การตัดสินใจเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ของประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลบางปูใหม่ จังหวัดสมุทรปราการ
คำสำคัญ:
การตรวจคัดกรอง, การตัดสินใจ, มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการการตัดสินใจเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ ใหญ่และไส้ตรงและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 205 คน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถาม ได้ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.89 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติ ที่ใช้ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ที่ระดับนัยสำคัญ .01
ผลการวิจัยพบว่า 1.) การตัดสินใจเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง อยู่ในระดับสูง (M = 4.10, SD = 0.46) 2.) การรับรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง อยู่ในระดับสูง (M = 3.86,SD = 0.55) เจตคติเกี่ยวกับโรคมะเร็ง ลำไส้ใหญ่และไส้ตรง อยู่ในระดับสูง (M = 3.71,SD = 0.58) และ ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ พบว่า การรับรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง ลาไส้ใหญ่และไส้ตรง มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการตัดสินใจเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ระดับปานกลาง และเจตคติเกี่ยวกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการตัดสินใจเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง ลำไส้ใหญ่และไส้ตรงระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ผลการวิจัยนี้เสนอแนะว่าหน่วยงานในพื้นที่ควรนำผลการวิจัยที่ได้ไปจัดทำแผนเพิ่มพูนความรู้และหาแนวทางส่งเสริม พฤติกรรมการตรวจคัดกรองคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ของประชาชนตามกลุ่มเป้าหมาย อายุ 50-70 ปี ต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
National Cancer Institute. Colorectal cancer. Thailand :NationalCancer Institute; 2023.
Department of Medical Services Ministry of Public Health. Colon and rectal cancer.Thailand ; 2022.
Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital Mahidol University .Colon cancer. Mahidol University ; 2023. (in Thai)
Siriraj Piya Maharajkaroon Hospital. Colon cancer. Know it It can be prevented Mahidol University; 2023. (in Thai)
Medical and health data warehouse system Samut Prakan Province. Results of screening for colorectal cancer using the FIT test 2023. Samutprakarn Provincial Health Office ; 2023. (in Thai)
Petcharaphum C. Health belief model. Piyawatana Co., Ltd. ; 2023.
Khamha C, Sarakarn P.Multilevel structural equation model based on health belief pattern on intention to participate in cancer screening. Colon and rectum of people aged 45-74 years, Nam Phong District, Khon Kaen Province. Khon Kaen University Research Journal (Graduate Studies Edition), 20(2), 33-46. (in Thai)
Thammasat University. Concept of attitude. Thammasat University; 2023. (in Thai)
Phutachot N.Organizational behavior. 5nd ed. Bangkok : Chulalongkorn University Printing House;2019. (in Thai)
Krejcie RV. and Morgan DW. Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement 1970:30(3) : 607-10.
Regional Health Promotion Center 11. Calculate sample size. Krejcie&Morgan. Regional Health Promotion Center 11 Ministry of Public Health ; 2022. (in Thai)
Wongratana C.Techniques for using statistics for research. 2nd printing.Nonthaburi: Tai Neramitkit Inter Progressive. ; 2010 (in Thai)
Wiersma W & Jurs SG. Research Methods in Education. 9nd ed. Boston : Allyn-Bacon; 2019 14. Powwattana A, Kalampakorn S,Lagampan S, Rawiworrakul T. Health promotion and disease prevention in community: An application of concepts and theories to practice. Bangkok: m n compute offset;2018.(in Thai)
Suwimolrat R, Sopapan N, Watcharapon T, Wanpen S, Torranin K, Ananya L,Pitoon V. Factors Influencing Preventive Behaviors for Cerebrovascular Disease among Elderly Risk Group of Tertiary Hospital.Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2022; 23(3):176-86. (in Thai)
Sathorn B. Factors affecting the decision to undergo cancer screening. Breast of the female population In Bangkok province ; 2019 (in Thai)
Uthai U.Students’ attitudes towards teaching behavior. of teachers of Ramkhamhaeng University Demonstration School. Graduate School, Ramkhamhaeng University; 2012 (in Thai)
Kitiwipat L. Attitudes and opinions : PC 264. Bangkok : Ramkhamhaeng University; 2011. (in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารพยาบาลทหารบก
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.
