การพัฒนาแนวทางการเกษตรสมุนไพรวิถีใหม่ตามแนวคิด บีซีจี โมเดล: กรณีศึกษาชุมชนเตาปูน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
คำสำคัญ:
แนวทาง, บีซีจี, ชุมชนเตาปูนบทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methods Research) โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) ร่วมกับการวิจัยเชิงคุณภาพแบบปรากฏการณ์วิทยา (Phenomenological Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันของชุมชนเตาปูนและการบริหารจัดการการเกษตรสมุนไพร 2) พัฒนาแนวทางการเกษตรสมุนไพรวิถีใหม่ตามแนวคิด BCG Model และ 3) ประเมินคุณภาพของแนวทางที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยประชากรในตำบลเตาปูน จำนวน 380 คน ซึ่งได้มาโดยใช้วิธีการแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling Method) และกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 20 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selection Sampling) เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง แบบสอบถามเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของการเกษตรสมุนไพร และแบบประเมินคุณภาพแนวทาง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test) สำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันของชุมชนเตาปูนมีพื้นที่เกษตรรวม 15,035 ไร่ ประชากร 6,162 คน ใน 9 หมู่บ้าน โดยเกษตรกรมีความรู้ในการจัดการเกษตรสมุนไพรใน 5 ด้านหลักอยู่ในระดับต่ำ (เฉลี่ยไม่เกินร้อยละ 50) ได้แก่ การเตรียมพื้นที่เพาะปลูก (43.79%) การคัดเลือกพันธุ์พืช (36.49%) การบำรุงรักษาและพรวนดิน (42.06%) การกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช (28.32%) และด้านอื่นๆ (35%) ซึ่งมีสาเหตุหลักจากเกษตรกรส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาต่ำกว่ามัธยมศึกษา (ร้อยละ 76.32) และขาดแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เป็นระบบ 2) แนวทางการพัฒนาการเกษตรสมุนไพรวิถีใหม่ตามแนวคิด BCG Model ที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 5 ด้านหลัก ได้แก่ การบริหารจัดการดิน (เน้นการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และการปรับปรุงดินด้วยวัสดุธรรมชาติ) การบริหารจัดการน้ำ (ใช้ระบบน้ำหยดและการหมุนเวียนน้ำ) การฟื้นฟู-อนุรักษ์ดินและน้ำ (ส่งเสริมการปลูกพืชคลุมดินและการทำฝายชะลอน้ำ) การจัดหาแหล่งน้ำ (พัฒนาระบบกักเก็บน้ำฝนและบ่อน้ำตื้นพลังงานแสงอาทิตย์) และการถ่ายทอดภูมิปัญญา (จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ชุมชนและพัฒนาเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน) 3) ผลการประเมินคุณภาพของแนวทางพบว่า ด้านความเป็นไปได้ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.21-4.49) ยกเว้นด้านการฟื้นฟู-อนุรักษ์ดินและน้ำที่อยู่ในระดับมากที่สุด (4.533) ส่วนด้านความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน (ค่าเฉลี่ย 4.51-4.88) โดยด้านการถ่ายทอดภูมิปัญญามีค่าเฉลี่ยสูงสุด (4.880) เมื่อเปรียบเทียบความเป็นไปได้กับความเหมาะสมของแนวทาง พบว่าไม่แตกต่างกัน ทั้งในภาพรวมและรายด้าน
ผลการวิจัยนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการเกษตรสมุนไพรวิถีใหม่ตามแนวคิด BCG Model ในพื้นที่อื่นที่มีบริบทใกล้เคียงกัน และเป็นต้นแบบในการวางแผนพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืนที่สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ของประเทศ
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. (2563). โมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG. คลังความรู้. สำนักงาพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.). 11 ธันวาคม 2563. สืบค้น พฤศจิกายน 01, 2564. จาก https://www.nstda.or.th/home/knowledge_post/bcg-by-nstda/.
กันตา นิ่มทัศนศิริ, เฟื่องลดา ทบศรี, ณิภารัตน์ บุญกุล, รินรำไพ พุทธิพันธ์ และนิติพัฒน์ แก้วประสิทธ์. (2564). รายงานผลการดำเนินงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) หรือ U2T ตำบลเตาปูน ระยะที่ 1.
กรมสุขภาพจิต. (2563). New Normal ชีวิตวิถีใหม่. บทความด้านสุขภาพจิต 27 พฤษภาคม 2563. สืบค้น พฤศจิกายน 01, 2564. จาก https://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=2288.
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร. (2562). โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ในภาคกลาง. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.
จตุรงค์ พวงมณี, วิรัช พุ่มพวง และศศิวิมล อินทร์แปลง. (2563). การวิเคราะห์สถานการณ์การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของกลุ่มเกษตรกรรายย่อย. วารสารเศรษฐศาสตร์การเมือง, 9(2), 17-35.
จรัญ พุ่มพวง. (2564). ภูมิปัญญาท้องถิ่นกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน. กรุงเทพฯ: สถาบันพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง.
นิรันดร์ จงวุฒิเวศย์. (2550). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชนบท. กรุงเทพฯ: ศักดิ์โสภา.
ทัพไท หน่อสุวรรณ และคณะ. (2564). การเกษตรในเมืองกับ BCG Economic Model. วารสารวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร. 38(3), 100-116.
พิพัฒน์ วีระถาวร. (2563). แนวคิด BCG Model กับการพัฒนาเกษตรยั่งยืน. เอกสารประกอบการประชุมวิชาการมหาวิทยาลัยแม่โจ้.
มาลี บุญศิริพันธ์. (ม.ป.ป.). New Normal คืออะไร. บทความ. สืบค้น พฤศจิกายน 2564. จาก https://www.excise.go.th/cs/groups/public/documents/document/dwnt/mzky/~edisp/uatucm392772.pdf.
มหานครพาร์ทเนอร์กรุ๊ป. (2023). The Bio-Circular-Green Economic Model & Measures to Support Carbon Reduction. สืบค้นจาก https://www.linkedin.com/pulse/bio-circular-green-economic-model-mahanakorn-partners-group-co-ltd.
สมพระ ปานดำ. (2564). BCG Model กับ อาชีวศึกษาไทย. บทความวิชาการ. วารสารวิชาการสถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ 1, 6(2), 89-95.
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2566). เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy). กรุงเทพ : กองกฎหมายต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา.
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2564). แผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเศรษฐกิจชีวภาพ พ.ศ. 2564–2570.
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.), สำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี (สส.), สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สป.วท.). (2559). ของเหลือทิ้งภาคการเกษตร. รายงานแนวทางการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร.
สุวิมล ติรกานันท์. (2551). ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์ ; แนวทางสู่การปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ส่วนบริหารและพัฒนาเทคโนโลยีการทะเบียน. (2566). สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (dopa.go.th). กรมการปกครอง. สืบค้น สิงหาคม 21, 2567. จาก https://stat.bora. dopa.go.th/stat/statnew/statMONTH/statmonth/#/ displayData.
องค์การบริหารส่วนตำบลเตาปูน. (2563). ลักษณะภูมิประเทศของตำบลเตาปูน. ค้นเมื่อ ธันวาคม, 27, 2563, จาก https://www.taopon.go.th/.
Altieri, M. A., & Nicholls, C. I. (2020). Agroecology and regenerative agriculture: Sustainable solutions for hunger, poverty, and climate change. Food First Books.
Cohen, J.M., & Uphoff, N.T. (1981). Rural Development Participation: Concept and Measure For Project Design Implementation and Evaluation: Rural Development Committee Center for international Studies. New York: Cornell University Press.
Interorganizational Committee on Guideliness and Principles. (1994). Guidelines and Principles for Social Impact Assessment., imapact Assessment. 12(2) : 107-52.
Kreith, F., & Tchobanoglous, G. (2002). Handbook of Solid Waste Management. McGraw-Hill.
Pretty, J. (2008). Agricultural sustainability: Concepts, principles and evidence. Philosophical Transactions of the Royal Society B: Biological Sciences, 363(1491), 447-465.
Wight, G. D., & Killham, K. (2014). Environmental microbiology: From genomes to biogeochemistry. Wiley-Blackwell.
Zhang, Y. & Wildemuth, B. M. (2009). Qualitative analysis of content. In B.M. Wildemuth (Ed.) ,Applications of Social Research Methods to Question information and Library Science (pp. 297-307). Westport, CT.: Libraries Unlimit.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดสุพรรณบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารศาสตร์สาธารณสุขและนวัตกรรม ที่เป็นวรรณกรรมของผู้เขียน บรรณาธิการ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
2. บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ วารสารศาสตร์สาธารณสุขและนวัตกรรม