ความรอบรู้ด้านสุขภาพในการเลี้ยงดูเด็กวัยก่อนเรียนของผู้เลี้ยงดูหลัก และครูผู้ดูแลเด็ก ในเขตจังหวัดอุบลราชธานี

นาฎอนงค์ แฝงพงษ์; ประภัสสร   จันดี; ณัฐธิดา ปัญญาธนคุณ

ผู้แต่ง

นาฎอนงค์ แฝงพงษ์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ประภัสสร จันดี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ณัฐธิดา ปัญญาธนคุณ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

คำสำคัญ:

ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, เด็กวัยก่อนเรียน, ผู้เลี้ยงดูหลัก, ครูผู้ดูแลเด็ก

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลของผู้เลี้ยงดูหลัก และครูผู้ดูแลเด็ก กับความรอบรู้ด้านสุขภาพ และความรอบรู้ด้านสุขภาพกับภาวะโภชนาการ และพัฒนาการ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้เลี้ยงดูเด็ก และครูผู้ดูแลเด็กวัยก่อนเรียนที่ศูนย์ พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 384 คน สุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage sampling) เครื่องมือ เป็นแบบสอบถามความรอบรู้ด้านสุขภาพ ค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค (Cronbach’s Alpha Coefficient) เท่ากับ .76 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson’s Correlation Coefficient)
ผลการศึกษา พบว่า อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ของผู้เลี้ยงดูหลัก มีความสัมพันธ์กับความรอบรู้ด้านสุขภาพ (r = .244, p = .000, r = .128, p = .016, r = .129, p = .016, r = .108, p = .043 ตามลำดับ) และเพศไม่มีความสัมพันธ์กับ ความรอบรู้ด้านสุขภาพ (r = .-.018, p = .740) ปัจจัยส่วนบุคคลของครูผู้ดูแลเด็ก พบว่า ตำแหน่งมีความสัมพันธ์กับความรอบรู้ ด้านสุขภาพ (r = .513, p = .004) และอายุ วุฒิการศึกษา และประสบการณ์การทำงานไม่มีความสัมพันธ์กับความรอบรู้ด้านสุขภาพ (r = .183, p = .333, r = -.196, p = .298, r = .149, p = .432 ตามลำดับ) และความรอบรู้ด้านสุขภาพด้านการตรวจสอบ และตัดสินใจ และการสื่อสารระหว่างบุคคล มีความสัมพันธ์กับภาวะโภชนาการและพัฒนาการ (r = .169, p = .001, r = .126, p = .018 ตามลำดับ)
ผลการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า พยาบาลสามารถนำความรอบรู้ด้านสุขภาพ ด้านการตรวจสอบ การตัดสินใจ และการสื่อสาร มาพัฒนากระบวนการเรียนรู้ด้านโภชนาการให้กับผู้เลี้ยงดูหลัก และครูผู้ดูแลเด็กได้

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

Pengchan W. Health literacy. In the document health. Nonthaburi: Ministry of Public Health; 2017. (in Thai)

Suramitmaitree B. Health Literacy and Operation Situation Enhance the health intelligence of Thai people in order to support the ASEAN community.Bangkok: Ministry of Foreign Affairs. 2013. (in Thai)

Suwanwaha S, Ampansirirat A & Suwanwaiphatthana W. Factor Relatedto NutritionalStatus Among Preschool Aged Children: A Systematic Review. The Journal of Baromarajonani College of Nusing. 2019;25(2) : 8-24. (in Thai)

Tudsri P. Factors Associate with Nutritional Status among Pre – School Children in Muang District, Pathumtani Province. Journal of Nursing and Health Care. 2014;32(1) : 69-77. (in Thai)

Khunasa J, Koshakri R & Krainuwat K. Factors Related to Health Literacy among High Risk Diabetes Mellitus Population in Bangkok Community. Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2020; 21(3) : 109-20. (in Thai)

Ministry of Public Health: HDC. Standard report group-screening. public health office. 2022. (in Thai)

Manganello, J. A. Health literacy and adolescents: A framework and agenda for future research. Healthy Education Research, 2008 ; 23 (5) : 840-7.

Kitpreedaborisut B. Social sciences research methodology. Bangkok; Charoen phon public, 2008. (in Thai)

Sun, X., Shi, Y., Zeng, Q., Wang, Y., Du, W., & Wei, N. Determinants of health literacy and health behavior regarding infectious respiratory diseases: A pathway model. BMC Public Health, 2013; 13, 261.

Yongbing, L., Yanru, W., Fang, L., Yanli, C., Liu, L., Yanfei, L., Hua, Y., & Qingquan, C.The health literacy status and influencing actors of older population in Xinjiang. Iranian Journal of Public Health, 2015 ;44 (7) : 913-9.

AttharosT,Siricharoenwong K, & Pidjadee C. Experiences of parents and teachers for enhancing health literary of preschool children.Journal of Public Nurse, 2021;13 (1) : 199-207.