ประสิทธิผลของโปรแกรมการสร้างเสริมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อ ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาในกลุ่มสตรีเปราะบางชาวมุสลิม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
คำสำคัญ:
โปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม, ไวรัสโคโรนา, สตรีเปราะบาง, มุสลิมบทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการสร้างเสริมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อความตระหนักรู้ ความรู้ และพฤติกรรมการป้องกันโรคไวรัสโคโรนาในกลุ่มสตรีเปราะบางชาวมุสลิม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี กลุ่มตัวอย่าง เป็นสตรีมุสลิมที่มีดัชนีมวลกายเกินเกณฑ์มาตรฐาน อายุ 18-59 ปี จำนวน 40 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ กลุ่มละ 20 คน เครื่องมือวิจัย ได้แก่ 1) โปรแกรมสร้างเสริมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสำหรับสตรีเปราะบาง ซึ่งประยุกต์ใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของโคล์บ ระยะเวลาดำเนินโปรแกรม 6 สัปดาห์ และ 2) แบบสอบถาม ประกอบด้วย 1) ข้อมูลทั่วไป 2) ความตระหนักรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 3) ความรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา และ 4) พฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด แบบสอบถามส่วนที่ 2-4 มีค่าความตรงเชิงเนื้อหา .89-1.00 และมีความเที่ยง เท่ากับ .78, .88 และ .92 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาและสถิติทดสอบที
ผลการวิจัยพบว่า 1) ก่อนและหลังเข้าร่วมโปรแกรมสตรีเปราะบางกลุ่มทดลองมีความตระหนักรู้และความรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ และแตกต่างกับกลุ่มเปรียบเทียบอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) หลังเข้าร่วมโปรแกรมกลุ่มทดลองมีพฤติกรรมในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และแตกต่างกับกลุ่มเปรียบเทียบอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Department of Disease Control, Ministry of Public Health. Statistics of COVID-19 patients. Retrieved From https://www.ddc.moph.go.th/index.php4. 2022.
Saengwattanaroj S. Risks of obese people and COVID-19. Faculty of Medicine. Chulalongkorn University. Retrieved from https://www.chula.ac.th/news/31. 2021. (in Thai)
Manochpitipong A. Obesity and diabetes increase Risk of severe symptoms from being infected with COVID-19. Retrieved from https://www.praram9.com/covid. 2021. (in Thai)
Thongngam S, Phumoon S, & Rattanarat R. Nursing care for COVID-19 patients in the solation ward Siriraj Hospital. Siriraj Medical Journal. 2020; 13(3), 222-31.
Kolb DA. Experiential learning: Experience as the source of learning and development. Englewood Cliffs, NY: Prentice Hall. Retrieved from http://www.learningfromexperience.com/images/uploads/process-of-experientiallearning.pd. 1984.
Polit DF, Beck CT. Nursing Research: Generating and Assessing Evidence for Nursing Practice. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins. 2012.
Duval TS, Wicklund RA. A theory of objective self-awareness. England: Academic Press. 1982.
Katanyutanon T, Thongsiri T, & Phichitchainarong A. Factors related to behavior to prevent COVID-19 disease. of health science students Huachiew Chalermprakiet University. Huachiew Chaloem Phrakiat. Science and Technology Journal. 2021; 9, 7(1), 15-17. (in Thai)
Chaleoykitti S, & Srisawad K. Nurses’s Role in Taking care of Pregnant women at risk of Coronavirus infection. Journal of the Police Nurse. 2020;12(1):210-21. (in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพยาบาลทหารบก

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.


