ผลการใช้โปรแกรมประยุกต์การวางแผนพฤติกรรมต่อความตั้งใจ ไม่เสพยาบ้าซ้ำในจังหวัดกาญจนบุรี
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบเปรียบเทียบสองกลุ่มวัดผลก่อนและหลังการทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการประยุกต์การวางแผนพฤติกรรมต่อความตั้งใจไม่เสพยาบ้าซ้ำ ในจังหวัดกาญจนบุรี กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้เสพติดยาบ้า ที่ผ่านการบำบัดจากค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติด ในพื้นที่อำเภอท่าม่วง และอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี โปรแกรมที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นประกอบด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่ การสร้างสัมพันธภาพ การพัฒนาตนเอง และการตั้งเป้าหมายชีวิต เก็บข้อมูลระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบวัดความตั้งใจในการเลิกเสพยาเสพติด ซึ่งผู้วิจัยดัดแปลงจาก รุ่งทิวา ใจจา (2550) ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 4 ท่าน มีค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ 0.80 และมีค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือเท่ากับ 0.75 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนา และสถิตินันพาราเมตริก และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยวิธีวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่าภายหลังได้รับโปรแกรมฯ กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนความตั้งใจในการเลิกเสพยาบ้าซ้ำ สูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .01) นอกจากนี้ ผลการติดตามตรวจปัสสาวะหาสารเมทแอมเฟตามีน พบว่า กลุ่มทดลองมีจำนวนผู้ที่ตรวจพบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะลดลง ในขณะที่กลุ่มเปรียบเทียบพบจำนวนผู้ที่ตรวจพบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะเพิ่มขึ้น
ผู้วิจัยเสนอแนะว่า พยาบาลเวชปฏิบัติชุมชนและบุคลากรสาธารณสุขควรตระหนักถึงความสำคัญของโปรแกรมการติดตามของผู้เสพยาบ้าที่เข้าบำบัดจากค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยเฉพาะการสนับสนุนให้ครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วมในระยะกำกับติดตาม เพื่อเพิ่มประสิทธิผลของการป้องกันการกลับไปเสพยาบ้าซ้ำ
References
คณะกรรมการบริหารเครือข่ายองค์กรวิชาการยาเสพติด. (2555). โครงการการสำรวจคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน : ประมาณการจำนวนประชากรใช้ยาเสพติดในประเทศไทย 2554. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด.
เครือข่ายพัฒนาวิชาการและข้อมูลสารเสพติดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. (2554). การศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการศึกษาวิจัยสารเสพติดและการศึกษาดูงานด้านการลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด. คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
บุญช่วย เทพยศ และวราภรณ์ กุประดิษฐ์. (2549). ปัจจัยด้านบุคคล ด้านจิตลักษณะ และคุณภาพชีวิตของผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติดในจังหวัดอุดรธานี. เอกสารประกอบการประชุมวิชาการสุขภาพจิตนานาชาติ ครั้งที่ 5 ณ โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ, วันที่ 3-5 กรกฎาคม 2549.
ปริศนารถสีดา. (2552). ความสัมพันธ์ในครอบครัวส่งผลต่อการเสพซ้ำของผู้เสพเมทแอมเฟตามีนในระบบบังคับบำบัดในจังหวัดขอนแก่นและยโสธร. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเวชศาสตร์ชุมชน (นานาชาติ), บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
พรรนอ กลิ่นกุหลาบ. (2548). ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง การสนับสนุนทางสังคม พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดสารเสพติดที่เข้ารับการบำบัดรักษาในสถาบันธัญญารักษ์. รายงานการวิจัยการศึกษาแบบค้นคว้าอิสระปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (จิตวิทยาชุมชน) สาขาจิตวิทยาชุมชน, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
พรรณี วาทิสุนทร และกฤติกา เฉิดโฉม. (2552). การศึกษาเปรียบเทียบผลสำเร็จของการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติดระบบบังคับบำบัดและระบบสมัครใจ. กรุงเทพมหานคร : สำนักพัฒนาระบบบริการสุขภาพกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข.
พิชัย แสงชาญชัย. (2552). การทบทวนองค์ความรู้ เรื่อง จิตสังคมบำบัดสำหรับผู้ติดสุรา. เชียงใหม่ : วนิดาการพิมพ์.
มานพ คณะโต และพูนรัตน์ ลียติกุล. (2557). “มาตรวัดมลทินทางสังคมเกี่ยวกับยาเสพติดของคนไทย”.วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน. 2(2) : 1-18.
----- และคณะ. (2557). การศึกษาประสิทธิผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติดในระบบแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม. ขอนแก่น : เครือข่ายพัฒนาวิชาการและข้อมูลสารเสพติด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมหาวิทยาลัยขอนแก่น.
รุ่งทิวา ใจจา. (2550). ผลของการบำบัดตามโปรแกรมการผสานหลักทางพระพุทธศาสนากับเทคนิคการเรียนรู้ทางจิตวิทยาต่อความตั้งใจในการเลิกสุราของผู้ป่วยเสพติดสุรา. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาจิตวิทยาการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยใหม่.
ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ. (2557). คู่มือค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติดระบบสมัครใจระยะเวลา 9 วัน. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี. (2558). ข้อมูลจากระบบรายงานระบบติดตามและระบบเฝ้าระวังยาเสพติด. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2558, จาก https://antedrug.moph.go.th/beta2/
สุชิน ตู้นิ่ม. (2547). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมป้องกันการเสพยาบ้า ในพลทหารกองประจำการ สังกัดมณฑลทหารบกที่ 11. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตสาขาสุขศึกษา, คณะพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สุวิมล สนั่นชาติวณิช และคณะ. (2551). ผลของโปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพโดยการมีส่วนร่วมของครอบครัวต่อการเห็นคุณค่าในตนเองและความเข้มแข็งในการมองโลก ของผู้เสพแอมเฟตามีน. รายงานการเสนอผลงานวิจัยในการประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติเพื่อนําเสนอผลงานวิจัยโรงพยาบาลห้วยยอด จังหวัดตรัง.
Ajzen,I.&Fishbein,M. (1980). Understandingattitudesandpredictingsocialbehavior. EnglewoodCliffs, NJ : Prentice-Hall.
------ .(2005). Attitudes,personalityandbehavior. (2nd Ed). Milton-Keynes, England : Open University Press/McGraw-Hill.
&Manstead, A. S. R . (2007). Changing health-related behaviors : An approach based on the theory of planned behavior. In K. van den Bos, M.Hewstone, J. de Wit, H. Schut& M. Stroebe (Eds.), The scope of social psychology : Theory and applications (pp. 43-63). New York : Psychology Press.
Fishbein, M.&Ajzen, I. (2010). Predicting and changing behavior : The reasoned action approach. New York : Psychology Press (Taylor & Francis).
Marram, G.K. (1978). The group approach in nursing practice. (2nd ed). Saint Louis: The C.V.
Maslow, A.H. (1970). Motivation and personality. (2nd ed.). New York : Harper and Row.
Thoits,P.A. (1982). Conceptual methodological and theoretical problem in studying social support as a buffer against lift stress. Journal of Health and Social Behavior. 23(2) : 145-159.
United Nations [UN] and World Health Organization [WHO]. (2008). Principles of drug dependence treatment discussion, Geneva : UN.
United Nations Office On Drugs And Crime [UNODC]. (2014). World DrugReport 2014. New York : United Nations publication.