ผลของการใช้แนวทางปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ ในงานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์:เพื่อศึกษาผลของการใช้แนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบในงานผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินโรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

วิธีการศึกษา : การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (quasi-experimental research) แบบสองกลุ่ม ที่ไม่เท่าเทียมกันและวัดหลังการทดลอง (the post-test only design with nonequivalent groups) โดย ไม่มีการวัดค่าตัวแปรจากกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมก่อนการทดลอง^ุ เพื่อศึกษาผลการใช้แนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบในงานผู้ป่วยอุบัติเหตุและ ฉุกเฉินโรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย กลุ่มตัวอย่างเป็น2กลุ่มคือ1)ผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ ที่รับเป็นผู้ป่วยในงานผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย โดยแบ่งเป็น กลุ่มควบคุม (control group) 20 ได้รับการพยาบาลตามปกติ และกลุ่มทดลอง (experimental group) 20 คน ได้รับการดูแลตามแนวทางปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ ผู้วิจัยทำการศึกษาในกลุ่มควบคุมก่อน  จนครบจำนวน 20 คน หลังจากนั้นจึงทำการศึกษาในกลุ่มทดลองจนครบจำนวน 20 คน กลุ่มตัวอย่างที่ 2 คือ พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานที่ งานผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินโรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย เลือกเฉพาะเจาะจง จำนวน 20  คน กรอบแนวคิดในการวิจัย ได้แก่แนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นตามกรอบแนวคิดของฺ American college of Surgeons (Tenth Edition) ,2018. ประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนคือ 1) primary survey Assessment 2).secondary survey Assessment 3). Definite Care ผลของการใช้แนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ ได้แก่ 1 ผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบเข้าห้องผ่าตัดภายใน 60 นาที 2 พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติตามขั้นตอนของแนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัย ได้แก่ แนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบบันทึกข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง และแบบสังเกตการใช้แนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ ระยะเวลาในการวิจัย ระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 – 31 มกราคม 2565  วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความปลอดภัยผู้ป่วยนำเสนอระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองโดยใช้สถิติ Independent t-test

           ผลการวิจัย : 1)ก่อนและหลังการใช้แนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ ผู้ป่วยเข้าห้องผ่าตัดภายใน 60 นาที เท่ากับ ร้อยละ 80 และร้อยละ 100 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ            P value < .05 2)ก่อนและหลังการใช้แนวปฏิบัติพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติตามขั้นตอนของแนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบโดยรวม มีค่าเฉลี่ย 0.75 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ .444 อยู่ในระดับ     ปานกลาง และ มีค่าเฉลี่ย 0.95 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ .302 อยู่ในระดับดี ตามลำดับ

             สรุป : จากผลการวิจัย พยาบาลวิชาชีพมีขั้นตอนประเมินผู้ป่วยแรกรับ และการให้การพยาบาลในทันที มีการประสานงาน ดีขึ้น สามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน สามารถตัดสินใจและเตรียมความพร้อมของผู้ป่วย และอุปกรณ์เครื่องมือ ส่งผลให้ผู้ป่วยบาดเจ็บ เข้าห้องผ่าตัดได้ทันเวลามากขึ้น