ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนเกล็ดเลือดและผลการเกิดหลอดเลือดขอดในหลอดอาหารในผู้ป่วยโรคตับแข็ง โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า

ผู้แต่ง

  • วิจักษณ์ กาญจนอุทัย หน่วยโรคระบบทางเดินอาหาร กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี

คำสำคัญ:

ภาวะหลอดเลือดขอดในหลอดอาหาร, โรคตับแข็ง, เกล็ดเลือด, ค่าจุดตัดที่เหมาะสม

บทคัดย่อ

ความเป็นมา ภาวะแทรกซ้อนที่พบมากในผู้ป่วยโรคตับแข็ง คือภาวะการเกิดเส้นเลือดขอดในหลอดอาหาร (esophageal varices) สามารถค้นหาด้วยวิธีการส่องกล้อง ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายสูง มีความเป็นไปได้ที่จะคัดกรองด้วยการตรวจวัดระดับเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นวิธีการตรวจทางการแพทย์ที่ไม่ทำให้ผู้ป่วยได้รับความเจ็บปวดและไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ซับซ้อน

วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างระดับของเกล็ดเลือดต่อการเกิดภาวะเส้นเลือดขอดในหลอดอาหารของผู้ป่วยโรคตับแข็ง ในโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า

วิธีการศึกษา เป็นการศึกษารูปแบบย้อนหลัง retrospective study ทำการศึกษาค่าเกล็ดเลือด (platelet) ในผู้ป่วยที่ถูกวินิจฉัยเป็นโรคตับแข็ง ในโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564– 30 กันยายน 2565 คำนวณขนาดตัวอย่างจากสูตรการประมาณค่าสัดส่วนได้จำนวน 233 ราย เก็บข้อมูลตามแบบบันทึกที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไปของผู้ป่วย ข้อมูลทางคลินิก และข้อมูลผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ วิเคราะห์หาความสัมพันธ์โดยใช้สถิติอนุมาน chi-square test หรือ Fisher exact ในตัวแปรแจงนับและสถิติ one way ANOVA ในตัวแปรเชิงปริมาณ วิเคราะห์หาค่าจุดตัดที่เหมาะสม โดยใช้ diagnostic test แสดงค่าความไว ความจำเพาะ positive predictive value, negative predictive value, positive likelihood ratio, negative likelihood ratio และ area under the receiver operating characteristic curve (AUROC)

ผลการศึกษา พบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคตับแข็งในโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจำนวน 233 รายมีภาวะหลอดเลือดขอดในหลอดอาหารจำนวน 166 ราย คิดเป็นร้อยละ 71.24 โดยแบ่งออกเป็น Grade Iจำนวน 57 ราย Grade II จำนวน 32 ราย และ Grade III จำนวน 77 ราย ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า การเกิดภาวะหลอดเลือดขอดในหลอดอาหารมีความสัมพันธ์กับจำนวนเกล็ดเลือดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) กลุ่มผู้ป่วยโรคตับแข็งที่มีจำนวนเกล็ดเลือด< 150,000 count/µL มีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะหลอดเลือดขอดในหลอดอาหาร ซึ่งมีค่าความไว (sensitivity) = 68.7%, ความจำเพาะ (specificity) = 64.2%,ROC area = 0.664 (95%CI = 0.596 – 0.732), likelihood ratio (+) = 1.92, likelihood ratio (-) = 0.488, positive predictive value = 82.6%, negative predictive value = 45.3%

สรุป ค่าของเกล็ดเลือด <150,000 /µL ในกลุ่มผู้ป่วยโรคตับแข็งมีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะหลอดเลือดขอดในหลอดอาหารและสามารถใช้ค่าเกล็ดเลือดเป็นตัวคาดการณ์เกิดของหลอดเลือดขอดในผู้ป่วยตับแข็งได้

เอกสารอ้างอิง

ศักรินทร์ จิรพงศธร. Stage and natural history of cirrhosis. กรุงเทพฯ : สมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย; 2561.

Garcia-Tsao G, Friedman S, Iredale J, Pinzani M. Now there are many (stages) where before there was one: in search of a pathophysiological classification of cirrhosis. Hepatology 2010;51(4):1445-9.

Bataller R, Brenner DA. Liver fibrosis. J Clin Invest 2005;115(2):209-18.

Asrani SK, Kamath PS. Natural history of cirrhosis. Curr Gastroenterol Rep 2013;15(2):308.

D’Amico G, Pasta L, Morabito A, D’Amico M, Caltagirone M, Malizia G, et al. Competing risks and prognostic stages of cirrhosis: a 25-year inception cohort study of 494 patients. Aliment Pharmacol Ther 2014;39(10):1180-93.

Groszmann RJ, Garcia-Tsao G, Bosch J, Grace ND, Burroughs AK, Planas R, et al. Beta-blockers to prevent gastroesophageal varices in patients with cirrhosis. N Engl J Med 2005;353(21);2254-61.

พูลชัย จรัสเจริญวิทยา, วันรัชดา คัชมาตย์, ณสิกาญจน์ อังคเศกวินัย, ไกรวิพร เกียรติสุนทร, บรรณาธิการ. อายุรศาสตร์ทันยุค 2558 : update in internal medicine 2015 : best practice in internal medicine. กรุงเทพฯ : คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล; 2558.

Garcia-Tsao G, Sanyal AJ, Grace ND, Carey W. Prevention and management of gastroesophageal varices and variceal hemorrhage in cirrhosis. Hepatology 2007; 46(3): 922-38.

Abd-Elsalam S, Habba E, Elkhalawany W, Tawfeek S, Elbatea H, El-Kalla F, et al. Correlation of platelets count with endoscopic findings in a cohort of Egyptian patients with liver cirrhosis. Medicine 2016;95(23):e3853.

Rubin R, Strayer DS, Rubin E. Rubin’s pathology: clinicopathologic foundations of medicine. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins; 2011.

Romcea AA, Tanţău M, Seicean A, Pascu O. The etiology of upper gastrointestinal bleeding in cirrhotic patients. Clujul Med 2013;86(1):21-3.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-04-30

รูปแบบการอ้างอิง

1.
กาญจนอุทัย ว. ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนเกล็ดเลือดและผลการเกิดหลอดเลือดขอดในหลอดอาหารในผู้ป่วยโรคตับแข็ง โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า. JPMAT [อินเทอร์เน็ต]. 30 เมษายน 2023 [อ้างถึง 21 ธันวาคม 2025];13(1):14-29. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JPMAT/article/view/261702

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ