ผลของโปรแกรมการบำบัดความคิดและพฤติกรรม ต่อพฤติกรรมก้าวร้าวของวัยรุ่นที่กระทำความผิด ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
คำสำคัญ:
พฤติกรรมก้าวร้าว, วัยรุ่นที่กระทำความผิด, โปรแกรมการบำบัดความคิดและพฤติกรรมบทคัดย่อ
พฤติกรรมก้าวร้าวของวัยรุ่นที่กระทำความผิดในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เกิดจากความคิดอัตโนมัติทาง ด้านลบที่บิดเบือนไปจากความจริง หรือความคิดที่ไม่สมเหตุสมผล การช่วยเหลือ เพื่อลดพฤติกรรมก้าวร้าวของวัยรุ่นกลุ่มนี้เป็นสิ่ง ที่สำคัญ การวิจัยแบบสองกลุ่มนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการบำบัดความคิดและพฤติกรรมต่อพฤติกรรมก้าวร้าว ของวัยรุ่นที่กระทำความผิดในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กลุ่มตัวอย่างเป็นวัยรุ่นที่กระทำความผิดในสถานพินิจและ คุ้มครองเด็กและเยาวชน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพศชาย อายุ 15-18 ปี จำนวน 66 คน สุ่มเข้ากลุ่มทดลอง และ กลุ่มควบคุมกลุ่มละ 33 คน โดยกลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามแบบแผนของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ส่วนกลุ่ม ทดลองได้รับโปรแกรมการบำบัดความคิดและพฤติกรรม 8 กิจกรรม ติดต่อกัน 6 สัปดาห์ ๆ ละ 1 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 และครั้งที่ 6 ครั้งละ 2 กิจกรรม ๆ ละ 120 นาที ครั้งที่ 2-5 ครั้งละ 1 กิจกรรม ๆ ละ 90 นาที ร่วมกับการดูแลตามแบบแผนของสถานพินิจและ คุ้มครองเด็กและเยาวชน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล 2) โปรแกรมการบำบัดความคิดและ พฤติกรรม และ3) แบบสอบถามพฤติกรรมก้าวร้าว โดยวัดผลก่อนและหลังการทดลองสิ้นสุดทันที วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลโดยใช้ สถิติเชิงพรรณนา เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนพฤติกรรมก้าวร้าวของวัยรุ่นที่กระทำความผิด ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและ เยาวชน ในกลุ่มทดลองก่อนและหลังการทดลอง ด้วยสถิติทีชนิดไม่เป็นอิสระต่อกัน และเปรียบเทียบผลต่างของค่าเฉลี่ยคะแนน พฤติกรรมก้าวร้าวก่อนและหลังการทดลอง ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม ด้วยสถิติทีชนิดที่เป็นอิสระต่อกัน
ผลการวิจัยพบว่า วัยรุ่นที่กระทำความผิดในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกลุ่มทดลอง มีค่าเฉลี่ยคะแนน พฤติกรรมก้าวร้าวหลังการทดลอง (M = 32.81, SD = 5.61) ต่ำกว่าก่อนการทดลอง (M = 41.61, SD = 8.47) อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ (t = 10.46, p<.001) และผลต่างของค่าเฉลี่ยคะแนนพฤติกรรมก้าวร้าวของวัยรุ่นที่กระทำความผิดในสถานพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยาวชน ระหว่างก่อนและหลังการทดลองของกลุ่มทดลอง ( = 8.81, SD = 4.69) มากกว่ากลุ่มควบคุม (
= 2.27, SD = 1.07) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 7.80, p<.05) สรุปได้ว่า โปรแกรมการบำบัดความคิดและพฤติกรรมสามารถลดพฤติกรรมก้าวร้าวของวัยรุ่นที่กระทำความผิด ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนลงได้ ควรขยายผลเพื่อศึกษาเพิ่มเติมในวัยรุ่นกลุ่มอื่น ๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับ กลุ่มตัวอย่างต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Santrock JW. Educational psychology. 5th ed. New York: McGraw-Hill; 2011.
Kumlerd S, Haenjohn J, Supwirapakorn W. Development of problem solving training program based on acceptace and commitment therapy in adolescents and young adults with amphetamine addiction. J Roral Thai Army Nurses. 2019; 20(1): 181–187. (in Thai)
Intraprasert S. The relationship between media influence and violent behavior of child and youth in Bangkok. SDU+Res J. 2014; 10(3): 17–36. (in Thai)
Kaewkaewpan W. Family relationships with problem of delinquency in adolescence. Veridian E-Journal, Silapakorn University. 2017. (in Thai)
Information technology center. Annual report 2018: case statistics. Bangkok: Department of juvenile observation and protection; 2018. (in Thai)
Nuampet U, Phanitrat R, Yutthatri P, Sitthiruk N. Relationships among negative life events, rumination, learned resourcefulness and psychiatric problems in juveniles with substance abuse in incarceration [dissertation]. Nakhornpathom: Mahidol Univertsity; 2011. (in Thai)
Wachirapraditporn O. Factors of juvenile delinquency and proactive remedial measures. Bangkok: Court of justice Thailand; 2012. (in Thai)
Seatang J, Yoelao D, Sringernyuang L, Padthaisong S. Anger in correctional context: An insider’s view. J Behav Sci. 2016; 22(1): 87–108. (in Thai)
Meepien D, Iamsupasit S. Suttiwan P. Effects of self-control training to reduce aggressive behaviors of female adolescent offenders in Ban Pranee juvenile vocational training center. Journal of Health Research. 2010; 24(1): 35-38. (in Thai)
Nayai U, Srisook W. The development of spiritual health activity model for children and youth in the juvenile observation and protection center of Pattani province [dissertation]. Songkla: Songkla University; 2017. (in Thai)
Meesuaisint M, Pathumcharoenwattana W, Boonprakob P. Development of a transformative learning process for enhancing authentic self-esteem of male violent juvenile del inquents [dissertat ion]. Bangkok: Chulalongkorn University; 2015. (in Thai)
Beck J.S. Cognitive behavior therapy: Basics and beyond. 2nd ed. New York: The Guilford Press; 2011.
Smeets K.C, Leeijen A.A.M, van der Molen M.J, Scheepers F.E, Buitelaar J.K, Rommelse N.N.J. Treatment moderators of cognitive behavior therapy to reduce aggressive behavior: a meta-analysis. Eur Child Adolesc Psychiatry. 2015; 24(3): 255–64.
Hoogsteder L.M, Stams G.J.J.M, Figge M.A, Changoe K, van Horn J.E, Hendriks J, et al. A meta-analysis of the effectiveness of individually oriented cognitive behavioral treatment (CBT) for severe aggressive behavior in adolescents. J Forensic Psychiatry Psychol. 2015; 26(1): 22–37.
Beck R, Fernandez E. Cognitive-behavioral therapy in the treatment of anger: a meta-analysis. Cognit Ther Res. 1998; 22(1): 63–74.
Payamongkon T, Worawutbuddhapongs P, Tapunya P. Effect of training program based on cognitive behavioral therapy on automatic negative thought and aggressive behavior of mathayom suksa 1 students [dissertation]. Chiangmai: Chiangmai University; 2009. (in Thai)
Sookasem T, Panyo U, Sukapanpotharam C, Hantrakul D. Relationship between child rearing practices, peer’s behavior, media, and aggressive behavior of secondary school students in Chiangmai province [dissertation]. Chiangmai: Chiangmai University; 2001. (in Thai)
Panliaw P, Soonthornchaiya R, Vuthiarpa S. The effects of a cognitive behavior therapy program on the aggressive behaviors among patients with amphetamine dependence. J Royal Thai Army Nurses. 2017; 18 Suppl 1: 207–214. (in Thai)
Westbrook, D., Kennerley, H. Kirk J. An introduction to cognitive behaviour therapy: skills and applications. London: Sage; 2007.
Parekitthammachai V. The effects of behavior modification to reduce aggressive behavior of adolescents at risk [dissertation]. Bangkok: Srinakharinwirot University; 2012. (in Thai)
Rabiab K, Lueboonthavachaail O, Thato R. The effect of muscle relaxation and anger control training program on aggressive behaviors in schizophrenic patients. J Psyhiatric Nurs Ment Heal. 2013; 27(2): 69–84. (in Thai)
Phuipha T. Bunthumporn N. Vuthiarpa S. The effect of a life-skill training program on the depressive symptoms of senior high school students. J Royal Thai Army Nurses. 2018; 19 Suppl: 89–98. (in Thai)
Kongsuwan V, Chanchong W. The effects ofviolence management skills training program for core-team high school youths in preventing aggressive behaviors. Songklanakarin J Soc Sci Humanit. 2014; 20(4): 73–105. (in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.
