การพัฒนากลยุทธ์การปรับเปลี่ยนการพัฒนากลยุทธ์การปรับเปลี่ยนเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการทำงาน ของนักกายภาพบำบัดยุคใหม่โรงพยาบาลเอกชนเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการทำงาน ของนักกายภาพบำบัดยุคใหม่ในโรงพยาบาลเอกชน
คำสำคัญ:
กลยุทธ์การปรับเปลี่ยน, ศักยภาพในการทำงาน, นักกายภาพบำบัดยุคใหม่บทคัดย่อ
การพัฒนากลยุทธ์การปรับเปลี่ยนเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการทำงานของนักกายภาพบำบัดยุคใหม่ในโรงพยาบาล เอกชน มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาศักยภาพในการทำงานของนักกายภาพบำบัดยุคใหม่ 2) เพื่อพัฒนากลยุทธ์การปรับเปลี่ยน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการทำงานของนักกายภาพบำบัดยุคใหม่ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้กลยุทธ์การปรับเปลี่ยนเพื่อเสริมสร้าง ศักยภาพในการทำงานของนักกายภาพบำบัดยุคใหม่ และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักกายภาพบำบัดกลุ่มทดลองและบุคคล สำคัญที่เกี่ยวข้องที่มีต่อกลยุทธ์การปรับเปลี่ยนในการเสริมสร้างศักยภาพในการทำงานของนักกายภาพบำบัดยุคใหม่โดยใช้การ สนทนากลุ่มเฉพาะโดยใช้โมเดลกลยุทธ์การปรับเปลี่ยน ที่ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ ขั้นการรับรู้ข้อมูล ขั้นการวิเคราะห์ข้อมูล ขั้นการวางแผน ขั้นการลงมือปฏิบัติ และขั้นการประเมินและปรับปรุงแก้ไข เพื่อเสริมสร้างศักยภาพนักกายภาพบำบัดยุคใหม่ โดยมุ่งเน้นศักยภาพด้านความรู้ทางวิชาชีพ ศักยภาพด้านความฉลาดรู้ด้านสารสนเทศ ศักยภาพด้านการคิดปรับมุมมองอย่างยืดหยุ่น เพื่อแก้ปัญหาในการทำงาน ศักยภาพการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจ และศักยภาพด้านการคิดเชิงนวัตกรรม โดยใช้การดำเนินการ ตามกลยุทธ์การปรับเปลี่ยนที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นจากแนวคิดทางจิตวิทยา 3 แนวคิด ได้แก่ แนวคิดการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง การประมวลสารสนเทศ และกลยุทธ์การรู้คิด ผลการวิจัยพบว่ากลยุทธ์การปรับเปลี่ยนสามารถเสริมสร้างศักยภาพในการทำงาน ของนักกายภาพบำบัดยุคใหม่ให้สูงขึ้นได้ภายหลังการทดลองและสูงขึ้นต่อเนื่องในระยะติดตามผล
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Neufeldt AH, Mathieson R. Empirical Dimensions of Discrimination Against Disabled People. Health Hum Rights. 1995;1(2) : 174-89.
Metheesuwapab S. and Wijitwanna S. Human resource Potentialities in Organization: Evaluation and Development. Siam academic review. 2019;0(2) : 1-10. (in Thai)
Duangjai P. Team Based Learning: Learning Strategy in Nursing Education toward the Development of the Twenty-First Century Learning Skill. Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2022;23(1) : 23-32. (in Thai)
Inchaithep S. Transformative Learning: A Nursing learning management in clinics. Journal of Health Sciences Scholarship. 2019;6(1) : 1-10. (in Thai)
Practice of the Physical Therapy. Ratchakitjanubeksa book 121; 2004: 52-70.
Nualnetr N. Physical Therapists and Primary Health Care Services. The Thai Journal of Primary Care and Family Medicine. 2009;1(1) : 43-6. (in Thai)
Watthanabut B. Human Capital Potential Development In 21st Century. Dhammathas Academic Journal. 2016;16(3) : 163-76. (in Thai)
Mezirow J. Learning as transformation: Critical perspectives on a theory in progress. San Francisco, CA: The Jossey-Bass higher and adult education series; 2000.
Klausmeier. H. J. Educational psychology. 5thed. New York: Harper & Row; 1985.
Creswell J.W. Research Design Qualitative, Quantitative and Mixed Methods Approaches. 2thed. Thousand Oaks, CA: Sage; 2003.
Jose J. Canas, Inmaculada F. and Ladialao S. Cognitive flexibility. Spain: University of Granada; 2015.
Marquardt, M. J. Action learning in action: Transforming problems and people for world-class organizational learning. Palo Alto, Calif: Davies-Black; 1999.
Prajankett O. An educational innovative organization: A new choice of educational Administration. Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2014;15(1) : 45-51. (in Thai)
Akkadechanunt T. Nurses’ Competency and Public Healthcare Innovations in Thailand 4.0 Era. Journal of Thailand Nursing and Midwifery Council. 2019;34(1) : 5-13. (in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารพยาบาลทหารบก

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.


