ประสบการณ์การใช้สัมพันธภาพบำบัดในการดูแลแบบประคับประคองสำหรับผู้ป่วยและครอบครัว

ผู้แต่ง

  • อรพรรณ ลือบุญธวัชชัย วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ กรุงเทพฯ
  • นฤมล บุญบางยาง โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ กรุงเทพฯ
  • สายสมร เฉลยกิตติ วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก กรุงเทพฯ

คำสำคัญ:

สัมพันธภาพบำบัด, การดูแลแบบประคับประคอง, ผู้ป่วยและครอบครัว

บทคัดย่อ

           บทความวิชาการนี้ผู้เขียนเรียบเรียงจากประสบการณ์เป็นพยาบาลด้านสุขภาพจิตและจิตเวชโดยใช้แนวคิดและทฤษฎีด้านสัมพันธภาพบำบัดตามแนวติดของ Peplau (1997) ร่วมกับแนวคิดการเสริมสร้างพลังอำนาจของ Gibson (1991) ในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง และถอดบทเรียนในการทำงานร่วมกับทีม บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ และจากการสนทนากลุ่มร่วมกับแพทย์ ทีมพยาบาลวิชาชีพ และพระสงฆ์ รวมถึงทีมอภิบาลของโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ แล้ววิเคราะห์สถานการณ์เพื่อสรุปแนวทางในการช่วยเหลือผู้ป่วย ญาติ และครอบครัว อย่างดีที่สุด เหมาะสมที่สุด ณ ช่วงเวลานั้น เป้าหมายหลักของการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองและผู้ป่วยระยะสุดท้าย คือ การลดความทุกข์ทรมานจากการเจ็บปวดของผู้ป่วย สร้างสัมพันธภาพที่ดี ยอมรับ แสดงความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจผู้ป่วย ครอบครัว และผู้ดูแล เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้ระบาย ความทุกข์ ความเครียด และตอบคำถามที่เหมาะสม สนับสนุนความรู้ ความเข้าใจ ลดความเครียดและวิตกกังวลของผู้ป่วยและครอบครัว และจัดสถานการณ์ที่สงบ สุขสบาย ผ่อนคลาย ดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวระหว่างการรอคอยและการจากไป รวมทั้ง ให้โอกาสผู้ป่วยและครอบครัวได้จัดการกับบางสิ่งที่ยังกังวล โดยให้ความสำคัญกับความเชื่อความศรัทธา และการปฏิบัติตามความเชื่อ ซึ่งทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญในการที่จะทำให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างดีที่สุด ควรค่าแก่การเป็นมนุษย์มากที่สุด และสามารถเผชิญความตายได้อย่างสมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

Artsanthia, J., Noppornpun M., Mungsungnen, S., Teeradetchachart, P., & Amaridchatchawan, S. (2021). The perception of needs in end stage renal disease patients and caregivers for palliative care: Phenomenological study. Journal of The Royal Thai Army Nurses, 22(1), 244-253.

Connor, S. R., & Bermedo, M. C. (2014). Global atlas of palliative care at the end of life. 2014. World Health Organization and Worldwide Palliative Care Alliance.

Gibson, C. H. (1991). A concept analysis of empowerment. Journal of Advanced Nursing, 16(3), 354-361.

Lueboonthavatchai, O. (2011). Health counseling. Bangkok: The Chulalongkorn University Press.

Lueboonthavatchai, O., Kitimascool, V., & Chaleoykitti, S. (2018). Using the therapeutic relationship in palliative care. Journal of Nursing Division, 45(3), 159-170.

Nimmanwolwong, N. (2021). Caring for palliative patients and families. Bangkok: Cancer Centered, Phayathai hospital.

Peplau, H. E. (1997). Peplau's theory of interpersonal relations. Nursing science quarterly, 10(4), 162-167.

Sepúlveda, C., Marlin, A., Yoshida, T., & Ullrich, A. (2002). Palliative care: the World Health Organization's global perspective. Journal of pain and symptom management, 24(2), 91-96.

Siriratanapongtorn, N., Thungngoen, P., Mana, N., & Krutmuang, P. (2017). Perception of nurses about palliative care and end of life in Naresuan University Hospital, Phitsanulok. Journal of The Royal Thai Army Nurses, 18(suppl.2), 221-228.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-06-29

รูปแบบการอ้างอิง

ลือบุญธวัชชัย อ. ., บุญบางยาง น. ., & เฉลยกิตติ ส. . (2022). ประสบการณ์การใช้สัมพันธภาพบำบัดในการดูแลแบบประคับประคองสำหรับผู้ป่วยและครอบครัว. วารสารพยาบาลตำรวจและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 14(1), 204–213. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/policenurse/article/view/255549

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ