การศึกษาระบาดวิทยา และเปรียบเทียบผลการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ของผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา : การศึกษาแบบย้อนหลัง
คำสำคัญ:
โควิด 19, ร้อยละการติดโควิด, ผลการรักษา, อัตราการเสียชีวิต, ปอดอักเสบโควิด 19บทคัดย่อ
โรคโควิด19 เป็นโรคระบาดที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน ด้วยสาเหตุยังไม่มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ และการฉีดวัคซีนยังไม่ทั่วถึง จนถึงปัจจุบันจึงพบว่ามีการระบาดหลายระลอกแล้วในประเทศไทย โดยจากการทบทวนวรรณกรรม ยังไม่มีการศึกษาทางระบาดวิทยา ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง การรักษาและผลการรักษาของโรคโควิด 19 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาก่อน และการศึกษาในประเทศไทยก็มีจำกัดและจำนวนน้อยมาก ดังนั้น การศึกษานี้จะศึกษาหาร้อยละการพบโรคโควิด ปัจจัย การรักษาและผลการรักษา รวมไปถึงอัตราการเสียชีวิตและระยะเวลาการนอนโรงพยาบาล ของของผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นข้อมูล และประโยชน์ต่อการศึกษาต่อยอดในอนาคต วัตถุประสงค์ เพื่อหาจำนวนผู้ป่วยโควิด 19 จากผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาทั้งหมดในช่วงระยะเวลา 4 เดือนเป็นร้อยละ และเปรียบเทียบผลการรักษาของผู้ป่วยโควิด 19 ระหว่างกลุ่มที่มีและไม่มีปอดอักเสบ ของผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ช่วงสิงหาคม-พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 วิธีการวิจัย การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์ย้อนหลังด้วยการทบทวนเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (retrospective cohort study) โดยเก็บข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ค้นหาผู้ป่วยอายุมากกว่า18ปีที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และเป็นโรคโควิด 19 โดยมีผลยืนยันจากการตรวจ RT-PCR for COVID-19 โดยเก็บข้อมูลผลตรวจ เพศ อายุ โรคหลัก โรคร่วม ระยะเวลาการนอนโรงพยาบาล การรักษาและผลการรักษา และผลเลือดต่างๆที่เกี่ยวข้อง แล้วใช้การวิเคราะห์ทางสถิติที่เหมาะสม เพื่อหาร้อยละของโรคโควิด19 และเปรียบเทียบผลการรักษาของกลุ่มที่มีและไม่มีปอดอักเสบ รวมถึงอัตราการเสียชีวิต ในช่วงสิงหาคม-พฤศจิกายน พ.ศ. 2564ผลการศึกษา มีผู้ป่วยอายุเกิน 18 ปีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น COVID-19 และรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 313 ราย ในจำนวนนี้ผู้ป่วยที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกเข้าการศึกษามีจำนวน 273 ราย กลุ่มที่มีปอดอักเสบร่วมด้วยมี 206คน (ร้อยละ 75.5) อายุเฉลี่ย 63ปี เป็นผู้ป่วยชาย 98 ราย (ร้อยละ 47.6) มีอัตราการนอนโรงพยาบาลเฉลี่ย 15 วัน มีจำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิต 62 คน (ร้อยละ 30.1) สำหรับกลุ่มที่ไม่มีปอดอักเสบร่วมด้วยพบว่ามี 67 ราย (ร้อยละ 24.5) โดยมีอายุเฉลี่ย 40 ปี เป็นผู้ชาย 29 ราย (ร้อยละ 43.3) มีอัตราการนอนโรงพยาบาลเฉลี่ย 15 วัน และมีจำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิต 1 ราย (ร้อยละ 1.5) พบว่าระยะเวลาการนอนโรงพยาบาลเฉลี่ยและอัตราการเสียชีวิตมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างสองกลุ่ม สำหรับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเสียชีวิตในกลุ่มที่มีปอดอักเสบคือ อายุ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง โรคไตวายเรื้อรัง และโรคหลอดเลือดสมอง โดยเมื่อควบคุมปัจจัยดังกล่าวนี้พบว่ากลุ่มที่มีปอดอักเสบมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่ากลุ่มที่ไม่มีปอดอักเสบถึง 15.45 เท่า
สรุป ร้อยละของโรคโควิด 19 ที่พบในผู้ป่วยในของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาในช่วงสิงหาคม-พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 คือ 12.73 โดยกลุ่มที่มีปอดอักเสบและไม่มีปอดอักเสบมีผลการรักษารวมถึงระยะเวลาการนอนโรงพยาบาลอัตราการเสียชีวิตที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และเมื่อประเมินปัจจัยร่วมพบว่า กลุ่มที่มีปอดอักเสบมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่ากลุ่มที่ไม่มีปอดอักเสบถึง 15.45 เท่า
เอกสารอ้างอิง
Rajatanavin N, Tuangratananon T, Suphanchaimat R, Tangcharoensathien V. Responding to the COVID-19 second wave in Thailand by diversifying and adapting lessons from the first wave. BMJ Global Health 2021;6(7):e006178.
Ministry of Public Health Thailand. Thailand’s Experience In The COVID-19 Response [Internet]. 2020. [cited 2021 Oct 15]. Available from: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/eng/file/pub_doc/LDoc9.pdf
World Health Organization. Coronavirus disease (COVID-19) situation report [Internet]. 2021. [cited 2021 Nov 15]. Available from: https://www.who.int/emergencies/diseases/novel-coronavirus-2019/situation-reports.
Singhal T. A review of Coronavirus Disease-2019 (COVID-19). Indian J Pediatr 2020;87(4):281-86.
Marik PE, Iglesias J, Varon J, Kory P. A scoping review of the pathophysiology of COVID-19. Int J Immunopathol Pharmacol 2021;35:1-16.
Ali MJ, Hanif M, Haider MA, Ahmed MU, Sundas F, Hirani A, et al. Treatment options for COVID-19: a review. Front Med (Lausanne) 2020;7:480.
The National Institutes of Health (NIH). Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) treatment guidelines [Internet]. 2021. [cited 2021 Nov 15]. Available from: https://files.covid19treatmentguidelines.nih.gov/guidelines/covid19treatmentguidelines.pdf
Sirijatuphat R, Suputtamongkol Y, Angkasekwinai N, Horthongkham N, Chayakulkeeree M, Rattanaumpawan P, et al. Epidemiology, clinical characteristics and treatment outcomes of patients with COVID-19 at Thailand’s university-based referral hospital. BMC Infectious Diseases 2021;21(1):382.
Department of Medical Service, Ministry of Public Health. Thai national clinical practice guidelines for treatment of coronavirus disease 2019 25th June 2021 [Internet]. 2021. [cited 2021 Nov 15]. Available from: https://covid19.dms.go.th/
Department of Medical Service, Ministry of Public Health. Thai national clinical practice guidelines for treatment of Coronavirus Disease 2019 21st July 2021 [Internet]. 2021. [cited 2021 Nov 15]. Available from: https://covid19.dms.go.th/
Department of Medical Service, Ministry of Public Health. Thai national clinical practice guidelines for treatment of Coronavirus Disease 2019 4th Aug 2021 [Internet]. 2021. [cited 2021 Nov 15]. Available from: https://covid19.dms.go.th/
Department of Medical Service, Ministry of Public Health. Thai national clinical practice guidelines for treatment of Coronavirus Disease 2019 9th Sep 2021 [Internet]. 2021. [cited 2021 Nov 15]. Available from: https://covid19.dms.go.th/
Department of Medical Service, Ministry of Public Health. Thai national clinical practice guidelines for treatment of Coronavirus Disease 2019 2nd Nov 2021 [Internet]. 2021. [cited 2021 Nov 15]. Available from: https://covid19.dms.go.th/
Henry BM, de Oliveira MHS, Benoit S, Plebani M, Lippi G. Hematologic, biochemical and immune biomarker abnormalities associated with severe illness and mortality in corona virus disease 2019 (COVID-19): a meta-analysis. Clin Chem Lab Med 2020;58(7):1021-28.
Pongpirul WA, Mott JA, Woodring JV, Uyeki TM, MacArthur JR, Vachiraphan A, et al. Clinical characteristics of patients hospitalized with coronavirus disease, Thailand. Emerging Infectious Disease 2020;26(7):1580-85.
Sivakorn C, Luvira V, Muangnoicharoen S, Piroonamornpun P, Ouppapong T, Mungaomklang A, et al. Case report: walking pneumonia in novel coronavirus disease (COVID-19): mild symptoms with marked abnormalities on chest imaging. Am J Trop Med Hyg 2020;102(5):940-2.
Nasomsong W, Luvira V, Phiboonbanakit D. Case report: dengue and COVID-19 coinfection in Thailand. Am J Trop Med Hyg 2020;104(2):487-9.
Thammathiwat T, Tungsanga S, Tiankanon K, Torvorapanit P, Chumpangern W, Udomkarnjananun S, et al. A case of successful treatment of severe COVID-19 pneumonia with favipiravir and tocilizumab in post-kidney transplant recipient. Transpl Infect Dis 2021;23(1):e13388.
Bao J, Li C, Zhang K, Kang H, Chen W, Gu B. Comparative analysis of laboratory indexes of severe and non-severe patients infected with COVID-19. Clin Chim Acta 2020;509:180-94.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง