การศึกษาความต้องการและการได้รับการตอบสนองบริการตามความรับรู้ของญาติ หอผู้ป่วยหนักโรงพยาบาลกระบี่
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการและการได้รับการตอบสนองบริการตามความรับรู้ของญาติ หอผู้ป่วยหนักโรงพยาบาลกระบี่ โดยกลุ่มตัวอย่างเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เป็นญาติของผู้ป่วยที่เข้ารับการดูแลรักษาในหอผู้ป่วยหนักในระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2559 ถึง 30 มิถุนายน 2561 จำนวน 105 ราย ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้แบบสอบถามของมอลเตอร์และดาเลย์ (1979) จากการแปลและดัดแปลงโดย อุไรพร พงศ์พัฒนาวุฒิ (2553) และได้นำมาปรับค่าและข้อความในบางส่วนให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย เครื่องมือได้รับการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ และทดสอบความสอดคล้องภายในโดยการหาค่าสัมประสิทธ์ แอลฟาของครอนบาค มีค่าความเที่ยง 0.79 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณา และค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าไคสแควร์
ผลการวิจัย พบว่า ญาติมีความต้องการด้านข้อมูลอยู่ในระดับสูงสุด ( =3.60, S.D =0.61) รองลงมาคือ ต้องการอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย (
=3.58, S.D=0.63) และต้องการลดความวิตกกังวลในระดับถัดมา (
=3.55, S.D=0.59) เมื่อพิจารณาจากกลุ่มตัวอย่างที่จำแนกตามบทบาทความสัมพันธ์กับผู้ป่วย บิดามารดา คู่สมรส และบุตร มีความต้องการแต่ละด้านไม่เหมือนกัน โดยบิดามารดามีความต้องการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยอยู่ในระดับสูงสุด (
=3.55) คู่สมรสและบุตรมีความต้องการข้อมูลในระดับที่สูงสุด (
=3.68) สำหรับการได้รับการตอบสนองบริการตามความรับรู้ของญาติ บิดามารดาและบุตรได้รับในด้านการลดความวิตกกังวลในระดับที่สูงสุด (
= 3.34, S.D=0.65) รองลงมา คู่สมรสได้รับในด้านข้อมูล (
=3.24, S.D=0.75) บิดามารดา และคู่สมรสได้รับการตอบสนองบริการน้อยที่สุด ในด้านการให้กำลังใจและได้ระบายความรู้สึก (
=2.86, S.D=0.95) บุตรให้การได้รับการตอบสนองบริการน้อยที่สุดในด้านความต้องการส่วนบุคคล (
=2.85, S.D=0.91) ผู้วิจัยเสนอแนะว่าควรนำผลการศึกษานี้ไปจัดทำเป็นแนวทางการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของญาติ เพื่อช่วยให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้ให้กับผู้รับบริการ และช่วยเหลือให้ญาติและครอบครัวสามารถปรับตัว และดำเนินชีวิตท่ามกลางภาวะวิกฤตต่อไปได้
Article Details
บทความนิพนธ์ต้นฉบับจะต้องผ่านการพิจารณาโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญอย่างน้อย 2 ท่าน แบบผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แต่งไม่ทราบชื่อกันและกัน (double-blind review) และการตีพิมพ์บทความซ้ำต้องได้รับการอนุญาตจากกองบรรณาธิการเป็นลายลักษณ์อักษร
ลิขสิทธิ์
ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ เว้นว่าได้รับอนุญาตจากโรงพยาบาลเป็นลายลักษณ์อักษร
ความรับผิดชอบ
เนื้อหาต้นฉบับที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์