ผลของโปรแกรมการดูแลตนเองร่วมกับการนวดแผนไทย และการพอกสมุนไพรต่อความรุนแรงข้อเข่าเสื่อม ในผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมในชุมชน
คำสำคัญ:
การดูแลตนเอง, ข้อเข่าเสื่อม, การนวดแผนไทย, การพอกสมุนไพร, ผู้สูงอายุบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการดูแลตนเองร่วมกับการนวดแผนไทยและการพอกสมุนไพรต่อความรุนแรง ข้อเข่าเสื่อม ในผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมในชุมชน
รูปแบบการวิจัย: การวิจัยกึ่งทดลอง
วิธีดำเนินการวิจัย: กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สูงอายุประเภทติดสังคมซึ่งสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ที่มีอายุระหว่าง 60-80 ปี และมีภาวะข้อเข่าเสื่อมที่มารับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เขตอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 60 ราย ได้รับการจับคู่ (Match pair) ด้วยเพศ อายุ ระดับความรุนแรงข้อเข่าเสื่อม และการรักษาข้อเข่าเสื่อม และสุ่มเข้ากลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 ราย กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการดูแลตนเองร่วมกับการนวดแผนไทยและการพอกสมุนไพร
รวม 12 ครั้ง กลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) โปรแกรมการดูแลตนเองร่วมกับการนวด แผนไทยและการพอกสมุนไพร 2) แบบประเมินคัดกรองภาวะข้อเข่าเสื่อม 3) แบบประเมินระดับความรุนแรงข้อเข่าเสื่อม โดยแบบประเมินชุดที่ 2 และ 3 ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน มีค่าความตรงตามเนื้อหา เท่ากับ 0.90, 0.95, และ 0.87 และมีค่าความเที่ยงสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาค เท่ากับ 0.87 และ 0.85 ตามลำดับ วิเคราะห์
ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าเฉลี่ยโดยใช้สถิติ ทดสอบที
ผลการวิจัย: 1) คะแนนเฉลี่ยความรุนแรงข้อเข่าเสื่อมของผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมหลังได้รับโปรแกรมน้อยกว่าก่อนได้รับโปรแกรม
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระดับ .05 2) คะแนนเฉลี่ยความรุนแรงข้อเข่าเสื่อมกลุ่มที่ได้รับโปรแกรมน้อยกว่ากลุ่มที่ได้รับการดูแลตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระดับ .05
สรุป: โปรแกรมการดูแลตนเองร่วมกับการนวดแผนไทยและการพอกสมุนไพรต่อความรุนแรงข้อเข่าเสื่อม ในผู้สูงอายุ ข้อเข่าเสื่อมในชุมชน สามารถประยุกต์ใช้เป็นแนวทางการดูแลผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมในชุมชนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการรักษา
การวิจัยครั้งต่อไป และควรขยายพื้นที่ในการศึกษาและเพิ่มศาสตร์วิชาชีพที่เกี่ยวข้องเพื่อมุมมองที่หลากหลาย
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ของบทความที่ตีพิมพ์เป็นของวารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งฉบับตีพิมพ์เป็นรูปเล่มและเอกสารออนไลน์