บทนำเวชศาสตร์เชิงประจักษ์
คำสำคัญ:
เวชศาสตร์เชิงประจักษ์, หลักฐานทางการแพทย์บทคัดย่อ
ในโลกแห่งข้อมูลข่าวสารปัจจุบัน ซึ่งมีสารสนเทศจำนวนมากที่ออกเผยแพร่ในแต่ละวัน มีผู้กล่าวอ้างว่า
“หากแพทย์ผู้ใดต้องการเป็นแพทย์ผู้นำสมัย เขาต้องอ่านวารสารอย่างน้อย 17 ฉบับต่อวัน” ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา
ภายใต้การทำงานที่ยุ่งเหยิงในแต่ละวัน แพทย์ทุกท่านจึงต้องใช้เวลาในแต่ละวันให้มีความคุ้มค่ามากที่สุด นั่นคือ
การรู้จักเลือกใช้สารสนเทศที่ดีที่สุดให้กับการรักษาผู้ป่วยแต่ละราย โดยคำนึงถึงบริบทของผู้ป่วย ค่านิยมและวัฒนธรรม
ทางสังคมให้มีความเหมาะสม ซึ่งแพทย์ในปัจจุบันต้องมีการเรียนรู้กลวิธีดังกล่าวเพื่อใช้ประกอบในการทำงาน
ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์หรือ “เวชศาสตร์เชิงประจักษ์” ซึ่งประกอบด้วยกลวิธีต่าง ๆ เป็นลำดับขั้น หมุนวนกันไป
ได้แก่ การตั้งคำถาม หรือปัญหา การค้นหาหลักฐานหรือสารสนเทศ การประเมินสารสนเทศ การประยุกต์ใช้
และการประเมินผล เพื่อแก้ไขปรับปรุงในครั้งถัดไป ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงบริบทของผู้ป่วยแต่ละราย ภายใต้ค่านิยม
และวัฒนธรรมทางสังคม
References
medicine:challenges for evidence-based
laboratory medicine. Clinical Chemistry. 2001;
47: 1536-46.
2. Evidence-based medicine systematic reviews:
Cochrane Collaboration Infectious Diseases
Group. TDR News. 1997; 52: 1.
3. Akobeng AK. Principles of evidence based
medicine. Arch Dis Child. 2005; 90: 837-48.
4. Anwar S. Evidence based medicine,
systematic reviews and meta-analysis of
literature: a powerful tool for the practising
doctor. J Coll Physicians Surg Pak. 2007; 17:
123-4.
5. Bistrian BR, McCowen KC. "Evidence-based"
medicine derived from systematic reviews
or meta-analyses to develop clinical practice
guidelines. Nutr Clin Pract. 2004; 19: 650-1.
6. Burton MJ. Systematic reviews, Cochrane
and evidence-based medicine - why I prize
prudent scepticism above indefensible
certainty. Clin Otolaryngol. 2007; 32: 60-3.
7. Cartabellotta A, Minella C, Bevilacqua L,
Caltagirone P. [Evidence-based medicine. 3.
Systematic reviews: a tool for clinical
practice, permanent education and health
policy decisions. Italian Group on Evidence-
Based Medicine-GIMBE]. Recenti Prog Med.
1998; 89: 329-37.
8. Selvaraj S Kumar Y, Elakiya M, Saraswathi P,
Balaji D, Nagamani P, et al. Evidence-based
medicine-a new approach to teach medicine:
a basic review for beginners. Biol Med Journal.
2010; 2: 1-5.
9. Rosner AL. Evidence-based medicine:
Revisiting the pyramid of priorities. Journal
of Bodywork and Movement Therapies. 2012;
16: 42-9.
10. Critical Appraisal of a Case-Control Study.
[Monograph on the internet]: CEBMa center
for Evidence-Based Managemen; [cited 2013
19-12-2013] ; Available from:http://www. cebma.
org/wp-content/uploads/ Critical-Appraisal-
Questions-for-a-Case-Control-Study.pdf.
11. Evidence-based medicine. Wikipedia. [serial
on the Internet]. 2012 [cited 2012 14 April]. :
Available from:http://en.wikipedia.org/wiki/
Evidence-based_medicine.
12. พิมพ์วัลย์ บุญมงคล. ระบบความเชื่อและพฤติกรรม
เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเพศ และความสัมพันธ์
หญิง ชายในระบบครอบครัว นัยยะและกลวิธีใน
ระดับชุมชน เพื่อการป้องกันโรคติดเชื้อทางเพศ
สัมพันธ์และโรคเอดส์ในหญิงชนบทที่ แต่งงานแล้ว
2542: Available from: http://www.tnrr.in.th/rir/
index. php?page=researching&nid=45034.
13. Haynes RB, Devereaux PJ, Guyatt GH.
Clinical expertise in the era of evidence-based
medicine and patient choice. Evidence
Based Medicine. 2002; 7: 36-8.