ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับกิจกรรมทางกายของผู้สูงอายุหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
คำสำคัญ:
กิจกรรมทางกาย, ผู้สูงอายุผู้สูงอายุบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากิจกรรมทางกาย และความสัมพันธ์ของปัจจัยนำ ปัจจัยเสริม และปัจจัยเอื้อกับกิจกรรมทางกายของผู้สูงอายุหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป เป็นกลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองได้หรือติดสังคม จำนวน 200 คน ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ (stratified random sampling) ตามเพศ แล้วสุ่มแบบง่ายด้วยการจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบไคสแควร์ (chi-square) และสถิติสหสัมพันธ์แบบสเปียร์แมน (Spearman rank correlation coefficient)
ผลการวิจัย พบว่า ผู้สูงอายุมีกิจกรรมทางกายอยู่ในระดับปานกลาง (=2.96, SD= 0.78) ปัจจัยนำพบว่า อาชีพมีความสัมพันธ์กับกิจกรรมทางกายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value= 0.002) สำหรับเพศ อายุ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา และรายได้ ไม่มีความสัมพันธ์กับกิจกรรมทางกายทางสถิติ ความรู้และเจตคติเกี่ยวกับกิจกรรมทางกายมีความสัมพันธ์ทางบวกกับกิจกรรมทางกายอยู่ในระดับต่ำและปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (r= 0.379, 0.673 p-value= 0.000) ปัจจัยเสริม พบว่า แรงสนับสนุนจากครอบครัว แรงสนับสนุนจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และแรงสนับสนุนจากชุมชน มีความสัมพันธ์ทางบวกกับกิจกรรมทางกายของผู้สูงอายุอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 อยู่ในระดับต่ำ ปานกลาง และปานกลาง ตามลำดับ (r=0.068, 0.64, 0.502 p-value= 0.000) ปัจจัยเอื้อ พบว่า สิ่งอำนวยความสะดวกมีความสัมพันธ์ทางบวกกับกิจกรรมทางกายของผู้สูงอายุอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 อยู่ในระดับต่ำ (r= 0.378, p-value= 0.000)
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. นุชราภรณ์ เลี้ยงรื่นรมย์, ฐิติกร โตโพธิ์ไทย, ชมพูนุท โตโพธิ์ไทย, วิชชุกร สุริยะวงศ์ไพศาล, สุพล ลิมวัฒนานนท์, จุฬาภรณ์ ลิมวัฒนานนท์, และคณะ. คนไทยมีกิจกรรมทางกายเพียงพอตามเกณฑ์ หรือไม่: ข้อมูลจากการสำรวจอนามัยและสวัสดิการ พ.ศ. 2558. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 2560;11(2):205-20.
3. สำนักงานสถิติแห่งชาติ. การสำรวจกิจกรรมทางกายของประชากร พ.ศ. 2558. กรุงเทพมหานคร: สำนักสถิติพยากรณ์ สำนักงานสถิติแห่งชาติ; 2559.
4. กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของชีวิต กรมกิจการผู้สูงอายุ. ข้อมูลสถิติผู้สูงอายุประเทศไทย ปี 2559. [อินเทอร์เน็ต]. 2559 [เข้าถึงเมื่อ 31 มกราคม 2561]. เข้าถึงจาก: www.dop.go.th/th/know/1/51
5. มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย, มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม. สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2559. ปราโมทย์ ประสาทกุล, บรรณาธิการ. นครปฐม: พริ้นเทอรี่; 2560.
6. ชลธิชา จันทคีรี. การส่งเสริมพฤติกรรมออกกำลังกายในผู้สูงอายุที่เปราะบาง. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. 2559;24(2):1-13.
7. มินตรา สาระรักษ์. การส่งเสริมกิจกรรมทางกายในวัยสูงอายุ. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. 2558;17(1):23-36.
8. กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ. ข้อแนะนำการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย การลดพฤติกรรมเนือยนิ่งและการนอนหลับสำหรับผู้สูงวัย (ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป). กรุงเทพมหานคร: เอ็นซีคอนเซ็ปต์; 2560.
9. องค์การบริหารส่วนตำบลบางปลา. ข้อมูลสภาพทั่วไปของตำบลบางปลา. สมุทรปราการ: องค์การบริหารส่วนตำบลบางปลา; 2560.
10. Gielen AC, Mcdonald EM, Gray TL, Bone LR. Using the PRECEDE-PROCEED model to apply health behavior theories, In: Glanz K, Rimer BK, Viswanath K, editors. Health behavior and health education theory, research, and practice. San Francisco: Jossey-Bass; 2008. pp. 407-34.
11. Yamane T. Statistical an introductory analysis. New York: Harper&Row; 1973. ใน บุญธรรม กิจ ปรีดาบริสุทธ์. สถิติวิเคราะห์เพื่อการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์; 2553.
12. Bloom BS, Hastings JT. Handbook on formative and summative evaluation of student learning. NewYork: McGraw Hill; 1971.
13. วิเชียร เกตุสิงห์. ค่าเฉลี่ยกับการแปลความหมาย: เรื่องง่ายๆบางครั้งก็พลาดได้. ข่าวสารการวิจัยศึกษา 2538;1(3): 8-11.
14. กุลวดี โรจน์ไพศาลกิจ. ความสัมพันธ์ของกิจกรรมทางกายกับสุขภาวะทางจิต สังคม และจิตวิญญาณของผู้สูงอายุสามกลุ่มวัย. วารสารศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า. 2559;33(4):300-13.
15. วีระวัฒน์ แซ่จิว. กิจกรรมทางกายและสมรรถภาพทางกายของผู้สูงอายุที่ออกกำลังกายในจังหวัดชลบุรี. [วิทยานิพนธ์]. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2559.
16. อภิญญา อิงอาจ. อิทธิพลของการสนับสนุนทางสังคม กิจกรรมทางกาย และพฤติกรรมการกำกับตนเองที่มีต่อความผาสุกในชีวิตของผู้สูงอายุ. วารสารไอซีทีศิลปากร. 2558;2(2):91-106.
17. ประไพวรรณ์ ศรีเมธาวรคุณ, ขนิษฐา นาคะ, ประนอม หนูเพชร. กิจกรรมทางกายของผู้สูงอายุในชนบทภาคใต้. วารสารสภาการพยาบาล. 2553; 25(1):112-20.
18. มณเฑียร ทองนพคุณ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับกิจกรรมทางกายของคนวัยทำงาน ในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด จังหวัดระยอง. [วิทยานิพนธ์]. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2559.
19. จินตนา ทองสุขนอก, มณีรัตน์ ธีระวิวัฒน์, นิรัตน์ อิมามี. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ ชมรมผู้สูงอายุ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์. วารสารสุขศึกษา. 2551;31(110):107-23.
20. วี พูลสวัสดิ์. กิจกรรมทางกายของผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร. [วิทยานิพนธ์]. นครปฐม: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2550.
21. เชียง เภาชิต, พรรณราย เทียมทัน. การพัฒนารูปแบบกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ ในจังหวัดนครสวรรค์. สุทธิปริทัศน์. 2559;94:112-27.
22. ธาริน สุขอนันต์, จารุณี ทรัพย์ประเสริฐ, สุภาวัลย์ จาริยะศิลป์, อาภิสรา วงศ์สละ. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออกกําลังกายของผู้สูงอายุ ในเขตเทศบาลเมืองบ้านสวน จังหวัดชลบุรี. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา. 2557;9(2):66-75.
23. ปุญญพัฒน์ ไชยเมล์, ปัทมา รักเอื้อ. ปัจจัยที่มีผลต่อการกำลังกายของประชาชนตำบลแหลมโตนด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา. 2556;8(1):37-47.
24. กุลวดี โรจน์ไพศาลกิจ. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุไทย: กรณีศึกษาผู้สูงอายุวัยกลางในจังหวัดสมุทรปราการ. วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 2559;28(3):68-83.
25. ชโลธร เสียงใส, สุจิตรา สุคนธทรัพย์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมีกิจกรรมทางกายของนิสิตนักศึกษา สถาบันอุดมศึกษาในกรุงเทพมหานคร. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ. 2558;16(3):63-75.
26. ยุพา จิ๋วพัฒนกุล , อุบลวรรณา เรือนทองดี, ฐิติรัตน์ ทับแก้ว. ผลของโปรแกรมการออกกำลังกายโดยการแกว่งแขนร่วมกับครอบครัวต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ. วารสารพยาบาลศาสตร์. 2556;30(2):46-57.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
