การพัฒนาแนวทางการเขียนโครงร่างวิจัยแบบมืออาชีพเพื่อขอรับทุนภายนอกโดยใช้กระบวนการการจัดการความรู้
คำสำคัญ:
การเขียนโครงร่างวิจัย, ทุนภายนอก, การจัดการความรู้บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาและประเมินผลของแนวทางการเขียนโครงร่างวิจัยแบบมืออาชีพเพื่อขอรับทุนภายนอกโดยใช้กระบวนการการจัดการความรู้ ประกอบด้วย 7 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ศึกษาสถานการณ์การเขียนโครงร่างวิจัยเพื่อขอรับทุนภายนอก ระยะที่ 2 พัฒนาแนวทางการเขียนโครงร่างวิจัยเพื่อขอรับทุนภายนอก ระยะที่ 3 ทดสอบความเป็นไปได้ของแนวทางการเขียนโครงร่างวิจัย ระยะที่ 4 ปรับปรุงแนวทางการเขียนโครงร่างวิจัย ระยะที่ 5 ประเมินผลของแนวทางการเขียนโครงร่างวิจัย กับอาจารย์วิทยาลัยในสังกัดและนอกสังกัดคณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก จำนวน 34 คน ระยะที่ 6 นำผลการประเมินมาปรับปรุงแนวทางการเขียนโครงร่างวิจัย และระยะที่ 7 ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินคุณภาพแนวทางการเขียนโครงร่างวิจัย เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย แนวทางการเขียนโครงร่างวิจัยแบบมืออาชีพเพื่อขอรับทุนภายนอก แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล และแบบประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และประโยชน์ต่อผู้วิจัย ของแนวทางการเขียนโครงร่างวิจัยแบบมืออาชีพเพื่อขอรับทุนภายนอกมีค่าความเชื่อมั่น .98 ดำเนินการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนตุลาคม 2565 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ one-sample t-test
ผลการวิจัยพบว่า แนวทางการเขียนโครงร่างวิจัยแบบมืออาชีพเพื่อขอรับทุนภายนอก มี 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การเตรียมตัวพัฒนาโครงร่างวิจัย 2) การเตรียมเขียนโครงร่างวิจัย 3) การบริหารทีมวิจัยและทรัพยากรในการพัฒนาโครงร่างวิจัย และ 4) การเตรียมตัวเพื่อส่งโครงร่างวิจัยขอทุนภายนอก (submission) โดยแนวทางย่อย 30 แนวทางย่อย จากทั้งหมด 31 แนวทางย่อย มีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และประโยชน์ต่อผู้วิจัย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า นักวิจัยหน้าใหม่ควรนำแนวทางการเขียนโครงร่างวิจัยแบบมืออาชีพเพื่อขอรับทุนภายนอกนี้ ไปเป็นแนวทางในการเขียนโครงร่างวิจัยเพื่อให้ได้รับทุนภายนอก
เอกสารอ้างอิง
กาญจนา พรหมโคตร, อรอนงค์ โนนทิง, และกีรติพร จูตะวิริยะ. (2564). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการขอทุนวิจัยภายนอกของนักวิจัยสายวิชาการ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. วารสารการพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย, 8(2), 36–43.
คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก. (2564). การจัดการความรู้ สู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2563 “พันธกิจการบริหารจัดการองค์กร”. นนทบุรี: ผู้แต่ง.
ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2553). เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ: ฐานบัณฑิต.
ประกฤต ประภาอินทร์, และสมตระกูล ราศิริ. (2564). 10 แนวปฏิบัติที่ดีในการหาทุนอุดหนุนการวิจัยจากแหล่งทุนภายนอกสถาบัน. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 4(2), 233–237.
พรทิพย์ ผึ้งแก้ว, และอำพรรณ ผึ้งแก้ว. (2565). การศึกษาองค์ความรู้จากข้อเสนอโครงการวิจัยแหล่งทุนภายนอก. ใน เอกสารการประชุมนำเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา ครั้งที่ 17 ปีการศึกษา 2565 (น. 220–236). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย.
รุ่งนภา เขียวชะอ่ำ, และกฤษณี สุวรรณรัตน์. (2565). การจัดการความรู้สู่การพัฒนาแนวทางการเขียนโครงร่างวิจัยเพื่อขอรับแหล่งทุนภายนอก. วารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือ, 9(2), 1–15.
สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม. (2550). โมเดลสามเหลี่ยม KM. สืบค้นจาก http://203.157.7.7/KM/pics/ModelKM/fs_model18_TriangleKM.pdf
อุดมรัตน์ สงวนศิริธรรม. (2557). การเขียนโครงการวิจัยเพื่อขอรับทุนสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก. พยาบาลสาร, 41(2), 133–138.
Cohen, J. (1992). Statistical power analysis. Current Directions in Psychological Science, 1(3), 98–101. doi:10.1111/1467-8721.ep10768783
Cramer, H., Haller, H., Dobos, G., & Lauche, R. (2016). A systematic review and meta-analysis estimating the expected dropout rates in randomized controlled trials on Yoga interventions. Evidence-based Complementary and Alternative Medicine, 2016, 5859729. doi:10.1155/2016/5859729
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน
