การศึกษาสมรรถนะการจัดการความขัดแย้งของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง จังหวัดสุรินทร์
คำสำคัญ:
สมรรถนะ, การจัดการความขัดแย้ง, พยาบาลวิชาชีพบทคัดย่อ
การวิจัยแบบผสมวิธีนี้เพื่อศึกษาสมรรถนะการจัดการความขัดแย้งและแนวทางการพัฒนาสมรรถนะการจัดการความขัดแย้ง ของพยาบาลวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่างได้จากการคัดเลือกแบบเจาะจง ได้แก่ 1) กลุ่มที่ตอบแบบทดสอบอัตนัยประยุกต์ เป็นพยาบาล วิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 18 คน และ 2) กลุ่มร่วมสนทนากลุ่มเป็นพยาบาลวิชาชีพ จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบสมรรถนะการจัดการความขัดแย้ง และแนวทางการสนทนากลุ่ม ผ่านการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือด้วยวิธีการหาความตรงเชิงเนื้อหามีค่าเท่ากับ 0.92 และหาค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือ มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.87
ผลการวิจัยพบว่า 1) พยาบาลวิชาชีพมีสมรรถนะการจัดการความขัดแย้งโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (M= 71.09, s.d. = 9.24) ตามกระบวนการจัดการความขัดแย้ง 4 ขั้นตอนตั้งแต่ วินิจฉัยความขัดแย้ง นิยามปัญหาความขัดแย้งในองค์กร พิจารณา ผลของความขัดแย้ง และกำหนดกลยุทธ์การแก้ไขความขัดแย้ง และ 2) แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการจัดการความขัดแย้ง มี 3 ด้าน คือ (1) ด้านบริบท ได้แก่ การบริหารจัดการในองค์กร การนำเทคโนโลยีมาใช้ และการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย (2) ด้าน ทักษะและศักยภาพ ได้แก่ การส่งเสริมบุคลากรมีความรู้และความสามารถในการจัดการความขัดแย้ง และการจัดกิจกรรมสร้างขวัญ และกำลังใจ และ (3) ด้านจิตวิทยาที่เน้นการสร้างแรงจูงใจ ได้แก่ การจัดกิจกรรมส่งเสริมสัมพันธภาพและการสื่อสารที่ดี การจัด กิจกรรมสร้างขวัญกำลังใจและการให้ค่าตอบแทนพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดการความขัดแย้ง
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Chaijaroenwatana B & Renumat M. Non-Violence and Conflict Management by Non-Violence. Journal of MCU Peace Studies, 2017; 5(2): 1-16. (in Thai).
Nertprasertkul V. The Development of Competency Scale for NursesMentors in Vajira Hospital. Journal of The Royal Thai Army Nurses, 2021; 22(3): 313-21. (in Thai).
Klongchuengsan P. The Administrator’s competency and conflict management of school under Nakhon Pathom primary education service area office1. Journal of Educational Administration, Silpakorn University. 2018; 5(1): 57-66. (in Thai).
Noppakun S. The Development of The Conflict Management Model of Nursing Personnel in Phayamengrai Hospital, Chiang Rai Province. Journal of Kasalongkham Research, 2017: 55-62. (in Thai).
Conflict Risk Report. Risk report register of Nonnarai Hospital, Surin. 2020. (in Thai)
Lertpunjasub P. Conflict Analysis and Management among Registered Nurses in Admission System at The Hospital A. Journal of Social Sciences and Humanities Research. 2017; 43(2): 47-63 (in Thai).
Human resource development report. Human resource report of Nonnarai Hospital, Surin. 2020. (in Thai)
Anderson, C.C. Management: Skills, functions and organizational performance. Boston: Allyn and Bacon. 1988.
Rahim, M. A. Toward a theory of managing organizational conflict. International Journal of Conflict Management, 2002; 13, pp. 206-35.
Naowanit W. Conflict Management of the Basic Education Schools under the Secondary Educational Service Area Office 2 [Thesis]. Dhurakij Pundit University; 2020. (in Thai).
Visitsorasak K. Conflict Management in Community Development, Journal of Silpakorn University, 2017;13,: 1687-700 (in Thai)
Suthamdee C. Conceptual Framework of Human Resource Development of an Organization in the 21st Century, Journal of Yala Rajabhat University, 2017;12: 168-84. (in Thai).
McClelland, D.C. Testing for Competence rather than for Intelligence USA: American Psychologist. 1973.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารพยาบาลทหารบก
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.
