ทำไมจึงมาฝากครรภ์ : ทัศนะของหญิงตั้งครรภ์โรงพยาบาลบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

ผู้แต่ง

  • เดือนเพ็ญ ศิลปอนันต์ กลุ่มงานบริการทางการแพทย์, โรงพยาบาลบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

คำสำคัญ:

มุมมอง, หญิงตั้งครรภ์, การฝากครรภ์ครั้งแรก

บทคัดย่อ

     การวิจัยเชิงคุณภาพนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายมุมมองต่อการฝากครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ครั้งแรก ณ โรงพยาบาลบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ครั้งแรก ระหว่างวันที่ 1 กันยายน - 31 ตุลาคม 2556 จำนวน 21 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา และสรุปประเด็น ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีอายุเฉลี่ย 24.2 ปี ร้อยละ 42.9 (9/21 คน) มาฝากครรภ์ครั้งแรก ภายใน 12 สัปดาห์ มุมมองของหญิงตั้งครรภ์ต่อการฝากครรภ์ ส่วนใหญ่เห็นว่าการฝากครรภ์ มีประโยชน์ต่อสุขภาพของมารดาและทารกในครรภ์ ส่วนมุมมองต่อการมาฝากครรภ์เร็ว กลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า จะทำให้ค้นหาภาวะผิดปกติของหญิงตั้งครรภ์/ทารกในครรภ์ได้รวดเร็ว และสามารถแก้ไขได้ทัน แต่ผู้ให้ข้อมูลร้อยละ 9.5 มีความคิดเห็นว่า ควรมาฝากครรภ์หลังจากตั้งครรภ์ได้ 12 สัปดาห์ ขึ้นไป เนื่องจากไม่เห็นความจำเป็นของการมาฝากครรภ์เร็ว ผู้ให้ข้อมูล ร้อยละ 47.6 มีมุมมอง
ต่อผลกระทบของการฝากครรภ์ช้าว่า หากมีกรณีที่พบว่าเด็กไม่สมบูรณ์/มีความผิดปกติ อาจช่วยเหลือหรือรักษาไม่ทัน ไม่มีกลุ่มตัวอย่างรายใดกล่าวถึงผลเสียของการฝากครรภ์ช้า เกี่ยวกับการเสียโอกาสการได้รับยาป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสเอดส์จากแม่สู่ลูก สำหรับปัจจัยที่กระตุ้นให้มาฝากครรภ์ได้แก่ ปัจจัยส่วนบุคคลและแรงสนับสนุนจากครอบครัว ส่วนอุปสรรคของการมาฝากครรภ์ได้แก่ ระบบบริการ การคมนาคม การย้ายถิ่น ที่อยู่ ค่าใช้จ่าย และภาระงาน จากผลการศึกษานี้มีข้อเสนอแนะว่า ควรมีการปรับระบบบริการ และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรสาธารณสุขในระดับตำบลให้สามารถรับฝากครรภ์หญิงตั้งครรภ์รายใหม่ได้

เอกสารอ้างอิง

1. World Health Organization. World health statistics 2010 Geneva. WHO Press [Internet]. 2010. [cited 2012 Dec 18]. Available from:URL:http://www.who.int/mediacentre/factsheets.
2. สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์. แผนพัฒนาสาธารณสุข 4 ปี พ.ศ. 2556-2559. สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข. [อินเตอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 8 ธ.ค.2555] เข้าถึงได้จาก http://www.bps.ops.moph.go.th/plan4year
3. ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล. ตำราสูติศาสตร์การตั้งครรภ์และการคลอดปกติ. กรุงเทพฯ: บริษัท บุ๊คเน็ทจำกัด; 2546.
4. สมนึก จิรายุส. ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อยและการคลอดก่อนกำหนดในหญิงตั้งครรภ์ที่ฝากครรภ์ไม่ดี. ขอนแก่นเวชสาร 2551;32:121-7.
5. ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร, ศรุตยา รองเลื่อน, ราตรี ศิริสมบูรณ์. การส่งเสริมสุขภาพสตรีตั้งครรภ์กลุ่มเสี่ยงโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ. ใน:ธราธิป โคละทัต บรรณาธิการ. หนังสือประกอบการประชุมวิชาการ การสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกเพื่อการดูแลภาวะคลอดก่อนกำหนด. กรุงเทพฯ: บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน); 2552. หน้า 45-56.
6. จำนวนหญิงตั้งครรภ์รายใหม่ที่มาฝากครรภ์ครั้งแรกอายุครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์หรือเท่ากับ 12 สัปดาห์: ระบบรายงานเฉพาะกิจ โรงพยาบาลสายใยรัก ระบบรายงานเฉพาะกิจ โรงพยาบาลสายใยรัก. [อินเตอร์เน็ต]. 2555. [เข้าถึงเมื่อ 14 พ.ย. 2555]. เข้าถึงได้จาก http://www.saiyairakhospital.com.
7. นงลักษณ์ ทองโต. ปัจจัยเสี่ยงต่อการให้กำเนิดทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยในประเทศไทย. วารสารประชากร [Internet]. 2554 [เข้าถึงเมื่อ 21 พ.ย. 2555] เข้าถึงได้จาก http://www.library1.nida.ac.th
8. กนกวรรณ ใจพิงค์. ปัจจัยที่สัมพันธ์ต่อการฝากครรภ์ล่าช้าในหญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการ ณ โรงพยาบาลลำพูน. [การศึกษาอิสระปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2554.
9. Rosenstock IM., Strecher VJ., Becker MH. Social Learning Theory and the Health Belief Model. Health Education Quarterly (summer 1988);15(2):175-83.
10. House JS., Umberson D., and Landis K.R. Structures and processes of social support. Annual review of sociology (Internet). 1988 [cited 2012 Dec 15];14:293-318. Available from URL:http://www.jstor.org.
11. Alderliesten ME., Vrijkotte TG., van der Wal MF., Bonsel GJ. Late start of antenatal care among ethic minorities in a large cohort of pregnant women. BJOG. 2007 Oct;114(10):1232-9. Epub 2007 Jul 26.
12. Lie Thuy Thi Trinh., Rubin G. Late entry to antenatal care in New South Wales, Australia. Reproductive health 2006 Aug, 3:8.
13. Jones GL., Haddrill R., Mitchell C., Anumba DA. Why do women attend late for antenatal booking? A qualitative interview study exploring the perspectives of service users and stakeholders. J Epidemiol Community Health 2011;65:A4.
14. E. P. Ndidi. [corrected to Ebeigbe, P N]; Oseremen, I G [corrected to Igberase, G O]. Reasons Given by Pregnant Women for Late Initiation of Antenatal Care in the Niger Delta, Nigeria. Ghana Med J. 2011 September;45(3):132.
15. Solarin, Ijeoma; Black, Vivian. “They Told Me to Come Back”: Women’s Antenatal Care Booking experience in Inner-City Johannesburg. Martenal Child Health J. Feb 2013;17(2):359-67.
16. Kenneth Finlayson. Soo Downe. Why Do Women Not Use Antenatal Services in Low-and Middle-Income Countries? A Meta-Synthesis of Qualitative Studies [cited 2013 Feb 10].Available from URL:http://www.plosmedicine.org/article/info
17. Onoh R, Umerora O., Agwu U., Ezegwui H., Ezeonu P., Onyebuchi A. Pattern and determinants of antenatal booking at abakaliki southeast Nigeria. [cited 2014 Feb18].
Available from URL:http//www.ncib.nih.gov/pubmed/23439716
18. Ivan Kisuule., Dan K Kaye., Florence Najjuka., Stephen K Ssematimba., Anita Arinda., Gloria Nakitende and Lawrence Otim. Timing and reasons for coming late for the first antenatal care visit by pregnant women at Mulago hospital, Kampala Uganda. BMC Pregnancy and Childbirth 2013, 13:121 [cited 2014 Feb18]. Available from URL:http://www.biomedcentral.com/1471-2393/13/121
19. Joseph CL. Identification of factors associated with delayed antenatal care. J Nat Med Assoc 1989;(1):57-63. [cited 2014 Feb18]. Available from URL:http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2625899/

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-02-18

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ศิลปอนันต์ เ. ทำไมจึงมาฝากครรภ์ : ทัศนะของหญิงตั้งครรภ์โรงพยาบาลบางกรวย จังหวัดนนทบุรี. JPMAT [อินเทอร์เน็ต]. 18 กุมภาพันธ์ 2019 [อ้างถึง 24 ธันวาคม 2025];4(2):125-34. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JPMAT/article/view/173086

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ