ผลของการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองต่อการรับรู้ความสามารถตนเองของนักศึกษาพยาบาลต่อการดูแลผู้ป่วยภาวะช็อกจากการติดเชื้อ
คำสำคัญ:
สถานการณ์จำลอง, การรับรู้ความสามารถตนเอง, นักศึกษาพยาบาล, การดูแล, ภาวะช็อกจากการติดเชื้อบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองโดยใช้กลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียววัดก่อนหลังการทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ผลของการเรียนโดยใช้สถานการณ์จำลองต่อการรับรู้ความสามารถตนเองของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2560 ที่เรียนวิชาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ 3 จำนวน 113 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) สถานการณ์จำลอง เรื่องการพยาบาลผู้ป่วยภาวะช็อกจากการติดเชื้อ 2) หุ่นจำลองขั้นสูง และ 3) แบบสอบถามการรับรู้ความสามารถของตนเองของ นักศึกษาพยาบาลต่อการดูแลผู้ป่วยภาวะช็อกจากการติดเชื้อ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน และการทดสอบที (Paired t-test)
ผลการศึกษาพบว่า หลังการเรียนรู้โดยสถานการณ์จำลองนักศึกษามีคะแนนการรับรู้ความสามารถตนเองในการดูแล ผู้ป่วยช็อกจากการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 39.016 (SD = 5.67) และคะแนนหลังการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองเท่ากับ 52.06 (SD = 4.73) การศึกษาครั้งนี้สรุปได้ว่า การใช้สถานการณ์จำลองช่วยส่งเสริมการรับรู้ความสามารถตนเองของนักศึกษาพยาบาลทำให้ มีความมั่นใจและสามารถให้การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะช็อกจากการติดเชื้อ
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Panich V. Way to create learning for students in the 21st century. Bangkok: Tatata Public Limited; 2012. (in Thai)
Punmalee P, Seekhao O. The results of teaching and learning using case studies on development The ability to use the nursing process in the clinic of nursing students. Journal of the Nursing Council. 2012; 24(3):81-93. (in Thai)
Bandura A. Self-efficacy: Toward a unifying theory of behavioral chang. Psychological Review. 1977; 84(2):191-215.
Bandura A. Self-efficacy: The exercise of control. New York : W.H. Freeman and Company; 1997.
Marie NB, Kathei A, David NB, and Jonathan BV. The use of human patient simulators best practices with novice nursing students. Nursing Education Research. 2006; 31(4):170-4.
Khaemani T. Knowledge science to organize effective learning processes. Bangkok. Publisher of Chulalongkorn University Printing; 2014. (in Thai)
Jeffries PR. A framework for designing implementing and evaluating simulations used as teaching strategies in nursing. Nursing Education Perspectives. 2005; 26(2):96-103.
Jamjang S, Yomdit V, Pongphetdit B, Pitaksin D, Changsieng P, Montong A. Effects of using simulation-based learning for preparation of nursing practicum on perceptions of self efficacy in performing nursing care in a hospital. Nursing Journal of the Ministry of Public Health. 2017; 27:46-58. (in Thai)
Khalalia R. Simulation in nursing education of student’ outcomes at their first clinical practice combined with simulations. Nurse Education Today.2014; 34:252-8.
Mohamed SA, Fashafsheh IH. The effect of simulation-based training on nursing students’ communication skill, self-efficacy and clinical competence for nursing practice. Open Journal of Nursing, 2019; 9:855-69.
Sinthuchai S, Ubolwan K. Fidelity simulation based learning: Implementation to learning and teaching management. Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2017; 18(1):29-38. (in Thai)
Kumkong M, Leejareon P, Aramrom Y, Jitviboon A. Effects of simulation-based learning on percieved self-efficacy in providing nursing care for advanced life support to patients with critical Illness or emergency condition among nursing students.The Southen College Network Journal of Nursing and Public Health. 2016; 3(3): 52-64. (in Thai)
Srisathitnarakoon B. Research methodology in nursing science. 2 nd ed. Bangkok: Chulalongkorn UniversityPrinting; 2002. (in Thai)
Khamani T. Science of teaching knowledge for effective learning process management. 16th ed. Bangkok: Chulalongkorn University Printing; 2014. (in Thai)
Cato ML. Nursing student anxiety in simulation setting: A mixed methods study. [Dissertation and Theses]. Portland State University; 2013.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.
