ผลของโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพเด็กก่อนวัยเรียนที่มีภาวะผอมต่อ พฤติกรรมการเลี้ยงดูเด็กด้านโภชนาการของผู้ดูแล
คำสำคัญ:
ภาวะโภชนาการ, เด็กก่อนวัยเรียน, พฤติกรรมการเลี้ยงดูเด็กด้านโภชนาการ, ผู้ดูแลบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบสองกลุ่มวัดสองครั้งก่อนและหลังการทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของ โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพเด็กก่อนวัยเรียนที่มีภาวะผอมต่อพฤติกรรมการเลี้ยงดูเด็กด้านโภชนาการของผู้ดูแล กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ดูแล เด็กก่อนวัยเรียนที่เด็กมีภาวะผอม มีอายุระหว่าง 20-59 ปี มีบทบาทหน้าที่หลักในการจัดหาอาหารแก่เด็ก จำนวน 76 คน แบ่งเป็น กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 38 คน กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพเด็กก่อนวัยเรียนที่มีภาวะผอมโดยประยุกต์ ใช้แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ ซึ่งประกอบด้วย 7 กิจกรรม กิจกรรมละ 120 นาที ติดต่อกัน 10 สัปดาห์ และกลุ่มควบคุมได้รับ การดูแลปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพเด็กก่อนวัยเรียนที่มีภาวะผอม และแบบสอบถามพฤติกรรมการ เลี้ยงดูเด็กด้านโภชนาการของผู้ดูแล มีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของครอนบาคเท่ากับ .82 สถิติทดสอบค่าที (t-test) ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูลและทดสอบสมมติฐาน ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้ คือ
1) ค่าเฉลี่ยคะแนนพฤติกรรมการเลี้ยงดูเด็กด้านโภชนาการของกลุ่มทดลองที่ได้รับโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพเด็กก่อน วัยเรียนที่มีภาวะผอมภายหลังการทดลอง (x̅ = 90.71, SD. = 8.29) สูงกว่าก่อนการทดลอง (x̅ = 66.24, SD. = 5.81) อย่างมีนัย สำคัญทางสถิติ (t = 15.50, p < .05)
2) ค่าเฉลี่ยของคะแนนพฤติกรรมการเลี้ยงดูเด็กด้านโภชนาการของผู้ดูแลหลังการทดลอง (x̅ = 90.71, SD. = 8.29) ของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม (x̅ = 79.42, SD. = 6.62) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 7.48, p < .05)
ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพเด็กก่อนวัยเรียนที่มีภาวะผอมเพิ่มพฤติกรรมการเลี้ยงดูเด็ก ด้านโภชนาการของผู้ดูแลได้อย่างมีประสิทธิผล
Downloads
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Child growth standards and the identification of severe malnutrition in infants and children. World Health Organization Geneva Switzerland; 2015.
Unicef, WHO, The World Bank group. Level and Trend in Child Malnutrition. Geneva Switzerland: World Health Organization; 2015.
The National Statistical Office. Monitoring the situation of children and women. Nonthaburi: National Office of Buddhism; 2019. (in Thai)
Venables PH, Raine AL. Poor Nutrition at Age 3 and Schizotypal Personality at Age 23: The Mediating Role of Age 11 Cognitive Functioning. American Journal of Psychiatry. 2012;169(8): 822-30.
Anonjarn K, Odomporn O. The Influence of Health Literacy with Consumption and Exercise Behavior among School-age Children with Overnutrition. Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2021; 22(2): 314-26. (in Thai)
Singhasame P, Suwanwaha S, Sarakshetrin A. Nutritional Promotion in Pre-School Children. The Southern College Network Journal of Nursing and Public Health.2017; 4(3) : 226-35. (in Thai)
Sirinam W. Factors influencing nutritional status of Children development centers in Banklang Subdistrict Municipality Sanpatong District, Chiang Mai Province. (thesis). Chaingmai: Ratchaphat Chaingmai University; 2019. (in Thai)
Becker, M.H. The health belief model and personal health behavior. New Jersy: Charls B. Slack; 1974.
Cohen J. Statistical power analysis for the behavioral sciences. 2nd ed. New York. Lawrence Erlbaum Associates; 1988.
Thienphuridej T. A comparative study of Parental factors between thin and normal pre-school children in Warinchamrap District, Ubonratchathani Province. Journal of nursing and health. 2019; 44(3) : 84-95. (In Thai)
Saeyang C, Yunak R, Oba N. Effect of applied health belief model on caregiver, s providing behavior and body weight among underweight early children in Hmong, Journal of nursing and health sciences, 2014;8(1) : 120-29. (In Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารพยาบาลทหารบก
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.
