การศึกษาการตระหนักรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้ป่วยหลังคลอดของ นักเรียนพยาบาลทหารอากาศชั้นปีที่ 3 ปีการศึกษา 2559 หลังเรียนจบวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดา-ทารก และการผดุงครรภ์
คำสำคัญ:
การตระหนักรู้, ความปลอดภัยของผู้ป่วยหลังคลอด, นักเรียนพยาบาลทหารอากาศบทคัดย่อ
วิจัยเชิงพรรณนา เพื่อศึกษาการตระหนักรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้ป่วยหลังคลอดของนักเรียนพยาบาลทหารอากาศ ชั้นปีที่ 3 ปีการศึกษา 2559 หลังจบวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดา-ทารกและการผดุงครรภ์ 3 โดยตัวอย่าง 46 คน ตอบแบบสอบถาม ปลายเปิดหลังดูสื่อวีดีทัศน์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีสาระความปลอดภัยของผู้ป่วยด้านการติดเชื้อ, การให้ยาที่ปลอดภัย, กระบวนการ พยาบาลที่ปลอดภัย, การดูแลอุปกรณ์สายและท่อต่าง ๆที่สอดใส่เข้าไปในคนไข้ และการตอบสนองต่อภาวะวิกฤติ วิเคราะห์เนื้อหา เชิงคุณภาพ พบว่า 1. ขาดการตระหนักรู้ในการล้างมือทันทีหลังถอดถุงมือที่สัมผัสสิ่งคัดหลั่ง 2. ขาดการตระหนักรู้เกี่ยวกับยาฮอร์โมนรวมในระยะหลังคลอดกับความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำ และการตรวจสอบยาที่มีความเสี่ยงสูง โดยคนสองคน 3. มีการตระหนักรู้ที่จะสื่อสารกับทีมบุคลากรทางการแพทย์ให้สมบูรณ์แต่ไม่ครบตาม SBAR, ขาดการตระหนักรู้ในการ ดูแลเพื่อป้องกันมดลูกปลิ้น 4. มีการตระหนักรู้ในการดูแลผู้ที่ใส่สายสวนปัสสาวะคาและการป้องกันหลอดเลือดดำอักเสบ 5. มีการตระหนักรู้ในการตอบสนองต่อภาวะวิกฤติตกเลือดแต่ทำได้ไม่สมบูรณ์
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. Supchutikul A. Patient Safety Goals: SIMPLE. Nonthaburi: Healthcare Accreditation Institute (Public Organization); 2008. (In THAI)
3. Somcharoen N. Patient Safety Curriculum Guide Multi- Professional (WHO) : Learning Integration for the 21st Century Bachelor’s Degree Nursing
Curriculum. Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2015; Volume 16: 1-7. (In THAI)
4. Bloom, B.S. Taxonomy of education objective: The classification of education goals: Handbook II: Affective domain. New York; David Mckay; 1964
5. Good’s Dictionary of Education.3rded. New York: Mc Graw-Hill Book; 1973. p.54, 129.
6. Breckler SW. Attitude Structure and Function. Hillsdale, NJ: L. Erlbaum Association; 1986.
7. Engle J.F., Kollat D.T., Backwell R.D. Consumer behavior. New York: Holt, Rinehart and Winston; 1968. p. 34-35
8. McIntyre H, Raw A, Stephenson J, Bradley A, Dawson J, Fay M, et al. NICE quality standard 61: Infection prevention and control. National Institute for Health and Care Excellence; 2014.
9. Kaur P, Thaukur R, Kaur S, Bhalla A. Assessment of risk factors of phlebitis amongst intravenous cannulated patients. Nursing and Midwifery Research Journal 2011; 7(3):106-14.
10. Chaleoykitti S, Kamprow P, Promdet S. Patient Safety and Quality of Nursing Service. Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2014; Volume 15: 66-70. (In THAI)
11. Nitayangkul S, Nursing Standard for Patient during Crisis. In: Jirasinthipok T. editor. Nursing Standard in Hospital (2ndupdate). 3rded. Bangkok: Nursing division, Ministry of Public Health; 2008 : 187-217 (in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.
