คุณภาพชีวิตการทำงานที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์กร และคุณภาพการบริการของพยาบาลห้องอุบัติเหตุ และฉุกเฉิน ระหว่างโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พอ. และโรงพยาบาลในเครือกองทัพอากาศ
คำสำคัญ:
คุณภาพชีวิตการทำงาน, ความผูกพันต่อองค์กร, คุณภาพการบริการบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับคุณภาพชีวิตการทำงาน ความผูกพันต่อองค์กร และคุณภาพการบริการ ของพยาบาลห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พอ. และ โรงพยาบาลในเครือกองทัพอากาศ เพื่อศึกษาอิทธิพลคุณภาพชีวิตการทำงานที่มีต่อคุณภาพการบริการ และอิทธิพลทางอ้อมผ่าน ความผูกพันต่อองค์กร ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ พยาบาลห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พอ. และ โรงพยาบาลในเครือกองทัพอากาศ จำนวน 132 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบบสอบถามประกอบด้วย 4 ส่วน คือข้อมูลทั่วไป คุณภาพชีวิตการทำงาน ความผูกพันต่อองค์กร และคุณภาพการบริการ ข้อมูลทั่วไป ใช้สถิติพรรณนา ประกอบด้วยค่าความถี่ ร้อย ละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้วิธีการวิเคราะห์แบบ Z-test และสมการโครงสร้าง PLS–SEM (Partial Least Square Structural Equation Modeling) ผลการวิจัยพบว่า อายุการทำงาน ส่วนใหญ่ 6-10 ปี จำแนกตามสถานภาพ ประชากร ส่วนใหญ่โสด ระดับการศึกษา ประชากรส่วนใหญ่ จบการศึกษาปริญญาตรี และจำแนกตามสังกัด ประชากรส่วนใหญ่สังกัด โรง พยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พอ. คุณภาพชีวิตการทำงานมีค่าเฉลี่ยของประชากรเท่ากับ 3.25 (μ = 3.25) ความผูกพันต่อองค์กรมีค่า เฉลี่ยของประชากรเท่ากับ 3.47 (μ = 3.47) และแนวคิดคุณภาพการบริการ มีค่าเฉลี่ยของประชากรเท่ากับ 3.70 (μ = 3.70) ส่วน การวิเคราะห์เปรียบเทียบระหว่างสองโรงพยาบาล พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้ง 3 ด้าน ผลการวิเคราะห์สมการ โครงสร้าง พบว่าค่าดัชนีความสอดคล้องกลมกลืน เท่ากับ 0.440 ถือว่ามีค่าสูง มีค่าสัมประสิทธิ์การกําหนด (R2) เฉลี่ยเท่ากับ 0.3451 มีค่า Average Variance Extracted evaluation สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำคือ 0.50 มีค่าการทดสอบความสอดคล้องระหว่างตัวแปร ประจักษ์ในตัวแปรแฝงชุดเดียวกัน (CR) สูงมากคือระหว่าง 0.828-0.873 อีกทั้งการวิเคราะห์สมการโครงสร้างข้างต้น พบว่า คุณภาพ ชีวิตการทำงานส่งอิทธิพลทางตรงต่อคุณภาพการบริการ มีค่าสัมประสิทธิ์เส้นทางเท่ากับ 0.3510 ความผูกพันต่อองค์กรส่งอิทธิพล ทางตรงต่อคุณภาพการบริการมีค่าสัมประสิทธิ์เส้นทางเท่ากับ 0.4140 คุณภาพชีวิตการทำงานส่งอิทธิพลทางตรงต่อความผูกพันองค์กรมีค่าสัมประสิทธิ์เส้นทางเท่ากับ 0.7270 และคุณภาพชีวิตการทำงาน ส่งอิทธิพลทางอ้อมต่อคุณภาพการบริการผ่านความ ผูกพันต่อองค์กร มีค่าสัมประสิทธิ์เส้นทาง เท่ากับ 0.3010
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Huse,E.F.and Cuming, T.G. Oganization Development and change. Third edition. MN :West.1985
Allen, N.J. and Meyer, J.P.The Measure and Antecedents of Affective, Continuance and Normative Commitment. Journal of Occupational Psychology. 1990
Parasuraman, A., Zeithaml V.A.,& Berry L.L., A Conceptual Model of Service Quality and Its Implications for Future Research. Journal of Marketing (Fall).1985
Piriyakul M. PLS Multi-Group Path model as Determinats of Competitive Advantage for SMEs. Ramkhamhaeng University,2010. (In Thai)
Laohawatanapinyo W. The Quality of Work Life of Nurses at Petchaburi Prachomklao Hospital. Surgery Intensive Care Unit Petchaburi Prachomklao Hospital,2019. (In Thai)
Namkotsrie S. Quality of Working Life of Personnel of Subdistrict Administration Organizations In Dan Khun Thot, Nakhon Ratchasima. Suranaree
University of Technology,2010. (In Thai)
Wattanachai T. Quality of Work life Among Nurses in Phichit Hospital.Chaing Mai University,2007. (In Thai)
Malai P. Working life quality of employees in Northern Region Industrial Estate. Chaing Mai : Chaing Mai University,2012. (In Thai)
Kongyoo S.A Meta-Analysis on Antecedent Variables of Nurses’ Quality of Working Life. Journal of the Royal Thai Army Nurses 2015;16(3):122-131.(In Thai)
Salancik G. Commitment and the Control of Organizational Behavior and Belief. In Staw, B.Scientific Research.1977
Morrison et al.Relationships with psycholinguistic variables. French, 1977
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.


