ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ยาสมุนไพรเพื่อลดอาการปวดข้อเข่าของผู้สูงอายุโรคข้อเข่าเสื่อม ในอำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์: การศึกษาแบบภาคตัดขวาง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ยาสมุนไพรเพื่อลดอาการปวดข้อเข่าในผู้สูงอายุโรคข้อเข่าเสื่อม ในอำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ กลุ่มตัวอย่างคือผู้สูงอายุ อายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม และมีประวัติการใช้ยาสมุนไพรเพื่อลดอาการปวดข้อเข่า จำนวน 260 คน โดยสุ่มตัวอย่างแบบเป็นระบบ เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงอนุมานด้วยวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวและถดถอยพหุคูณ
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นหญิง อายุ 60 – 69 ปี อาชีพเกษตรกรรม รายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 1,001–5,000 บาท การศึกษาระดับประถม ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม น้อยกว่า 1 ปี ปัจจัยด้านความรู้ ทัศนคติ การรับรู้ประโยชน์ และพฤติกรรมการใช้ยาสมุนไพรอยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 55.40, 62.70, 75.40 และ 75.40 ตามลำดับ ปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมอย่างมีนัยสำคัญ แต่ทัศนคติ (β = 0.43, p < 0.001) และการรับรู้ประโยชน์ (β = 0.29, p = 0.001) มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ยาสมุนไพร ร่วมกันอธิบายความแปรปรวนได้ร้อยละ 32.00
จากผลการศึกษา หน่วยงานสาธารณสุขควรส่งเสริมทัศนคติเชิงบวกและความตระหนักรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของสมุนไพร ควบคู่กับการเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้อง เพื่อสนับสนุนพฤติกรรมการใช้สมุนไพรอย่างปลอดภัยและเกิดประโยชน์สูงสุดในผู้สูงอายุ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
Journal of Safety and Health is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) licence, unless otherwise stated.
เอกสารอ้างอิง
กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2567). สถิติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2567. https://www.dop.go.th
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. (2560). แนวทางการใช้สมุนไพรเพื่อบรรเทาอาการปวด. กระทรวงสาธารณสุข.
กรมการแพทย์. (2565). คู่มือการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ. สถาบันเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ. กระทรวงสาธารณสุข.
กระทรวงสาธารณสุข. (2567). ระบบข้อมูลสุขภาพ (Health Data Center: HDC). https://hdcservice.moph.go.th/hdc/
จันทรรัตน์ จาริกสกุลชัย. (2565). พฤติกรรมการใช้สมุนไพรเพื่อบรรเทาอาการปวดข้อของผู้สูงอายุในจังหวัดพิษณุโลก [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ชวภณ พุ่มพงษ์ และ ทัศพร ชูศักดิ์. (2565). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ยาสมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุในตำบลทองเอน อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี. วารสารวิจัยและพัฒนาวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 17(2), 89-103.
ชิสาพัชร์ ชูทอง. (2563). พฤติกรรมการใช้ยาสมุนไพรเพื่อบรรเทาอาการปวดข้อของผู้สูงอายุในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง.
ทัศน์พงษ์ ตันติปัญจพร, เยาวลักษณ์ อยู่นิ่ม, ยุวดี ทองมี, และ อรวรรณ กีรติสิโรจน์. (2562). ผลของภาระงานคอมพิวเตอร์ต่ออาการผิดปกติของรยางค์ส่วนบน คอ และหลัง จากการทำงานในกลุ่มพนักงานสำนักงาน. ศรีนครินทร์เวชสาร, 34(1), 60–67.
ณัชชา ริ้วพิทักษ์. (2566). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการใช้ยาสมุนไพรเพื่อบรรเทาอาการปวดจากความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อและกระดูกโครงร่างของผู้สูงอายุในอำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยนเรศวร]. NU Intellectual Repository. https://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/bitstream/123456789/6138/3/NutchaRiwpitak.pdf
วัชราภรณ์ กุลวงศ์, สังคม ศุภรัตนกุล, และ พัชราภรณ์ ไชยศรี. (2561). ความรู้และพฤติกรรมการใช้ยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ของผู้สูงอายุ อำเภอทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี. วารสารการแพทย์ โรงพยาบาลอุดรธานี, 26(2), 99-107.
วิภา กลั่นสุวรรณ และ สุรศักดิ์ เสาแก้ว. (2560). ความปลอดภัยของการใช้ยาแคปซูลเถาวัลย์เปรียงเพื่อทดแทนยา diclofenac. วารสารเภสัชกรรมไทย, 9(2), 552–559.
อภิรุจน์ รุ่งเรือง. (2565). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ยาสมุนไพรบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อของเกษตรกร อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยนเรศวร]. NU Intellectual Repository. https://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/handle/123456789/5165
Best, J. W., & Kahn, J. V. (1997). Research in education (7th ed.). Allyn & Bacon.
Bloom, B. S., Hastings, J. T., & Madaus, G. F. (1971). Handbook on formative and summative evaluation of student learning. McGraw-Hill.
Cronbach, L. J. (1970). Essentials of psychological testing (3rd ed.). Harper & Row.
Hair, J. F., Black, W. C., Babin, B. J., & Anderson, R. E. (2010). Multivariate data analysis (7th ed.). Pearson Education Limited.
United Nations, Department of Economic and Social Affairs. (2022). World population prospects 2022: Summary of results. https://www.un.org
Yamane, T. (1973). Statistics: an introductory analysis (3rd ed.). Harper & Row.