การศึกษาผลของการดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายแบบประคับประคอง ในโรงพยาบาลสามพราน จังหวัดนครปฐม
คำสำคัญ:
รักษาแบบประคับประคอง, ผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาแบบทบทวนเวชระเบียนย้อนหลัง เพื่อศึกษาผลลัพธ์ของกระบวนการดูแลผู้ป่วยมะเร็งแบบประคับประคองในโรงพยาบาลสามพราน โดยกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาเป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคองของโรงพยาบาลสามพรานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ถึง 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 จำนวน 115 รายที่มี Palliative Performance scale (PPS) น้อยกว่า 50 โดยแบ่งเป็น เพศชาย 53 ราย และเพศหญิง 62 ราย
ข้อมูลส่วนทั่วไปของประชากรส่วนใหญ่อายุระหว่าง 60-70 ปี จากผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายทั้งหมด 115 ราย เป็นมะเร็งปอด จำนวน 28 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.3 มะเร็งตับ จำนวน 23 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 มะเร็งเต้านม 13 ราย คิดเป็นร้อยละ 11.3 คิดเป็นร้อยละ 87.5 พบว่าอาการนำมาสู่การรักษาจากการใช้เครื่องมือประเมินและติดตามอาการต่างๆในผู้ป่วยระยะสุดท้าย Edmonton Symptom Assessment System (ESAS) โดยประเมินค่ามัธยฐาน (Mdn) และพิสัยระหว่างควอร์ไทล์ (IQR) พบว่าอาการของผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่นำมาสู่การรักษา อันดับแรก คือ อาการอ่อนเพลีย (Mdn=8, IQR=5-9), รองลงมาคือ อาการปวด (Mdn=7, IQR=4-8), อาการเหนื่อยหอบ (Mdn=7, IQR=4-8), อาการเบื่ออาหาร (Mdn=6.5, IQR=4-8), อาการง่วงซึม (Mdn=4, IQR=1-5), อาการคลื่นไส้ (Mdn=4, IQR=1-5), ซึมเศร้า (Mdn=2, IQR=0-4), นอนไม่หลับ (Mdn=2, IQR=0-4) หลังจากผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแบบประคับประคองเปรียบเทียบก่อนและหลังเข้ารับการรักษาพบว่า อาการอ่อนเพลีย อาการปวด อาการเบื่ออาหาร อาการเหนื่อยหอบ อาการคลื่นไส้ ซึมเศร้า อาการนอนไม่หลับมีอาการลดลงแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) มีเพียงอาการง่วงซึมที่ไม่มีความแตกต่าง ผู้ป่วยมีการเข้าถึงยากลุ่ม strong opioids 104 ราย คิดเป็นร้อยละ 90.4 และเมื่อรักษาจนกระทั่งเสียชีวิต พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่เสียชีวิตอย่างสงบตามที่ผู้ป่วยวางแผนไว้จำนวน 114 รายคิดเป็นร้อยละ 99.1 มีผู้ป่วย 1 ราย ที่ไม่ได้เสียชีวิตอย่างสงบตามที่วางแผนไว้ คิดเป็น ร้อยละ 0.9
จากการวิจัยนี้มีประโยชน์ต่อการวางแผนพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย สามารถลดอาการของความทุกข์ทรมานและช่วยทำให้ผู้ป่วยได้ตายดีตามที่ผู้ป่วยได้วางแผนดูแลรักษาตนเองไว้ล่วงหน้า แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามดูแลผู้ดูแลผู้ป่วยหลักหรือครอบครัวผู้ป่วยภายหลังผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กรมการแพทย์. แนวทางการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย. นนทบุรี : กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข; 2562.
ศรีเวียง ไพโรจน์สกุล. การดูแลแบบประคับประคองของประเทศไทย: การมุ่งสู่คุณภาพ คู่มือการดูแลแบบประคับประคองและระยะท้าย (สำหรับบุคลากรทางการแพทย์). นนทบุรี: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์; 2563.
ศูนย์รามาธิบดีอภิบาล คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล. การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (Terminal care) [อินเทอร์เน็ต]. 2559 [เข้าถึงเมื่อ 5 ส.ค.2561]. เข้าถึงได้จาก: https://med.mahidol.ac.th/palliative/article/09may2017-0953
The Global Cancer Observatory. สถิติมะเร็งในประเทศไทยปี 2020 [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [ค้นเมื่อ 11 มิ.ย. 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://givemeref.in.th/916/thailand-statistics-globocan-2020/
กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม. สถานะสุขภาพ แผนยุทธศาสตร์การสาธารณสุขปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-2566: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม; ข้อมูลจากคลังข้อมูลสุขภาพ (HDC) [อินเทอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 11 มิ.ย 2565]. เข้าถึงได้จาก: http://nptho.moph.go.th/weboffice/frontend/web/index.php?
กิติพล นาควิโรจน์. หลักการของ Palliative care [อินเทอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 11 มิ.ย 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://www.rama.mahidol.ac.th/fammed/th/postgrad/doctorpalliative1th
World Health Organization. Cancer control World Health Organization, cancer control: knowledge into action, WHO guide for effective programmers: palliative care [Interner]. 2017 [cited 2018 Jun 11]. Available: www.who.int/cancer/publications/cancer_control_palliative/en/
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการดูแลแบบประคับประคองและระยะท้าย (สำหรับบุคลากรทางการแพทย์): การดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองแบบองค์รวม. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2563.
Zeppetella G. Evidence-based treatment of cancer-related breakthrough pain with opioids. J Natl Compr Canc Netw 2013;11(Suppl 1):S37-43.
Eagar K, Clapham SP, Allingham SF. Palliative care is effective: but hospital symptom outcomes superior. BMJ Support Palliat Care 2020;10(2):186-90.
Collins ES, Witt J, Bausewein C, Daveson BA, Higginson IJ, Murtagh FEM. A systematic review of the use of the palliative care outcome scale and the support team assessment schedule in palliative care. J Pain Symptom Manage 2015;50(6):842-53.
ภัควีร์ นาคะวิโร. ผลลัพธ์การดูแลของผู้ป่วยมะเร็งแบบประคับประคองในโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย 2560; 7(1):11-23.
นงค์รักษ์ สัจจานิจการ. ผลการดูแลผู้ป่วยที่เจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย จากโรงพยาบาลสู่เครือข่ายชุมชน. น่าน : โรงพยาบาลท่าวังผาอำเภอท่าวังผา; 2555.
ภัทรานิษฐ์ เมธีพิศิษฐ์, อาภาพร วงษ์นามพรหม, น้ำอ้อย ภักดีวงษ์. ผลลัพธ์และกระบวนการดูแลแบบประคับประคองในผู้ป่วยมะเร็งลุกลาม. วารสารพยาบาลกรุงเทพ 2561;41(1):75-83.
วิภาวี เกตุวัง. การศึกษาผลของการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคองโรงพยาบาลบางประหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา.
วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย 2562;9(2):151-64.
ชโลธร ชาวบ้านกร่าง. การศึกษาลักษณะผู้ป่วยประคับประคองในหอผู้ป่วยแผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลนครปฐม. วารสารระบบบริการปฐมภูมิและเวชศาสตร์ครอบครัว 2564;4(3):119-27.
ดาริน จตุรภัทรพร. วิธีการประเมินความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองของผู้ป่วยโดยใช้ Palliative Performance Scale (PPS). [อินเทอร์เน็ต]. 2559 [เข้าถึงเมื่อ 20 มี.ค. 2565]. เข้าถึงได้จาก: http://med.mahidol.ac.th/fammed/th/postgrad/doctorpalliative3th.
Chewaskulyong B, Sapinun L, Downing GM, Intaratat P, Lesperance M, Leautrakul S, et al. Reliability and validity of the Thai translation (Thai PPS Adult Suandok) of the palliative performance scale (PPSv2). Palliat Med 2012;26(8):1034-41.
Cleary TA. The Palliative performance scale (PPSv2) version 2. Medical Care of the Dying, Victoria Hospice Society 2006;4:121.
Chinda M, Jaturapatporn D, Kirshen AJ, Udomsubpayakul U. Reliability and validity of a Thai version of the edmonton symptom assessment scale (ESAS-Thai). J Pain Symptom Manage 2011;42(6):954-60.
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข. แผนยุทธศาสตร์ระดับชาติว่าด้วยการสร้างเสริมสุขภาวะในระยะท้ายของชีวิต ปีงบประมาณ 2566: ร้อยละการบรรเทาอาการปวดและจัดการอาการต่าง ๆ ด้วย Opioid ในผู้ป่วยประคับประคองอย่างมีคุณภาพ.[อินเทอร์เน็ต]. 2566. [เข้าถึงเมื่อ 2 ม.ค. 2566]. เข้าถึงได้จาก: http://healthkpi.moph.go.th/kpi2/kpi-list/view/?id=1602
ศุภชัย แพงคำไหล, พีร์ วัชรวงษ์ไพบูลย์. การพัฒนาแนวทางส่งเสริมการเข้าถึงยากลุ่มโอปิออยด์ (opioids) แบบสหวิชาชีพที่บ้านสำหรับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม. วารสารวิชาการสาธารณสุข 2564;30(1):876-86.
ทิพย์สุคนธ์ เจริญพันธ์, จันทรรัตน์ สิทธิวรนันท์. การพัฒนาบทบาทเภสัชกรในทีมสหวิชาชีพสำหรับการจัดการอาการปวดด้วยยาในผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะลุกลามอย่างต่อเนื่องจนถึงที่บ้าน โรงพยาบาลหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี. ไทยไภษัชยนิพนธ์ 2565;17(2):1-21.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง