การพัฒนารูปแบบการออมสุขภาพด้วยพหุโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพวัยทำงาน รองรับสังคมผู้สูงอายุของชุมชนในประเทศไทย
คำสำคัญ:
วัยทำงาน, ออมสุขภาพ, พหุโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการออมสุขภาพด้วยพหุโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพและประเมินพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ของสุขภาพวัยทำงานเพื่อเป็นต้นแบบสังคมสูงวัยในชุมชน วิธีการศึกษา: กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้นำด้านสุขภาพและวัยทำงานในพื้นที่ตำบลเชียงใหม่ (กลุ่มที่ 1) นครสวรรค์ (กลุ่มที่ 2) และพัทลุง (กลุ่มที่ 3) จำนวน 130 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงร้อยละ 92.3 รวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ และแบบบันทึกพฤติกรรมประจำวันสำหรับกิจกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ 9 กิจกรรม ได้แก่ อาหาร น้ำดื่ม การออกกำลังกาย อารมณ์ การนอนหลับ การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง (เฉพาะสตรี) การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการดูแลสุขภาพช่องปาก ใช้สถิติเชิงพรรณนามาวิเคราะห์และอธิบายข้อมูลทั่วไป และสถิติ Repeated Measures ANOVA ใช้การประเมินประสิทธิผลของโปรแกรมระหว่าง 3 กลุ่ม ผลการศึกษา: แบบแผนพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ของทั้ง 3 กลุ่มอยู่ในระดับดี สูงถึงร้อยละ 83.8 แต่เมื่อวิเคราะห์รายกิจกรรม พบว่า 5 กิจกรรมที่มีร้อยละของค่าเฉลี่ยต่ำ ได้แก่ การดูแลสุขภาพช่องปาก การตรวจมะเร็งด้วยตนเอง การออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร และการจัดการอารมณ์และความเครียด ร้อยละ 39.2, 48.5, 53.1, 53.1 และ 69.3 ตามลำดับ ค่าเฉลี่ยของพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ในภาพรวมทั้ง 9 รายการ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกลุ่ม 1 และกลุ่ม 3 (p<0.001) กลุ่ม 2 และกลุ่ม 3 (p<0.001) แต่ไม่มีความแตกต่างทางสถิติระหว่างกลุ่ม 1 และกลุ่ม 2 ด้านผลลัพธ์สุขภาพ พบว่า ในกลุ่มที่ 1 มีรอบเอวลดลง (p<0.05) ในกลุ่ม 2 ค่าดัชนีมวลกายลดลง (p<0.05) อย่างมีนัยสำคัญสถิติ ยิ่งไปกว่านั้นในกลุ่มที่ 3 พบว่า ทั้งค่าดัชนีมวลกายและรอบเอวที่ลดลง (p<0.01) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนคะแนนพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์เฉลี่ยต่อเดือนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในกลุ่มที่ 1 (p<0.001) และกลุ่มที่ 2 (p<0.001) อย่างไรก็ตามคะแนนของกลุ่มที่ 3 ไม่มีความแตกต่างเนื่องจากมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีอย่างสม่ำเสมอ สรุป: การสะสมพฤติกรรมสุขภาพผ่านพหุโปรแกรมส่งผลให้เกิดแบบแผนพฤติกรรมที่ดีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอนำไปสู่การพัฒนาสุขนิสัยที่ดี ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขโดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและสำนักงานประกันสังคม ควรพัฒนาสวัสดิการและสิ่งจูงใจที่เป็นระบบเพื่อส่งเสริมแบบแผนพฤติกรรมการมีสุขภาพที่ดี โดยใช้สิ่งจูงใจในรูปแบบคะแนนสุขภาพ การมีส่วนร่วมในการออม หรือรางวัลหลากหลาย เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย
เอกสารอ้างอิง
กิตติ ลาภสมบัติ. รายงานประจำปี 2563 การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดี ดูแลตนเองได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดี. นนทบุรี: สำนักอนามัยผู้สูงอายุ กรมอนามัย; 2563.
วิชัย เอกพลากร, ทหัยชนก พรรคเจริญ, วราภรณ์ เสถียรนพเก้า. รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562-2563. นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข; 2564.
องค์การสหประชาชาติ. เป้าหมายที่ 10 : ลดความไม่เสมอภาคภายในประเทศและระหว่างประเทศ [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 9 ก.ค. 2564]. เข้าถึงได้จาก: https://thailand.un.org/th/sdgs/10
The International Social Security Association (ISSA). Workplace health promotion -workplace health promotion framework [Internet]. 2021 [cited 2021 Jul 8]. Available from: https://ww1.issa.int/guidelines/whp/174865
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. การสำรวจแรงงานนอกระบบ พ.ศ.2563. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ; 2563.
สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์. ความเป็นไปได้ของบริการใหม่ด้านการสร้างเสริมสุขภาพในระบบประกันสังคม [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 9 ก.ค. 2564]. เข้าถึงได้จาก: https://thlp-ops.moph.go.th/pdf/6-7%20%E0%B8%9E.%E0%B8%A2.62/8.pdf
Michaelsen MM, Esch T. Understanding health behavior change by motivation and reward mechanisms: a review of the literature. Front Behav Neurosci 2023;17.
McNeil DW, Addicks SH, Randall CL. Motivational interviewing and motivational interactions for health behavior change and maintenance. In: Oxford handbook topics in psychology. Oxford University Press; 2017.
Awantang G, Helland A, Velu S, Gurman T. Evaluating capacity strengthening for social and behavior change communication: a systematic review. Health Promot Int 2022;37(1):daab068.
Hagger MS, Cameron LD, Hamilton K, Hankonen N, Lintunen T. Changing behavior: a theory and evidence-based approach. In: The Handbook of Behavior Change; 2020.
Michie S, West R, Sheals K, Godinho CA. Evaluating the effectiveness of behavior change techniques in health-related behavior: a scoping review of methods used. Transl Behav Med 2018;8(2):212-24.
Martin LR, DiMatteo MR, editors. The Oxford handbook of health communication, behavior change, and treatment adherence. Oxford University Press; 2013.
Hernandez M, Gibb JK. Culture, behavior and health. Evol Med Public Health 2020;2020(1):12-3.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง