การบริหารอินซูลินด้วยตนเองในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1

Authors

  • นิพาวรรณ ไวศยะนันท์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • เบญจมาศ สุขสถิตย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Keywords:

เบาหวานชนิดที่ 1, การบริหารอินซูลินด้วยตนเอง, ชนิดของอินซูลิน, type 1 diabetes, self-administration of insulin, type of insulin

Abstract

เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากเบตาเซลล์ของตับอ่อนถูกทำลายจากภูมิคุ้มกันทำให้ไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ ผู้ป่วยจึงต้องได้รับการรักษาด้วยอินซูลินตลอดชีวิต การบริหารอินซูลินด้วยตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ พยาบาลมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการบริหารอินซูลินด้วยตนเองในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 โดยประเมินความพร้อมให้คำแนะนำและฝึกทักษะในการฉีดอินซูลินรวมถึงจัดการภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดยา การบริหารอินซูลินด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพจะทำใหผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูง ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

Self-Administration of Insulin among Persons with Type 1 Diabetes Mellitus

Type 1 diabetes is characterized by the inability to produce insulin, due to the autoimmune destruction of beta cells in the pancreas, so that patients require lifelong insulin therapy. Self-adminstration of insulin is vital in Type 1 diabetes care. Nurses have important roles in helping persons with Type 1 diabetes efficiently self-administer insulin by assessing readiness for insulin therapy, by providing educational and technical support related to injection technique, and by monitoring for potential complications from insulin injection. Efficiently self-administer insulin will allow persons with type 1 diabetes to be able to control their blood sugar, and prevent complications from either hypo- or hyper-glycemia so that they can live with a good quality of life.

Downloads

Download data is not yet available.

Downloads

How to Cite

1.
ไวศยะนันท์ น, สุขสถิตย์ เ. การบริหารอินซูลินด้วยตนเองในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1. J Royal Thai Army Nurses [Internet]. 2017 Jun. 22 [cited 2024 Dec. 19];18(suppl.1):11-2. Available from: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/view/90067