ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อของผู้ป่วยวัณโรคปอดในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา
คำสำคัญ:
ผู้ป่วยวัณโรคปอด, การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในโรงพยาบาล, ชายแดนไทย-เมียนมาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบหาความสัมพันธ์ เพื่อศึกษาการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล การรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติ การรับรู้ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติ และความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อวัณโรค กับการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อของผู้ป่วยวัณโรคปอด กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยวัณโรคปอดที่มารับการรักษาที่คลินิกวัณโรค โรงพยาบาลทั่วไปแห่งหนึ่งในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา จำนวน 99 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามการรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติ มีค่าความเชื่อมั่นในชาวไทยและชาวเมียนมา .84 และ .80 แบบสอบถามการรับรู้ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติ มีค่าความเชื่อมั่นในชาวไทยและชาวเมียนมา .80 และ .81 แบบวัดความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อวัณโรค มีค่าความเชื่อมั่นในชาวไทยและชาวเมียนมา .73 และ .81 และแบบสอบถามการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ มีค่าความเชื่อมั่นในชาวไทยและชาวเมียนมา .80 และ .81 เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม 2564 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สหสัมพันธ์อีต้า สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และสหสัมพันธ์แบบสเปียร์แมน
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยวัณโรคปอดส่วนใหญ่มีการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโดยรวมในระดับสูง คิดเป็นร้อยละ 86.90 การรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติ และความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อวัณโรค มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อของผู้ป่วยวัณโรคปอดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (rs = .231, p < .05 และ rs = .425, p < .001 ตามลำดับ) การรับรู้ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติมีความสัมพันธ์ทางลบกับการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อของผู้ป่วยวัณโรคปอดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (rs = -.318, p < .01)
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า บุคลากรสุขภาพควรช่วยลดปัญหาอุปสรรคในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อของผู้ป่วยวัณโรคปอด ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยทุกครั้งที่มาพบแพทย์ตามนัด และประเมินการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อเป็นระยะ
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข. (2565). กลุ่มรายงานมาตรฐานงานวัณโรค. สืบค้นจาก https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/page.php?cat_id=7a18700f863ca0f12e569688b0763db4
กลุ่มงานสารสนเทศทางการแพทย์ โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก. (2565). สถิติที่สำคัญ. สืบค้นจาก https://maesot.moph.go.th/site/page/VFhwblBRPT0=
กองวัณโรค กรมควบคุมโรค. (2564). แนวทางการควบคุมวัณโรคประเทศไทย พ.ศ. 2564. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.
ทนันพัทธ์ นาคนิกร. (2562). ความสัมพันธ์ของการรับรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการใช้ยาของผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานในพื้นที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ปีงบประมาณ 2557–2561. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10, 17(1), 72–80.
นาตยา ดวงประทุม, และเฟื่องฟ้า รัตนาคณหุตานนท์. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลห้วยขมิ้น อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 9(2), 53–67.
นิตินัย สีมาปัน. (2559). ปฏิสัมพันธ์ทางพื้นที่และการแพร่ระบาดของวัณโรคบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาร์ ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
นิสารัตน์ คำด้วง, และศุภวรรณ พงศ์พัฒนาวุฒิ. (2561). ผลของการให้บริบาลทางเภสัชกรรมในผู้ป่วยวัณโรคปอดของโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 17 จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารเภสัชกรรมไทย, 10(2), 345–355.
ประนอม นพคุณ. (2551). ผลของการสอนด้วยสื่อประสมต่อความเชื่อด้านสุขภาพและการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในผู้ป่วยวัณโรคปอด (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สุมาพร กลัดเข็มเพชร. (2554). แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ ความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรค การตีตรา กับการดูแลตนเองของผู้ป่วยวัณโรคปอดในโรงพยาบาลตติยภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
อดิเรก ฟั่นเขียว. (2559). การวิเคราะห์มาตรการป้องกัน บรรเทาและแก้ไขผลกระทบ จากปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, 11(พิเศษ), 75–83.
เอกพันธ์ คำภีระ, สุมาลี เลิศมัลลิกาพร, และอะเคื้อ อุณหเลขกะ. (2564). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อวัณโรคปอดในชุมชน. พยาบาลสาร, 48(1), 174–186.
Ato, M. L., & Sis, M. T. (2019). Assessment of knowledge, attitude and practice of tuberculosis transmission and prevention among tuberculosis patients at Kuyyu hospital, North Shoa Zone, Oromia Regional State, Ethiopia. The Anatolian Journal of Family Medicine, 2(3), 91–97. doi:10.5505/anatoljfm.2019.77487
Becker, M. H. (1974). The health belief model and personal health behavior. Health Education Monographs, 2, 324–508. doi:10.1177/109019817400200407
Bloom, B. S. (Ed.). (1956). Taxonomy of educational objectives, the classification of educational goals – handbook 1: Cognitive domain. New York: David McKay.
Centers for Disease Control and Prevention. (2021). Questions and answers about tuberculosis. Retrieved from https://www.cdc.gov/tb/media/Question_Answers_About_TB_English.pdf
Cohen, J. (1992). A power primer. Psychological Bulletin, 112(1), 155–159. doi:10.1037/0033-2909.112.1.155
Gebremariam, R. B., Wolde, M., & Beyene, A. (2021). Determinants of adherence to anti-TB treatment and associated factors among adult TB patients in Gondar city administration, Northwest, Ethiopia: Based on health belief model perspective. Journal of Health, Population and Nutrition, 40(1), 49. doi:10.1186/s41043-021-00275-6
Genakama, A. T., Hidayati, L., & Hadisuyatmana, S. (2019). Prevention of TB transmission behavior with health promotion model. Indonesian Journal of Community Health Nursing, 4(2), 53–59. doi:10.20473/ijchn.v4i2.13056
Huddart, S., Bossuroy, T., Pons, V., Baral, S., Pai, M., & Delavallade, C. (2018). Knowledge about tuberculosis and infection prevention behavior: A nine city longitudinal study from India. PLoS One, 13(10), e0206245. doi:10.1371/journal.pone.0206245
Kigozi, N. G., Heunis, J. C., Engelbrecht, M. C., Janse van Rensburg, A. P., & van Rensburg, H. C. J. D. (2017). Tuberculosis knowledge, attitudes and practices of patients at primary health care facilities in a South African metropolitan: Research towards improved health education. BMC Public Health, 17(1), 795. doi:10.1186/s12889-017-4825-3
Kim, Y. M., & Yoo, K. H. (2019). A correlational study on the knowledge, stress and self-care performance among tuberculosis patients. The Journal of Korean Academic Society of Nursing Education, 25(3), 366–377. doi:10.5977/jkasne.2019.25.3.366
Li, Z. T., Yang, S. S., Zhang, X. X., Fisher, E. B., Tian, B. C., & Sun, X. Y. (2015). Complex relation among health belief model components in TB prevention and care. Public Health, 129(7), 907–915. doi:10.1016/j.puhe.2015.04.008
Malai, V., & Malagi, U. (2019). Knowledge and behavior among tuberculosis patients of Dharwad, Karnataka. The Pharma Innovation Journal, 8(2), 218–221. Retrieved from https://www.thepharmajournal.com/archives/2019/vol8issue2/PartD/8-2-29-677.pdf
Orem, D. E. (1995). Nursing concepts of practice (5th ed.). Boston, MA: Mosby.
Tola, H. H., Karimi, M., & Yekaninejad, M. S. (2017). Effects of sociodemographic characteristics and patients’ health beliefs on tuberculosis treatment adherence in Ethiopia: A structural equation modelling approach. Infectious Diseases of Poverty, 6(1), 167. doi:10.1186/s40249-017-0380-5
World Health Organization. (2019). WHO guidelines on tuberculosis infection prevention and control: 2019 update. Geneva: Author.
World Health Organization. (2020). Global tuberculosis report 2020. Retrieved from https://www.who.int/publications/i/item/9789240013131
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน