ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองด้านพฤติกรรมการดูแลสุขภาพร่วมกับความรอบรู้ด้านสุขภาพ ต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพและผลลัพธ์ทางคลินิกในผู้ป่วยที่ควบคุมโรคความดันโลหิตสูงไม่ได้
คำสำคัญ:
การจัดการตนเอง, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ, ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, ผลลัพธ์ทางคลินิก, โรคความดันโลหิตสูงบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการจัดการตนเองด้านพฤติกรรมการดูแลสุขภาพร่วมกับความรอบรู้ด้านสุขภาพ ต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพและผลลัพธ์ทางคลินิกในผู้ป่วยที่ควบคุมโรคความดันโลหิตสูงไม่ได้ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงชนิดปฐมภูมิที่มารับบริการที่โรงพยาบาลท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี จำนวน 60 คน แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย โปรแกรมการจัดการตนเองด้านพฤติกรรมการดูแลสุขภาพร่วมกับความรอบรู้ด้านสุขภาพ คู่มือการจัดการตนเองด้านพฤติกรรมการดูแลสุขภาพร่วมกับความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อควบคุมโรคและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด แบบประเมินความบกพร่องในการรู้คิด 6 ข้อ (6CIT) แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบสอบถามความรอบรู้ด้านสุขภาพ มีค่าความเชื่อมั่น .91 และเครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติ ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนกันยายน 2562 ถึงเดือนมีนาคม 2563 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน paired t-test, Mann-Whitney U test, McNemar test และ Fisher’s exact test
ผลการวิจัยพบว่า 1) หลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพมากกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 11.931, p < .001) 2) กลุ่มทดลองมีคะแนนความรอบรู้ด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Z = -5.377, p < .001) 3) หลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีจำนวนผู้ที่มีค่าความดันโลหิตผิดปกติ น้อยกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .01) แต่มีจำนวนผู้ที่มี CVD risk score ระดับปานกลาง ไม่แตกต่างจากก่อนการทดลอง และ 4) การเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม จำนวนผู้ที่มีค่าความดันโลหิตผิดปกติ และจำนวนผู้ที่มี CVD risk score ระดับปานกลาง ไม่แตกต่างกัน
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า บุคลากรสุขภาพควรนำโปรแกรมการจัดการตนเองด้านพฤติกรรมการดูแลสุขภาพร่วมกับความรอบรู้ด้านสุขภาพ ไปใช้ในการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เพื่อให้ผู้ป่วยมีความรอบรู้ด้านสุขภาพและการจัดการตนเองด้านพฤติกรรมการดูแลสุขภาพมากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กรเกล้า รัตนชาญกร, ปาฬินทร์รฎา ธนาพันธ์ธิวากุล, และเกล้ากร รัตนชาญกร. (2566). การพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพของผู้สูงอายุ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน, 10(1), 85–97.
กองวิศวกรรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2559). คู่มือการทดสอบเครื่องมือวัดทางการแพทย์: เครื่องวัดความดันโลหิต. กรุงเทพฯ: บียอนด์ พับลิสชิ่ง.
กานต์พีชญา เนตรพิสิทธิ์กุล. (2559). ผลการควบคุมความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ภายหลังเข้าร่วมกิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมะค่า อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา. ธรรมศาสตร์เวชสาร, 16(2), 230–243.
ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์, และนรีมาลย์ นีละไพจิตร. (2558). การพัฒนาเครื่องมือวัดความรู้แจ้งแตกฉานด้านสุขภาพ (Health literacy) สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล.
ธวัชชัย สัตยสมบูรณ์, และยุวนุช สัตยสมบูรณ์. (2563). รูปแบบการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังและการสนับสนุนการจัดการตนเองในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 7(2), 232–243.
นิรันตา ไชยพาน, สุจิตรา บุญกล้า, กฤษกร คนหาญ, และเนตรชนก ไชยพาน. (บ.ก.). (2564). คู่มือกระบวนการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ. นนทบุรี: อาร์ เอ็น พี พี วอเทอร์.
ปรัชพร กลีบประทุม, บุญเยี่ยม สุทธิพงศ์เกียรติ, ปุณิกา สุ่มทอง, และวาศิณี อาจภักดี. (2561). ผลของโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพในการควบคุมความดันโลหิตของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง คลินิกอายุรกรรม โรงพยาบาลอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง. วารสารกรมการแพทย์, 43(5), 60–66.
ปวิตรา ทองมา. (2563). ความรอบรู้ด้านสุขภาพและผลลัพธ์ทางสุขภาพในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง. วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย, 13(1), 50–62.
พรวิจิตร ปานนาค, สุทธีพร มูลศาสตร์, และเชษฐา แก้วพรม. (2560). ประสิทธิผลของโปรแกรมการพัฒนาความฉลาดทางสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 27(3), 91–106.
รัตนา พึ่งเสมา. (2565). โรคความดันโลหิตสูง: บทบาทสำคัญของพยาบาล. วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย, 15(1), 40–49.
วรารัตน์ ทิพย์รัตน์, กนกพรรณ พรหมทอง, มนตรี รักภักดี, และกัญญภา มุสิกะชะนะ. (2566). การพัฒนาแนวทางการเสริมสร้างความรอบรู้ทางสุขภาพและการมีส่วนร่วมของครอบครัว ในการจัดการระดับความดันโลหิตในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมระดับความดันโลหิตไม่ได้ จังหวัดตรัง. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9: วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม, 17(1), 237–254.
วริษา กันบัวลา, ณชนก เอียดสุย, และอาภรณ์ ดีนาน. (2564). ผลของโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและระดับไขมันในเลือดของผู้ที่มีไขมันในเลือดผิดปกติ. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 29(3), 1–14.
วิมลรัตน์ บุญเสถียร, และอรทัย เหรียญทิพยะสกุล. (2563). ความรอบรู้ด้านสุขภาพ: สถานการณ์และผลกระทบต่อสภาวะสุขภาพของผู้สูงอายุ. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท., 2(1), 1–19.
ศิริพร จริยาจิรวัฒนา, ภัทรพร บุตรดี, และพรวิมล นภาศัย. (2565). ความรอบรู้ด้านสุขภาพและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของประชาชนไทยในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 6 กระทรวงสาธารณสุข. วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม, 45(2), 25–38.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี. (2560). แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพจังหวัดจันทบุรี ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560–2579). สืบค้นจาก https://www.govesite.com/uploads/20180523145338BfC0fPw/20210211155742_4_c2zYeNV.pdf
สำราญ กาศสุวรรณ, ทัศนีย์ บุญอริยเทพ, และรุ่งกิจ ปินใจ. (2565). ผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยใช้กระบวนการกลุ่ม ในกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่. วารสารโรงพยาบาลแพร่, 30(2), 27–42.
สุภาพ อารีเอื้อ, และพิชญ์ประอร ยังเจริญ. (2563). แบบประเมินสมรรถภาพการรู้คิด 6 ข้อฉบับภาษาไทย: การทดสอบคุณสมบัติทางจิตวิทยา. รามาธิบดีพยาบาลสาร, 26(2), 188–202.
เสาวลักษณ์ บู่ทอง, และพัชรา พลเยี่ยม. (2566). สถานการณ์และแนวโน้มของพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ของวัยทำงานในเขตสุขภาพที่ 6 ปี พ.ศ. 2562–2564. วารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 8 จังหวัดอุดรธานี, 1(2), 74–89.
อัจฉราวดี ศรียะศักดิ์, อติญาณ์ ศรเกษตริน, จินตนา ทองเพชร, วารุณี เกตุอินทร์, ณัฐพร อุทัยธรรม, สุปราณี หมู่คุ่ย, และทิพวัลย์ มีทรัพย์. (2564). การพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อจัดการสุขภาพผู้สูงอายุที่มีภาวะเบาหวานและความดันโลหิตสูงในบริบทคลินิกหมอครอบครัว: กรณีศึกษาในจังหวัดเพชรบุรี. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 15(2), 155–173.
Baker, D. W. (2006). The meaning and the measure of health literacy. Journal of General Internal Medicine, 21(8), 878–883. doi:10.1111/j.1525-1497.2006.00540.x
Cohen, J. (1988). Power tables for effect sized. Retrieved from http://psych.unl.edu/hoffman/Sheets/Workshops/Power_Tables.pdf
Creer, L. T. (2000). Self-management of chronic illness. In M. Boekaerts, P. R. Pintrich, & M. Zeidner (Eds.). Handbook of self-regulation (pp. 601–629). San Diego, CA: Academic Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน