รูปแบบการจัดการปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพจากสุรา ยาสูบ และสารเสพติด ภายใต้กลไกความร่วมมือของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ ในเขตสุขภาพที่ 11
คำสำคัญ:
รูปแบบ, การจัดการ, ปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ, กลไกความร่วมมือ, คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา เพื่อศึกษารูปแบบการจัดการปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพจากสุรา ยาสูบ และสารเสพติด ภายใต้กลไกความร่วมมือของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ ในเขตสุขภาพที่ 11 ผู้ให้ข้อมูลประกอบด้วย คณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น คณะ กรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ และภาคีเครือข่ายที่ทำงานด้านปัจจัยเสี่ยง/พี่เลี้ยง อำเภอสวี จังหวัดชุมพร และอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมจำนวน 226 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพจากสุรา ยาสูบ และสารเสพติดของชุมชน และแบบสนทนากลุ่ม เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 ถึงเดือนมีนาคม 2563 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ และวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอมีความร่วมมือในการจัดการปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพจากสุรา ยาสูบ และสารเสพติด ตามแนวทาง UCCARE ดังนี้ 1) การทำงานเป็นทีม โดยกรรมการ 21 คน ร่วมกันออกแบบการจัดการปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ 2) การให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมาย มีการใช้ข้อมูลในพื้นที่มาพัฒนาแผนงาน/โครงการ และประเมินความพึงพอใจ 3) การมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคีเครือข่าย มีการบูรณาการการดำเนินงานระหว่างภาคส่วนต่างๆ ในลักษณะร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมประเมินผล 4) การชื่นชมและให้คุณค่า มีการประกาศรางวัลเชิดชูเกียรติแก่ชุมชนต้นแบบที่มีแนวปฏิบัติที่ดี และบุคคลต้นแบบที่สามารถลด ละ เลิกปัจจัยเสี่ยงฯ ได้ 5) การแบ่งปันทรัพยากรและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล มีการใช้และพัฒนาทรัพยากรร่วมกันในหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และ 6) การดูแลผู้ป่วยและประชาชน มีการบูรณาการการให้บริการสุขภาพในหน่วยงานสุขภาพทุกระดับของชุมชน
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า สำนักงานกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติควรสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กฤษดา แสวงดี, เกษร คงแขม, สุภาเพ็ญ ปาณะวัฒนพิสุทธิ์, จันทิมา นวะมะวัฒน์, วิภาพร สิทธิสาตร์, และอนงค์ลักษณ์ พันธุ์พรหมธาดา. (2559). การศึกษาการเสริมสร้างสมรรถนะการบริหารจัดการระบบสุขภาพอําเภอ. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 25(5), 854–864.
ดุริยางค์ วาสนา, และพิเชตวุฒิ นิลละออ. (2561). โครงการประเมินผล การจัดการปัจจัยเสี่ยง อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี. สืบค้นจาก https://mehealthpromotion.com/project/213/finalreport
นงลักษณ์ พวงมาลัย, ศิริวัฒน์ จิระเดชประไพ, ทิวัตถ์ มณีโชติ, และสมใจ นกดี. (2559). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น จังหวัดฉะเชิงเทรา. วารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 11(1), 349–361.
ศิริวรรณ ทุมเชื้อ, นพวรรณ ศิริเขตต์, อุษา จันทร์ขวัญ, พรพรรณ พุ่มประยูร, ณัฏฐ์นรี คำอุไร, และพัชนียา เชียงตา. (2560). การขับเคลื่อนระบบสุขภาพอำเภอในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น: กรณีศึกษา อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 27(พิเศษ), 172–183.
ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ มหาวิทยาลัยมหิดล. (2561). รายงานสถิติการบริโภคยาสูบของประเทศไทย พ.ศ. 2561. สืบค้นจาก https://www.trc.or.th/th/media/attachments/2562/01/29/2561.pdf
สาวิตรี อัษณางค์กรชัย. (บ.ก.). (2562). รายงานสถานการณ์ การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสังคมไทย ประจำปี พ.ศ. 2560. กรุงเทพฯ: สหมิตรพัฒนาการพิมพ์ (1992).
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม. (2560). แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปี 2560. สืบค้นจาก http://www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFOCENTER2/DRAWER051/GENERAL/DATA0000/00000611.PDF
อุดมศักดิ์ แซ่โง้ว, ธารินทร์ เพ็ญวรรณ, ธนัย เกตวงกต, อภิญญา เลาหประภานนท์, และรัตติยา อักษรทอง. (2561). การประเมินนโยบายกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น เขตสุขภาพที่ 11 เพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายในระยะถัดไป (รายงานผลการวิจัย). นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข.
เอกรัตน์ หามนตรี. (2561). ความสำเร็จของชมุชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเยาวชนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดยาเสพติดในจังหวัดอ่างทอง. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 5(2), 434–451.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน