ผลของการใช้รูปแบบการฝึกหัดการขับถ่ายปัสสาวะช่วงเวลากลางวันของเด็กปฐมวัย
คำสำคัญ:
การฝึกหัดการขับถ่ายปัสสาวะ, ช่วงเวลากลางวัน, เด็กปฐมวัยบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง เพื่อศึกษาผลของการใช้รูปแบบการฝึกหัดการขับถ่ายปัสสาวะช่วงเวลากลางวันของเด็กปฐมวัย กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ปกครองและเด็กปฐมวัย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี จำนวน 30 คู่ เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการฝึกหัดการขับถ่ายปัสสาวะช่วงเวลากลางวันของเด็กปฐมวัย คู่มือการฝึกหัดการขับถ่ายปัสสาวะช่วงเวลากลางวันของเด็กปฐมวัย แบบประเมินความพร้อมก่อนฝึกหัดการขับถ่ายปัสสาวะช่วงเวลากลางวันของเด็กปฐมวัยโดยครูพี่เลี้ยง แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ปกครองและเด็กปฐมวัย แบบประเมินความรู้ในการฝึกหัดการขับถ่ายปัสสาวะช่วงเวลากลางวันของเด็กปฐมวัยของผู้ปกครอง มีค่าความเชื่อมั่น .80 และแบบบันทึกการฝึกหัดการขับถ่ายปัสสาวะช่วงเวลากลางวันของเด็กปฐมวัยโดยครูพี่เลี้ยงและผู้ปกครอง ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน 2565 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ one-way repeated measures ANOVA โดยทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธี Bonferroni
ผลการวิจัยพบว่า 1) คะแนนเฉลี่ยความรู้ในการฝึกหัดการขับถ่ายปัสสาวะช่วงเวลากลางวันของเด็กปฐมวัยของผู้ปกครอง ระยะหลังการใช้รูปแบบ 4 สัปดาห์ และระยะหลังการใช้รูปแบบ 8 สัปดาห์ มากกว่าระยะก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001) และระยะหลังการใช้รูปแบบ 8 สัปดาห์ มากกว่าระยะหลังการใช้รูปแบบ 4 สัปดาห์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) และ 2) ระยะหลังการใช้รูปแบบ 4 สัปดาห์ และระยะหลังการใช้รูปแบบ 8 สัปดาห์ เด็กปฐมวัยมีความสามารถในการควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะช่วงเวลากลางวัน คิดเป็นร้อยละ 90 และ 96.67 ตามลำดับ
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า ครูปฐมวัยควรนำรูปแบบการฝึกหัดการขับถ่ายปัสสาวะช่วงเวลากลางวันของเด็กปฐมวัยนี้ ไปประยุกต์ใช้กับเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพื่อให้เด็กปฐมวัยมีความสามารถในการควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะช่วงเวลากลางวันเพิ่มมากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
จริยาพร วรรณโชติ. (2564). เอกสารรายงานผลการสำรวจความต้องการของผู้ปกครองเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ปีการศึกษา 2564. วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี.
จิรนันท์ วีรกุล. (2564). การฝึกขับถ่ายในเด็ก. สืบค้นจาก http://www.med.nu.ac.th/dpMed/fileKnowledge/254_2021-01-07.pdf
ตุลชาติ ชุ่มชื่น, ประพิมพ์พงศ์ วัฒนะรัตน์, และชนิดา มิตรานันท์. (2562). ผลของการใช้ชุดฝึกการขับถ่าย โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ที่มีต่อทักษะการช่วยเหลือตนเองด้านการขับถ่ายของเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาระดับปานกลาง. วารสารวิจัยและพัฒนาการศึกษาพิเศษ, 8(2), 24–40.
อิสราภา ชื่นสุวรรณ. (2561). ปัญหาการขับถ่ายในเด็ก. ใน สุรีย์ลักษณ์ สุจริตพงศ์, รวิวรรณ รุ่งไพรวัลย์, ทิพวรรณ หรรษคุณาชัย, บานชื่น เบญจสุวรรณเทพ, อดิศร์สุดา เฟื่องฟู, จริยา จุฑาภิสิทธิ์, และพัฏ โรจน์มหามงคล (บ.ก.), ตำราพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก เล่ม 4 (น. 545–566). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ พี.เอ.ลีฟวิ่ง.
Albaramki, J. H., Allawama, M. A., & Yousef, A. M. F. (2017). Toilet training and influencing factors that affect initiation and duration of training: A cross sectional study. Iranian Journal of Pediatrics, 27(3), e9656. doi:10.5812/ijp.9656
Andriyani, S., Rahmi, U., Sulastri, A., & Darmawan, D. (2021). The role of parents in implementing toilet training for toddlers. Malaysian Journal of Medicine and Health Sciences, 17(Suppl. 4), 44–49. Retrieved from https://medic.upm.edu.my/upload/dokumen/202201011653568)_2021_0534.pdf
Azrin, N. H., & Foxx, R. M. (1974). The token economy: A motivational system for therapy and rehabilitation. New York: Appleton-Century-Crofts.
Baird, D. C., Bybel, M., & Kowalski, A. W. (2019). Toilet training: Common questions and answers. American Family Physician, 100(8), 468–474. Retrieved from https://www.aafp.org/pubs/afp/issues/2019/1015/p468.html
Brazelton, T. B. (1962). A child-oriented approach to toilet training. Pediatrics, 29(1), 121–128. doi:10.1542/peds.29.1.121
Breinbjerg, A., Rittig, S., & Kamperis, K. (2021). Does the development and use of modern disposable diapers affect bladder control? A systematic review. Journal of Pediatric Urology, 17(4), 463–471. doi:10.1016/j.jpurol.2021.05.007
Cohen, J. (1988). Statistical power analysis for the behavioral sciences (2nd ed.). Hillsdale, NJ: Lawrence Erlbaum Associates.
de Carvalho Mrad, F. C., da Silva, M. E., Moreira Lima, E., Bessa, A. L., de Bessa Junior, J., Netto, J. M. B., & de Almeida Vasconcelos, M. M. (2021). Toilet training methods in children with normal neuropsychomotor development: A systematic review. Journal of Pediatric Urology, 17(5), 635–643. doi:10.1016/j.jpurol.2021.05.010
Greer, B. D., Neidert, P. L., & Dozier, C. L. (2016). A component analysis of toilet-training procedures recommended for young children. Journal of Applied Behavior Analysis, 49(1), 69–84. doi:10.1002/jaba.275
Hockenberry, M. J., Wilson, D., & Rodgers, C. C. (2019). Wong’s essentials of pediatric nursing (10th ed.). St. Louis: Elsevier.
Kolb, D. A. (2015). Experiential learning: Experience as the source of learning and development (2nd ed.). Englewood Cliffs, NJ: Pearson Education.
Law, E., Yang, J. H., Coit, M. H., & Chan, E. (2016). Toilet school for children with failure to toilet train: Comparing a group therapy model with individual treatment. Journal of Developmental & Behavioral Pediatrics, 37(3), 223–230. doi:10.1097/DBP.0000000000000278
Li, X., Wen, J. G., Xie, H., Wu, X. D., Shen, T., Yang, X. Q., … Du, Y. K. (2020). Delayed in toilet training association with pediatric lower urinary tract dysfunction: A systematic review and meta-analysis. Journal of Pediatric Urology, 16(3), 352.e1–352.e8. doi:10.1016/j.jpurol.2020.02.016
Netto, J. M. B., de Paula, J. C., Bastos, C. R., Soares, D. G., de Castro, N. C. T., Sousa, K. K. D. V., ... de Bessa, J. Jr. (2021). Personal and familial factors associated with toilet training. International Brazilian Journal of Urology, 47(1), 169–177. doi:10.1590/S1677-5538.IBJU.2020.0129
Paquet Croteau, N., Moore, C., Griffith, A., & Franco, E. (2023). The effects of a caregiver implemented toilet training package. Journal of Autism and Developmental Disorders, 53(11), 4185–4198. doi:10.1007/s10803-022-05703-y
Petrova, E. (2017). The influence of positive reinforcements on motivation for education and training activities. Journal of Economic Development, Environment and People, 6(3), 6–15. doi:10.26458/JEDEP.V6I3.548
Sclar, G. D., & Mosler, H. J. (2022). Caregiver social support and child toilet training in rural Odisha, India: What types of support facilitate training and how?. Applied Psychology: Health and Well-Being, 14(2), 413–433. doi:10.1111/aphw.12311
Siwi, R. P. Y., Cahyaning Ciputri, G. A., Rohmah, M., Mufida, R. T., & Istighosah, N. (2022). Analysis of parental awareness of toilet training success in children aged 1–3 years. Journal for Quality in Women’s Health, 5(2), 141–152. doi:10.30994/jqwh.v5i2.164
Somoza Argibay, I., Méndez Gallart, R., Casal Beloy, I., & García González, M. (2019). Urinary incontinence and lower urinary tract dysfunction prevalence in schoolchildren: Risk factors. Cirugia Pediatrica, 32(3), 145–149. Retrieved from https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/31486307/
Van Aggelpoel, T., De Wachter, S., Neels, H., Van Hal, G., Roelant, E., & Vermandel, A. (2021). Implementing a new method of group toilet training in daycare centres: A cluster randomised controlled trial. European Journal of Pediatrics, 180(5), 1393–1401. doi:10.1007/s00431-020-03879-y
Van Aggelpoel, T., Vermandel, A., Fraeyman, J., Massart, M., & Van Hal, G. (2019). Information as a crucial factor for toilet training by parents. Child: Care, Health and Development, 45(3), 457–462. doi:10.1111/cch.12653
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน
