ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลที่คัดสรร สภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานกับการคงอยู่ในงานของพยาบาลวิชาชีพในประเทศไทย
คำสำคัญ:
ปัจจัยส่วนบุคคลที่คัดสรร, สภาพแวดล้อมการปฏิบัติงาน, การคงอยู่ในงาน, พยาบาลวิชาชีพบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลที่คัดสรร สภาพแวดล้อมการ ปฏิบัติงานกับการคงอยู่ในงานของพยาบาลวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่าง 2,340 คน คือพยาบาลวิชาชีพทั่วประเทศไทยที่ขึ้นทะเบียนใบ อนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่งหรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งกับสภาการพยาบาล เครื่องมือที่ใช้ในการ เก็บข้อมูลคือ 1) แบบสอบถามปัจจัยส่วนบุคคลที่คัดสรร 2) แบบสอบถามสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงาน และ 3)แบบสอบถามการ คงอยู่ในงานของพยาบาลวิชาชีพ วิเคราะห์ความเที่ยงของแบบสอบถามลำดับที่ 2 และ 3 โดยหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของ ครอนบาค เท่ากับ 0.98 และ 0.89 ตามลำดับ วิเคราะห์ผลการวิจัยโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและสถิติไคสแควร์ กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยส่วน บุคคลที่คัดสรร 5 ปัจจัย ได้แก่ อายุ ภาวะสุขภาพ ประสบการณ์พยาบาล ลักษณะงานที่รับผิดชอบ และค่าตอบแทน รวมทั้งสภาพ แวดล้อมการปฏิบัติงานมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการคงอยู่ในงานของพยาบาลวิชาชีพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จากผลการวิจัยเสนอแนะว่า ผู้กำหนดนโยบายและผู้บริหารโรงพยาบาลสามารถนำปัจจัยส่วนบุคคลที่คัดสรรและข้อมูล สภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานมาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการสร้างกลยุทธ์เพื่อเพิ่มอัตราการคงอยู่ในงานของพยาบาลวิชาชีพ
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. Clarke SP, Aiken LH. An international hospital outcomes research agenda focused on nursing: lessons from a decade of collaboration. J Clin Nurs. 2008: 17; 3317–23.
3. Levatak L, Buck R: Factors influencing work productivity and intent to stay in nursing. Nurs Econ. 2008: 26 (3); 159-165.
4. Freda DeG, Orly T. Israeli nurse practice environment characteristics, retention, and job satisfaction. Israel Journal of Health Policy Research. 2014: 3; 1-10.
5. Sawaengdee K. The crisis of nursing workforce situation in Thailand. Paper presented at: Nursing Research: Through Crisis to Wellness Society. 4th Nursing Research Conference: 2009 November 2-4; Bangkok, Thailand. (in Thai).
6. Di Twigg, Kylie McCullough. Nurse retention: A review of strategies to create and enhance positive practice environments in clinical settings. Int J Nurs Stud. 2014: 51; 85-92.
7. Schmalenberg C, Kramer M. Essentials of a productive nurse work environment. Nurs Res. 2008: 57; 2-13.
8. Lin S-Y, Chiang H-Y, Chen I-L. Comparing nurses’ intent to leave or stay: differences of practice environment perceptions. Nurs Health Sci. 2011: 13; 463-7.
9. Hall D. Work related stress of registered nurses in hospital settings. Journal for Nurses in Staff Development. 2004: 2(1); 6-14.
10. Khunthar A, Sujijantararat R, Thongchareon V, Namthep J, Klayklongjit S. Predicting factors of intent to stay among professional nurses in a university hospital. J Nurs Sci. 2012: 30(4); 7-17. (in Thai)
11. Viboonsri N. A study of job satisfaction of private vocational school teachers in Bangkok Educational Area 2. Master Thesis of Education. Bangkok: Dhurakij Pundit University. 2007. (in Thai)
12. Khunthar A. The impacts and solutions to nursing workforce shortage in Thailand. J Nurs Sci. 2014: 32(1); 81-90. (in Thai)
13. Jirawatkul A. How to select the appropriated statistics. Bangkok: Wittayapat Company; 2013. (in Thai)
14. Thammalikitkul W. Research Process on Medical Science. Bangkok: The Thailand Research Fund; 1997. (in Thai)
15. Senadisai S, Koshakri R, Kedcham A, Rerkluenrit J, Meekusol S, Jewpattanakul Y, et al. Research report: A survey of professional nurses Positive
Practice Environment (PPE) in Thailand; 2018. (in Thai)
16. Somboon P, Noimuenwai P, Prasertsri N. Factors influencing job retention of temporary nursing employees in the Northeast Army Hospitals. Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2018; 19(1): 164-72. (in Thai)
17. Kongyoo S., Oumtanee A. A meta-analysis on antecedent variables of nurses’ quality of working life. Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2015; 16(3): 122-31. (in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.
