ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในกลุ่มผู้ปกครองชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก , เด็กปฐมวัย, กะเหรี่ยงปกาเกอะญอบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบหาความสัมพันธ์เชิงทำนาย เพื่อศึกษาพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย และปัจจัยทำนายพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในกลุ่มผู้ปกครองชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ปกครองชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จำนวน 210 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบทดสอบความรู้ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย มีค่าความเชื่อมั่น .88 แบบสอบถามการรับรู้ประโยชน์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย มีค่าความเชื่อมั่น .83 แบบประเมินความเชื่อในสมรรถนะแห่งตนในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย มีค่าความเชื่อมั่น .89 แบบสอบถามแรงสนับสนุนทางสังคม มีค่าความเชื่อมั่น .87 และแบบสอบถามพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย มีค่าความเชื่อมั่น .89 เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน 2564 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ปกครองชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 61.90 การได้รับสื่อความรู้ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย แรงสนับสนุนทางสังคมด้านข้อมูลข่าวสาร และแรงสนับสนุนทางสังคมด้านการประเมินผล สามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้ปกครองชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอได้ร้อยละ 18.30 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (R2 = .183, p < .001) โดยแรงสนับสนุนทางสังคมด้านข้อมูลข่าวสารสามารถทำนายพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้ปกครองชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอได้มากที่สุด (Beta = -.208, p < .05)
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขควรจัดหาสื่อความรู้ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยที่เหมาะสมให้แก่ผู้ปกครองชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ รวมทั้งให้ข้อมูลข่าวสารและข้อมูลป้อนกลับที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้ปกครองมีพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยที่ถูกต้อง
เอกสารอ้างอิง
กองกิจการนิคมสร้างตนเองและพัฒนาชาวเขา กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ. (2559). ทำเนียบชุมชนบนพื้นที่สูง ครอบคลุมพื้นที่ 20 จังหวัด ของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2559. สืบค้นจาก https://hhdc.anamai.moph.go.th/th/pa2564-1-27/download?id=70081&mid=35117&mkey=m_document&lang=th&did=22762
จินตนา พัฒนพงศ์ธร, ชัยชนะ บุญสุวรรณ, และนฤมล ธนเจริญวัชร. (2558). การศึกษาพัฒนาการเด็กปฐมวัยไทย ปี 2557. นนทบุรี: สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย.
ชฎาภรณ์ ชื่นตา, สุภาพร แก้วใส, สมจิต แซ่ลิ้ม, และเพียงนคร คำผา. (2561). การพัฒนาการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยแบบบูรณาการ ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดยโสธร (รายงานผลการวิจัย). สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร.
ชนิกานต์ ชาญเดช. (2557). การศึกษาปัจจัยทำนายความสามารถของมารดาในการดูแลบุตรวัยขวบปีแรกในเขตกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). นครปฐม: มหาวิทยาลัยมหิดล.
ชไมพร ทูมอย. (2560). ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัยหัดเดินของผู้ดูแลหลักในคลินิกสุขภาพเด็กดี โรงพยาบาลอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ชิรากร บุญลี. (2562). การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมพัฒนาการเด็กแรกเกิด - 5 ปี โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว ศูนย์สุขภาพชุมชนโรงพยาบาลภูสิงห์ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 2(1), 23–33.
ณัฐธยาน์ ภิรมย์สิทธิ์, จารีศรี กุลศิริปัญโญ, อรุณ นุรักษ์เข, และกิตติศักดิ์ หลวงพันเทา. (2561). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคในประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสาร มฉก.วิชาการ, 22(43–44), 55–69.
ณัฐธิดา ปัญญาธนคุณ, แสงทอง ธีระทองคำ, และสมนึก สกุลหงส์โสภณ. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลเด็กสมองพิการของญาติผู้ดูแลในกรุงเทพมหานคร. วารสารการปฏิบัติการพยาบาลและการผดุงครรภ์ไทย, 6(1), 5–18.
ปรพร ทองหลวง. (2559). ผลของโปรแกรมการสร้างเสริมสมรรถนะแห่งตนต่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ปรัชญาพร ธิสาระ, จุฑามาศ ผลมาก, เพชรลดา สีขาว, และบุษยารัตน์ ศิลปวิทยาทร. (2560). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้ปกครอง ในจังหวัดพะเยา. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 35(2), 169–176.
ภควดี นนทพันธ์. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้เลี้ยงดูเด็ก จังหวัดสงขลา. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี, 1(3), 10–24.
มณุเชษฐ์ มะโนธรรม, พัชรา ก้อยชูสกุล, อารีย์ จอแย, วรัญญา มณีรัตน์, จุฑามาศ เมืองมูล, และสุพรรณ วนิชปริญญากุล. (2562). ความรู้และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา, 14(1), 69–80.
รรฤณ แสงแก้ว, จิดาภา ผูกพันธ์, กนกจันทร์ เขม้นการ, และวาสนา มาตพรมราช. (2564). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้ดูแล. วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย, 14(2), 152–164.
วิชัย เอกพลากร. (บ.ก.). (2564). รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562–2563. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิค แอนด์ ดีไซน์.
ศูนย์อนามัยกลุ่มชาติพันธุ์ ชายขอบ และแรงงานข้ามชาติ กรมอนามัย. (2563). ระบบสารสนเทศสนับสนุนด้านการส่งเสริมสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อม. สืบค้นจาก https://hhdc.anamai.moph.go.th
สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์. (2561). คู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็กแรกเกิด–5 ปี สำหรับผู้ปกครอง. เชียงใหม่: ผู้แต่ง.
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2563). รายงานตามตัวชี้วัดกระทรวง. สืบค้นจาก https://hdcservice.moph.go.th/hdc/main/index.php
สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย. (2561). รายงานการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็กปฐมวัยไทย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2560. สืบค้นจาก https://nich.anamai.moph.go.th/web-upload/9x45fd5e87a10707bad447547633b2d76d/m_document/37540/30988/file_download/fb4f63590316599313e9bbd939775ace.pdf
สุกัญญา สอนสี, ยุนี พงศ์จตุรวิทย์, และนุจรี ไชยมงคล. (2558). พฤติกรรมของมารดาในการส่งเสริมการเล่นในบุตรวัยก่อนเรียนและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง. ใน เอกสารสืบเนื่องจากการประชุมสัมมนาวิชาการเครือข่ายบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ ครั้งที่ 15 (น. 187–198). มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
หนึ่งฤทัย เกื้อเอียด, ปุญญพัฒน์ ไชยเมล์, และสมเกียรติยศ วรเดช. (2561). สถานการณ์และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพัฒนาการของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปี: การทบทวนวรรณกรรม. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 5(1), 281–296.
อภินดา ชัยมานะเดช. (2562). ปัจจัยทางจิตและสังคมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมตามบทบาทของพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารร่มพฤกษ์ มหาวิทยาลัยเกริก, 37(1), 33–42.
อภิรพี เศรษฐรักษ์ ตันเจริญวงศ์, ศรีรัฐ ภักดีรณชิต, และญาณวุฒิ เศวตธิติกุล. (2561). พฤติกรรมการใช้หน้าจอของเด็กไทยวัย 0–3 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม, 6(2), 60–69.
อัจฉราพร ปิติพัฒน์, สิริณัฏฐ์ โภคพัชญ์ภูเบศ, ชลินดา คำศรีพล, และสมสมร เรืองวรบูรณ์. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของผู้ดูแลเด็กวัยเตาะแตะ. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ, 34(3), 1–10.
Apidechkul, T., Laingoen, O., & Suwannaporn, S. (2016). Inequity inaccessing health care service in Thailand in 2015: A case study of the hill tribe people in Mae Fah Luang District, Chiang Rai, Thailand. Journal of Health Research, 30(1), 67–71. doi:10.14456/jhr.2016.10
Bandura, A. (1986). Social foundations of thought and action: A social cognitive theory. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
Daniel, W. W. (1995). Biostatistics: A foundation for analysis in the health sciences (6th ed.). New York: John Wiley & Sons.
Green, L. W., & Kreuter, M. W. (2005). Health program planning: An educational and ecological approach (4th ed.). New York: McGraw-Hill.
House, J. S. (1981). Work stress and social support. Reading, MA: Addison-Wesley.
United Nations Children’s Fund. (2019). Early childhood development. Retrieved from https://www.unicef.org/thailand/th/
World Health Organization. (2012). Developmental difficulties in early childhood: Prevention, early identification, assessment and intervention in low- and middle-income countries: A review. Retrieved from https://iris.who.int/bitstream/handle/10665/97942/9789241503549_eng.pdf?sequence=1
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน