ประสิทธิผลของโปรแกรมการพัฒนาพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันการเกิดโรคโควิด-19 ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดปทุมธานี
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการดูแลตนเอง, โปรแกรมความเชื่อด้านสุขภาพ, การป้องกันโรคโควิด-19, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นงานวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมการพัฒนาพฤติกรรมการดูแล ตนเองเพื่อป้องกันการเกิดโรคโควิด -19 ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดปทุมธานี กลุ่มตัวอย่างเป็นอาสาสมัคร สาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จำนวน 54 คน โดยเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม อย่างละ 27 คน ใช้เวลา 5 สัปดาห์ เก็บข้อมูล ระหว่างเดือน กรกฎาคม ถึงกันยายน 2563 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนบุคคล โปรแกรมความเชื่อด้านสุขภาพ แบบสอบถามความเชื่อด้านสุขภาพ และแบบสอบถามพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคโควิด - 19 ตรวจสอบความตรงตาม เนื้อหา มีค่าเท่ากับ 1.00, 0.90 และ 1.00 ตามลำดับ และตรวจสอบความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งสองชุดมีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่า ของครอนบาค เท่ากับ 0.89, และ 0.82 ตามลำดับ ข้อมูลข้อมูลทั่วไปโดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน และวิเคราะห์เปรียบเทียบด้วยสถิติเชิงอนุมานด้วยการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับโปรแกรมความเชื่อด้านสุขภาพมีพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกัน โรคโควิด-19 สูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05 และ 2) กลุ่มตัวอย่าง ที่ได้รับโปรแกรมความเชื่อ ด้านสุขภาพมีพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 สูงกว่ากลุ่มที่ได้รับการดูแลตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Eurosurveillance Editorial Team. Note from the editors: World Health Organization declares novel coronavirus (2019-nCoV) sixth public health emergency of international concern. Eurosurveillance 2020; 25(5): 200131e.
Teeraporn S, Silima L, Attaya A, Uraiporn J. Driving The Operation of the Nurse Collaboration Center in COVID-19 Outbreak. Journal of The Royal Thai Army Nurses 2021; 22(1): 83-91. (in Thai)
Department of Disease Control, Ministry of Public Health. The daily report of COVID-19 outbreak situation. Nonthaburi, Thailand: Author; 2020. (in Thai)
Ballestero MFM, de Oliveira RS. The covid-19 outbreak and pediatric neurosurgery guidelines. Archives of Pediatric Neurosurgery 2020; 2(1): 53-4.
Fisher D, Heymann D. Q & A: The novel coronavirus outbreak causing COVID-19. BMC medicine 2020; 18(1): 1-3.
Ganyani T, Kremer C, Chen D, Torneri A, Faes C, Wallinga J, Hens N. Estimating the generation interval for COVID-19 based on symptom onset data. medRxiv 2020.
Suraiya M, Sopon I, Sumonmal U. Coronavirus Disease-19 (COVID-19). Journal of Bamrasnaradura Infectious Diseases Institute 2020; 14(2): 124-133. (in Thai)
Weha K, Rukchanok K. The need to improve of Health Volunteer’s ability in Home Visit for Diabetes People in Communities. Journal of The Royal Thai Army Nurses 2015; 16(2): 59-68. (in Thai)
Department of Health Service Support. Handbook of the new era. Bangkok: Agricultural Cooperatives Association of Thailand. 2011. (in Thai)
Kittiporn N, Noppcha S, Navaporn D. Correlation of perception disease severity to implementationrole for control of COVID-19 in communities among village health volunteers in Thailand. Journal of Bamrasnaradura Infectious Diseases Institute 2020; 14(2): 92-103. (in Thai)
Becker, M.H. The Health Belief Model and Preventive Health Behavior.Health Education. Monographs. 2,4 winter 1974; 354-385.
Burns N, Grove, SK. The practice of nursing research: Conduct, critique, & utilization (5th ed.) Philadelphia: W.B. Saunders, 2005.
Carpenter, C. J. (2010). A meta-analysis of the effectiveness of health belief model variables in predictingbehavior. Health Communication. 25(8). 661–669.
Narumon W, Rachanon N. An Effect of Competencies Development on Virus Zika Prevention and Control Among Village Health Volunteers of Community Medical Unit, Muang District, Nakhon Ratchasima Province. DPC 9 J 2019; 25(3): 24-33. (in Thai)
Kirananan S, Somsaowanuch C. Effects of A Self–Efficacy Promoting Program on Caringfor Pre-Hypertension Group among Community Health Volunteers. Journal of The Royal Thai Army Nurses 2020; 21(2): 102-110. (in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.
