การดูแลบุคคลที่มีภาวะผิดปกติทางจิตใจจากเหตุการณ์รุนแรงแบบองค์รวม: ถอดบทเรียนกรณี 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ติดถ้ำหลวง จ.เชียงราย

ผู้แต่ง

  • มุกข์ดา ผดุงยาม คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
  • วาสนา ทรัพย์ประเสริฐ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
  • ปณตพร ชนะกุล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

คำสำคัญ:

โรคความผิดปกติทางจิตใจจากเหตุการณ์รุนแรง, การดูแลแบบองค์รวม, ทีมหมูป่าอะคาเดมี่, เทคนิคการให้คำปรึกษา

บทคัดย่อ

ทีมนักฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่ 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นเวลา 17 วัน มีภาวะเสี่ยงต่อโรคความผิดปกติทางจิตใจจากเหตุการณ์รุนแรง ( POST-TRAUMATIC STRESS DISORDER : PTSD ) ซึ่งผู้ประสบภัย จะมีความฝังใจต่อเหตุการณ์นั้น เมื่อหวนนึกถึงก็จะมีความรู้สึกกลัว และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญจนส่งผลต่อพฤติกรรมทำให้มี อารมณ์ และความคิดเปลี่ยนแปลงไปในทางลบ แสดงพฤติกรรมตอบโต้ที่รุนแรง รวมถึงมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติกิจวัตรประจำ ลดลงกว่าเดิม ในระยะแรกของการรักษาจะมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือเพื่อให้พ้นจากภาวะอันตรายและรอดชีวิต หลังจากนั้นจะให้การ ประคับประคองทางด้านจิตใจไปพร้อมกับการช่วยเหลือด้านอื่นๆ การรักษาที่ได้ผลดีคือการดูแลและฟื้นฟูแบบองค์รวมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ การทำจิตบำบัดและการให้คำปรึกษาจะช่วยให้ผู้ประสบภัยได้ตระหนักรู้และเข้าใจถึงปัญหาของตนเอง ในลักษณะที่เชื่อมโยงกันแบบองค์รวม ส่งผลให้มีการปรับเปลี่ยนมุมมองต่อชีวิตทางลบไปสู่ทางบวกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้คำปรึกษาจะช่วยพัฒนาสุขภาวะด้านจิตวิญญาณซึ่งถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากที่สุดในการขับเคลื่อน ชีวิตของมนุษย์ จะช่วยทำให้ผู้ประสบภัยได้สัมผัสถึงพลังชีวิตของตนเอง มีความสุข สงบจากภายใน สามารถเข้าใจและยอมรับปัญหา ชีวิตได้ตามความจริง และกลับสู่ภาวะสมดุลปกติของชีวิตได้เร็วขึ้น ซึ่งการถอดบทเรียนจากทีมหมูป่าอะคาเดมี่ และการปฏิบัติการ ช่วยเหลือพวกเขาจะเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี และเป็นโมเดลการเรียนรู้ให้แก่สังคมต่อไป

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

1. American Psychiatric Association. Diagnostic criteria from the diagnostic and statistical manual of mental disorders (DSM-5). (5th ed.). Washington, DC: Author; 2013.

2. Suthamnirand, A. Post-traumatic stress disorder in children. Journal of Medicine and Health Sciences. 2014; 21(3): 4-9. (In Thai).

3. Varcarolis, E.M. Manual of psychiatric nursing care planning. New York: Suanders, an imprint of Elsevier Inc; 2015.

4. Black, D. W., & Andreasen, N. Introductory textbook of psychology. (5thed.). Washington, DC: American Psychiatric Publishing; 2011.

5. Mayo Clinic Staff. Post-traumatic stress disorder (PTSD). Mayo Clinic Diseases and Conditions. MO: Mayo Foundation for Medical Education and Research; 2014.

6. Igreja, R.P. Infectious diseases associated with caves. Wilderness Environ Med. 2011;22:115-21.

7. Phadungyam, M., Phonin, S., Chuchuen, W.Perception of Holistic Health Status among Teenage Mothers, their Families, and Social Circumstance in Phetchaburi province. EAU Heritage Journal Science and Technology. 2016;10(2):250-261. (In Thai).

8. World Health Organization, International Council of Nurse. ICN framework of disaster nursing competencies. Geneva: Western pacific region; 2009.

9. Siripukdeekan, C. Nursing Role with Incident Command System in Disaster. Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2018; 19(2): 70-77.(In Thai).

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

19-04-2019

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ผดุงยาม ม, ทรัพย์ประเสริฐ ว, ชนะกุล ป. การดูแลบุคคลที่มีภาวะผิดปกติทางจิตใจจากเหตุการณ์รุนแรงแบบองค์รวม: ถอดบทเรียนกรณี 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ติดถ้ำหลวง จ.เชียงราย. J Royal Thai Army Nurses [อินเทอร์เน็ต]. 19 เมษายน 2019 [อ้างถึง 5 ธันวาคม 2025];20(1):1-11. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/view/184180

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ