การดูแลต่อเนื่องและการประสานงานในชุมชนของการเจ็บป่วยเรื้อรัง โดยใช้แนวคิดบูรณาการในการให้บริการด้านสุขภาพ ขององค์การอนามัยโลกในประเทศไทยและอินโดนีเซีย
คำสำคัญ:
การดูแลต่อเนื่องและประสานงาน, โรคเรื้อรัง, แนวคิดบูรณาการในการให้บริการด้านสุขภาพขององค์การอนามัยโลกบทคัดย่อ
การวิจัยแบบผสมผสานเพื่อสำรวจการดูแลอย่างต่อเนื่องและประสานงานในชุมชนสำหรับการเจ็บป่วยเรื้อรังโดยใช้แนวคิด ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เกี่ยวกับบริการด้านการรักษาผู้ป่วยแบบเป็นศูนย์กลางและเพื่อกระตุ้นชุมชนให้เข้มแข็งเพื่อความยั่งยืน ความสมดุลของการดูแลต่อเนื่อง และการประสานการดูแล กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยโรคเรื้อรังและบุคลากรทางการแพทย์รวม 160 คน มาจากประเทศไทยและอินโดนิเซียอย่างละ 80 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้เข้าร่วมวิจัยที่มีการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังจำนวน 50 คน และ 30 คน เป็นตัวแทนของผู้ให้บริการด้านสุขภาพในชุมชน การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเริ่มต้นด้วยข้อมูลเชิงปริมาณ จากนั้นจึงค่อยเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพในระยะที่สอง แบบสอบถามสำหรับผู้ป่วยและผู้ให้บริการด้านสุขภาพได้ผ่านผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน และผ่านการแปลย้อนกลับทางภาษา ได้ค่าความตรงทางเนื้อหา .96 และค่าความเชื่อมั่นของฉบับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ ที่ 98, .87 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ในการวิจัยเชิงปริมาณเป็นสถิติเชิงพรรณา และข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นการวิเคราะห์เนื้อหาวิเคราะห์ เนื้อหาของข้อมูลที่เก็บรวบรวม ผลการวิจัยเชิงปริมาณพบว่า การดูแลต่อเนื่องของไทยและอินโดนิเซียตามลำดับดังนี้ 1) การรักษา พยาบาลเบื้องต้นมีค่าเฉลี่ย 3.82 ± .74 vs. 4.15 ± .83, 2) การทำงานร่วมกันในการดูแลและแบ่งปัน 3.84 ± .79 และ 4.25 ±.75 3) การจัดการกรณีที่มีความต้องการที่ซับซ้อนมีค่าเฉลี่ยที่ 3.83 ± .75 และ 4.21 ± .74 4) การบริการการเข้าถึงแบบรวมกลุ่มได้รับ ค่าเฉลี่ยที่ 3.67±.87 และ 4.23±.74 5) การดูแลในระยะเปลี่ยนผ่านค่าเฉลี่ยที่ 3.66 ±1.48 และ 4.16 ± .73 6) การดูแลแบบ ครบวงจรตลอดเส้นทางค่าฌลี่ยที่3.78 ± .78 และ 4.20 ± .78 7) เทคโนโลยีด้านความต่อเนื่อง และการประสานงานของการดูแล ค่าเฉลี่ยที่ 3.54 ± .86 vs. 4.24 ± .74, 8) ขีดความสามารถด้านกำลังคน ค่าเฉลี่ยที่ 3.76 ± .84 vs. 4.24 ± .74 ผลเชิงคุณภาพ พบว่า การดูแลชุมชนเข้มแข็งเพื่อความยั่งยืนและสมดุลของการต่อเนื่องและการประสานงานนั้นพบว่าควรมีระบบการดูแลที่ดี มีการจัดจากบนลงล่างและจากล่างขึ้นบน มีอาสาสมัครด้านสุขภาพที่มีจิตวิญญาณในการทำงานที่สูง และงบประมาณเพื่อสนับสนุน ระบบจะทำให้มีความเข้มแข็งในชุมชนยิ่งขึ้น
สรุปได้ว่าการดูแลต่อเนื่องและประสานงานในชุมชนควรมีระบบที่ดี องค์กรที่ดี การสนับสนุนทางการเงิน จิตวิญญาณ ของผู้ให้บริการด้านสุขภาพ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ข้อมูลสนับสนุนการดูแลจะเพิ่มโปรแกรมการดูแลที่ยั่งยืนสำหรับผู้ป่วย ความพึงพอใจและความเป็นอยู่ที่ดี นอกจากนี้ แนวคิดของบริการสุขภาพแบบบูรณาการขององค์การอนามัยโลกจะชี้นำผู้ให้บริการ ด้านสุขภาพให้ตระหนักเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนในชุมชน
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Ruan Y, Chen W, Zhuang C, & Lin H. HealthRelated Perceptions of Older Adults/Patients with Degenerative Lumbar Diseases (ODLs) are associated with their Quality of Life: a Mixed-Methods Study. 2021.DOI: 10.2147/PPA. S328532. PMID: 34675494; PMCID: PMC8518139.
Bauer UE, Briss PA, Goodman RA, & Bowman BA. Prevention of chronic disease in the 21st century: elimination of the leading preventable causes of premature death and disability in the USA. Lancet.2014; 5:384(9937):45-52. DOI: 10.1016/S0140- 6736(14)60648-6.
Polis S & Fernandez R. JBI. Database System Rev Implement Rep. 2015;13(1):39-51.
Pankong , O., Khrabiad, S., Amphawa, K., & Sangsee, P. Effectiveness of Care in Older Adults with Chronic Illness by Community Participation. Journal of Health and Nursing Research .2020;36(3): 94-104.
WHO & UNICEF. A vision for primary health care in the 21st century: towards universal health coverage and the Sustainable Development Goals. Geneva: World Health Organization.2018.
WHO, UNICEF. Integrated community case management. An equity-focused strategy to improve access to essential treatment services for children. New York City (NY): United Nations Children’s Fund.2012.
Daniel WW & Chad L.Cross. Biostatistics: A Foundation for Analysis in the Health Sciences. 10th edition.2013;189-192. New York: John Wiley & Sons.
WHO. Framework on integrated, people-centered health services. Report by the Secretariat (document A69/39). In: Sixty-ninth World Health Assembly, Geneva.2018.
Piseth N. & Charungkaittikul S. Proposed strategies to strengthen community participation in community learning centers in The Kingdom of Cambodia. Humanities, Arts and Social Sciences Studies (HASSS).2021; 21, (3):436-446.
World Health Organization. Noncommunicable Diseases Progress Monitor.2015. ISBN: 978 92 4 150945 9
Artsanthia J.& Pomthong R. Nurses’role: Case study of psychological care for Caregivers of Patients with Terminal Illness. Journal of the Royal Thai Army Nurses. 2018; 19 (1) :1-8. (in Thai).
Ursula E B, Peter A B, & Richard A G. Prevention of chronic disease in the 21st century: elimination of the leading preventable causes of premature death and disability in the USA.2014. DOI:https://doi.org/10.1016/S0140- 6736(14)60648-6
Parmar J, Jacqueline T, P, Lesley C., Karenn C., Peter G, J.T. Supporting Family Caregivers of Seniors within Acute and Continuing Care Systems. Canadian Geriatrics journal.2018; 21(4):292-296.
Artsanthia J. Palliative Care in community with the Buddhism traditions. Journal of the Royal Thai Army Nurses. 2013; 14 (1) :123-27. (in Thai).
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารพยาบาลทหารบก

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.


