทารกและการผดุงครรภ์ 2 ที่ B+ (ร้อยละ 49.3) ภายหลังสิ้นสุดการเรียนการสอนพบว่าการรับรู้สมรรถนะด้านการผดุงครรภ์โดยรวมมีคะแนนรวมอยู่ในระดับมาก (mean = 3.83, SD = 0.48) โดยด้านการติดต่อ สื่อสารมีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงที่สุด ส่วนด้านวิชาการมีค่าคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด (mean = 4.10, SD = .58; mean = 3.06, SD = .51 ตามลำดับ) กลุ่มที่คาดหวังว่าจะได้เกรดต่างกัน มีคะแนนการรับรู้สมรรถนะไม่แตกต่างกัน ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลักแบบออนไลน์อยู่ในระดับมากโดยกลุ่มที่มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดมีคะแนนเฉลี่ยการรับรู้สมรรถนะด้านการผดุงครรภ์มากที่สุด กลุ่มตัวอย่างที่มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจแตกต่างกันจะมีค่าเฉลี่ยการรับรู้สมรรถนะด้านการผดุงครรภ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.01) ข้อเสนอแนะจากผลวิจัยนี้คือ การจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ควรต้องมีการจัดการเรียนการสอนเพิ่มเติมให้นักศึกษาในลักษณะของการบรรยายสรุปภายหลังสิ้นสุดการเรียนการสอน รวมทั้งการจัดการประเมินผลด้วยการประเมินทักษะทางคลินิกแบบ Objective Structured Clinical Examination (OSCE)
เอกสารอ้างอิง
กาญจนา ทองเมืองธัญเทพ, นิจวรรณ วีรวัฒโนดม, ฐิติมา คาระบุตร, และ สายฝน อำพันกาญจน์. (2561). ผลการใช้ปัญหาเป็นหลักในการจัดการเรียนการสอนการดูแลมารดาและทารกที่มีปัญหาสุขภาพเนื่องจากการตั้งครรภ์ของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 4. วารสารการพยาบาลและการศึกษา, 11(2), 87-97.
จามจุรี แซ่หลู่, จรรยา ศรีมีชัย, และ อุทุมพร ดุลยเกษม. (2562). การประยุกต์ใช้การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลักในบทเรียนเรื่องกระบวนการพยาบาลเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ สำหรับนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 6(1), 201-215.
บุญชม ศรีสะอาด. (2539). การแปลผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า. วารสารวัดผลการศึกษา, 2(1),64-70.
ธารีวรรณ ไชยบุญเรือง และ สุสัณหา ยิ้มแย้ม. (2556). สมรรถนะในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ของนักศึกษาพยาบาลหลักสูตรนานาชาติ. วารสารสภาการพยาบาล, 28(3), 56-67.
ปุณยนุช พิมใจใส และ นงนภัส วงษ์จันทร. (2561). ปัจจัยที่มีผลต่อสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ 1 ของนักศึกษาพยาบาลมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม. วารสารพยาบาลทหารบก, 19(1), 154-163.
พรเลิศ ชุมชน, สุนทรีย์ คำเพ็ง, และโยธิน ปอยสูงเนิน .(2559). ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นหลักด้านอาชีวอนามัยต่อผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ ทักษะการแก้ปัญหาการทำงานเป็นทีม และความพึงพอใจของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีพระพุทธบาท. วารสารการพยาบาลและการศึกษา, 9(4), 60-73.
ศศิธร ชิดนายี, อนัญญา คูอาริยะกุล, ภราดร ล้อธรรมม, ศรีสุดา งามขำ, และ ดวงใจ พรหมพยัคฆ์. (2561). ผลของการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลักต่อความสามารถแก้ปัญหาทางการพยาบาลการคิดอย่างมีวิจารณญาณและความพึงพอใจของนักศึกษาพยาบาล. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์, 10(2), 180-193.
ศุภวดี แถวเพีย, สิวาพร พานเมือง, นงลักษณ์ คำสวาสดิ์, กัญญาพัชร เบ้าทอง, กัญยา ทูลธรรม, สิริพร ภูษี, และ สุวิมล พุทธบตร. (2558). รูปแบบการเรียนการสอนตามสภาพจริงเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะด้านการผดุงครรภ์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาพยาบาล. วารสารพยาบาลศาสตร์, 33(Suppl 1), 27-36.
โศตรีย์ แพน้อย, ชุลีพร หีตอักษร, และรุจิรดา เศาจวุฒิพงศ์. (2563). ผลของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นหลักในรายวิชาการพยาบาลครอบครัวและชุมชน 2 ต่อผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ ทักษะการแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม และความพึงพอใจของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุราษฎร์ธานี. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 7(2), 219-231.
สิรีวัฒน์ อายุวัฒน์. (2560). การเรียนการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-Based Learning): ความท้าทายของการศึกษาพยาบาลในการพัฒนาการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 27(2), 15-30.
อรุณี ศรีสุยิ่ง, สิวาพร พานเมือง, กัญยา ทูลธรรม, สุปิยา วิริไฟ, และ ปาริชาติ วันชูเฉลิม. (2561). สมรรถนะการพยาบาลมารดาทารกและการผดุงครรภ์ของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม, 15(3), 142-150.
Bandura, A. (1977). Self-efficacy: toward a unifying theory of behavioral change. Psychological Review, 84(2), 191-215.
Bandura, A. (1986). Social foundations of thought and action: a social cognitive theory. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
Bowman, A. (2019). Level 4 PBL curriculum overview annual interdisciplinary summer institutes. Power point slides for training program on Problem-Based Learning. McMaster University.
Lee, R. (2019). Introduction to problem based learning. Power point slides for training program on problem-based learning. McMaster University.
Robert, J. T. (2013). Maslow and the motivation hierarchy: Measuring satisfaction of the needs. American Journal of Psychology, 126(2), 155-177.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 วารสารวิจัยการพยาบาลและสุขภาพ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.