ผลของการจัดบริการสุขภาพทางไกลต่อวินัยในการรับประทานยาและปริมาณไวรัสในกระแสเลือดของผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการคงที่ในคลินิกยาต้านไวรัส โรงพยาบาลบ่อไร่ จังหวัดตราด

ผู้แต่ง

  • สิริรัตน์ เหลืองโสมนภา โรงพยาบาลบ่อไร่ จังหวัดตราด
  • ยศพล เหลืองโสมนภา วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • สมบัติ เหลืองโสมนภา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทับทิมสยาม 01 จังหวัดตราด
  • ฤทธิชัย สุวรรณรัตน์ โรงพยาบาลบ่อไร่ จังหวัดตราด
  • ศุภณัฐ จงประกอบกิจ โรงพยาบาลบ่อไร่ จังหวัดตราด

คำสำคัญ:

การจัดบริการสุขภาพทางไกล, เอชไอวี, วินัยในการรับประทานยา, ปริมาณไวรัสในกระแสเลือด

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง เพื่อศึกษาผลของการจัดบริการสุขภาพทางไกลต่อวินัยในการรับประทานยาและปริมาณไวรัสในกระแสเลือดของผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการคงที่ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการคงที่ในคลินิกยาต้านไวรัส โรงพยาบาลบ่อไร่ จังหวัดตราด จำนวน 20 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย การจัดบริการสุขภาพทางไกลของคลินิกยาต้านไวรัส แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินวินัยในการรับประทานยา แบบบันทึกปริมาณไวรัสในกระแสเลือด และแบบสอบถามความคิดเห็นต่อการจัดบริการสุขภาพทางไกลของคลินิกยาต้านไวรัส ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม 2566 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่ามัธยฐาน ค่าพิสัยควอไทล์ Wilcoxon signed-rank test และ McNemar test

ผลการวิจัยพบว่า 1) หลังได้รับการจัดบริการสุขภาพทางไกล ผู้ติดเชื้อเอชไอวีมีคะแนนวินัยในการรับประทานยาไม่แตกต่างจากก่อนได้รับการจัดบริการสุขภาพทางไกล 2) หลังได้รับการจัดบริการสุขภาพทางไกล ผู้ติดเชื้อเอชไอวีมีปริมาณไวรัสในกระแสเลือดในระดับ undetectable ไม่แตกต่างจากก่อนได้รับการจัดบริการสุขภาพทางไกล และ 3) ผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั้งหมดต้องการให้คลินิกยาต้านไวรัสจัดบริการสุขภาพทางไกลเช่นนี้ต่อไป

จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า ผู้บริหารโรงพยาบาลบ่อไร่ควรสนับสนุนการจัดบริการสุขภาพทางไกลให้แก่ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการคงที่ต่อไป เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีมีความสะดวกในการรับบริการมากขึ้น

เอกสารอ้างอิง

กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค. (2565ก). การจัดระบบบริการเพื่อสนับสนุนการป้องกันดูแลและรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์. ใน กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค, แนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ประเทศไทย ปี 2564/2565 (น. 229–249). กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.

กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค. (2565ข). การตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวีและการตรวจติดตามการรักษา. ใน กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค, แนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ประเทศไทย ปี 2564/2565 (น. 23–56). กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.

กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค, และศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐด้านสาธารณสุข. (2563). แนวทางการจัดบริการรับยาต้านไวรัสสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการคงที่ โดยมีผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง ตามบริบทของหน่วยบริการสุขภาพในไทย. กรุงเทพฯ: เรดิเอชั่น.

กุลธิมา เขียวไกล, และดลวิวัฒน์ แสนโสม. (2565). ปัจจัยทํานายความสําเร็จในการควบคุมปริมาณไวรัสในเลือดของผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ที่ได้รับยาต้านไวรัส คลินิกโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลตติยภูมิ. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 40(4), e258816

ประพันธ์ ภานุภาค. (2565). ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่ (Undetectable = Untransmittable, U = U). สืบค้นจาก https://www.thaiaidssociety.org/uncategorized/undetectable-equals-untransmittable/

โรงพยาบาลบ่อไร่ จังหวัดตราด. (2563). รายงานตัวชี้วัดของคณะกรรมการดูแลผู้ป่วย โรงพยาบาลบ่อไร่ พ.ศ. 2555–2563. ตราด: ผู้แต่ง.

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2564). สปสช.นำร่องจ่ายค่าบริการ Telemedicine เฟสแรก รับมือโควิด-19 รอบใหม่. สืบค้นจาก https://www.nhso.go.th/news/3745

สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค. (2549). แนวทางการติดตามและส่งเสริมการรับประทานยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

Centers for Disease Control and Prevention. (2022). Telehealth for HIV prevention and care services. Retrieved from https://www.cdc.gov/hiv/effective-interventions/treat/telehealth/index.html

Dandachi, D., Dang, B. N., Lucari, B., Teti, M., & Giordano, T. P. (2020). Exploring the attitude of patients with HIV about using telehealth for HIV care. AIDS Patient Care and STDs, 34(4), 166–172. doi:10.1089/apc.2019.0261

Dandachi, D., Freytag, J., Giordano, T. P., & Dang, B. N. (2020). It is time to include telehealth in our measure of patient retention in HIV care. AIDS and Behavior, 24(9), 2463–2465. doi:10.1007/s10461-020-02880-8

Dandachi, D., Lee, C., Morgan, R. O., Tavakoli-Tabasi, S., Giordano, T. P., & Rodriguez-Barradas, M. C. (2019). Integration of telehealth services in the healthcare system: With emphasis on the experience of patients living with HIV. Journal of Investigative Medicine, 67(5), 815–820. doi:10.1136/jim-2018-000872

Esmaeili, E. D., Azizi, H., Dastgiri, S., & Kalankesh, L. R. (2023). Does telehealth affect the adherence to ART among patients with HIV? A systematic review and meta-analysis. BMC Infectious Diseases, 23(1), 169. doi:10.1186/s12879-023-08119-w

GreenwayHealth. (n.d.). From start to finish, a telehealth visit in 4 steps. Retrieved from https://www.greenwayhealth.com/knowledge-center/greenway-blog/start-finish-telehealth-visit-4-steps

Pro Health. (2018). ความแตกต่างระหว่าง Telemedicine และ Telehealth. Retrieved from https://prohealthware.com/th/difference-between-telemedicine-and-telehealth/

The Coverage. (2565). ‘ไดเอทซ์’ ชูแพลทฟอร์ม ‘Telemedicine เฉพาะโรค’ รับนโยบายดิจิทัลการแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐ. สืบค้นจาก https://www.thecoverage.info/news/content/4183

Vinmec. (2019). What is acriptega? Side effects. Retrieved from https://shorturl.at/iovOR

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-04-30

รูปแบบการอ้างอิง

เหลืองโสมนภา ส., เหลืองโสมนภา ย., เหลืองโสมนภา ส., สุวรรณรัตน์ ฤ., & จงประกอบกิจ ศ. (2024). ผลของการจัดบริการสุขภาพทางไกลต่อวินัยในการรับประทานยาและปริมาณไวรัสในกระแสเลือดของผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการคงที่ในคลินิกยาต้านไวรัส โรงพยาบาลบ่อไร่ จังหวัดตราด. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 35(1), 219–233. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/pnc/article/view/269618