การพัฒนาแนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลสุขภาพผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือต่อภาวะแทรกซ้อนจากการล้างไตทางช่องท้องและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้องในสถานการณ์วิกฤตโควิด 19
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ, แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ, การล้างไตทางช่องท้อง, โควิด 19บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาและศึกษาผลของการใช้แนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลสุขภาพผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ต่อภาวะแทรกซ้อนจากการล้างไตทางช่องท้องและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้องในสถานการณ์วิกฤตโควิด 19 ดำเนินการ 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ศึกษาสถานการณ์ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วย/ผู้ดูแล รวมจำนวน 10 คน ระยะที่ 2 สร้างแนวทางและศึกษาความเป็นไปได้ กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาล จำนวน 10 คน และผู้ป่วย/ผู้ดูแล จำนวน 15 คน และระยะที่ 3 ศึกษาผลของการใช้แนวทาง กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วย/ผู้ดูแล แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 45 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย แนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลสุขภาพผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้องในสถานการณ์วิกฤตโควิด 19 แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง แบบสอบถามความเป็นไปได้ในการใช้แนวทาง มีค่าความเชื่อมั่น .93 แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามคุณภาพชีวิตในโรคไตฉบับย่อภาษาไทย เวอร์ชัน 1.3 และแบบบันทึกติดตามอาการและภาวะแทรกซ้อน ดำเนินการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนกันยายน 2563 ถึงเดือนมกราคม 2564 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา สถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Chi-square test, Fisher’s exact test, paired t-test และ independent t-test
ผลการวิจัยพบว่า 1) แนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลสุขภาพผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์ มือถือที่พัฒนาขึ้น เป็นการให้ความรู้ที่จำเป็นสำหรับการดูแลสุขภาพผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้อง ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ประกอบด้วย การประเมินภาวะสุขภาพ อาการผิดปกติ ปัญหาที่พบบ่อย อาหารและโภชนาการ การใช้ยาที่ต้องใช้เป็นประจำ และการปฏิบัติตัว 2) พยาบาลและผู้ป่วย/ผู้ดูแลมีความคิดเห็นต่อความเป็นไปได้ในการใช้แนวทางโดยรวมในระดับสูง 3) กลุ่มทดลองมีอุบัติการณ์การเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการล้างไตทางช่องท้องโดยรวมต่ำกว่ากลุ่มควบคุม และ 4) หลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยคุณภาพชีวิตสูงกว่าก่อนการทดลอง และสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า บุคลากรทางสุขภาพควรนำแนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลสุขภาพผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือนี้ ไปใช้ในการส่งเสริมความสามารถในการดูแลตนเองของผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้อง หรือส่งเสริมความสามารถของผู้ดูแลในการดูแลผู้ป่วยต่อไป
เอกสารอ้างอิง
ขนิษฐา หอมจีน, และพรรณทิพา ศักดิ์ทอง. (2553). การแปลและทดสอบกระบวนการคิดของแบบสอบถามคุณภาพชีวิตในโรคไตฉบับย่อภาษาไทย เวอร์ชัน 1.3. วารสารเภสัชกรรมไทย, 2(1), 3–14.
ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์. (2559). การติดเชื้อของการล้างไตทางช่องท้องของโรงพยาบาลสุรินทร์ อะไรคือความแตกต่าง. ศรีนครินทร์เวชสาร, 31(4), 167–172.
สุธิดา นครเรียบ, ดวงรัตน์ วัฒนกิจไกรเลิศ, วิชชุดา เจริญกิจการ, สงคราม โชติกอนุชิต, และวชิรศักดิ์ วานิชชา. (2017). ประสิทธิผลของโมบายแอพพลิเคชั่นต่อความร่วมมือในการรับประทานยาในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. Journal of Nursing Science, 35(3), 58–69.
สุภัทรา สีเสน่ห์, ดวงรัตน์ วัฒนกิจไกรเลิศ, วิชชุดา เจริญกิจการ, ฉัตรกนก ทุมวิภาต, และวชิรศักดิ์ วานิชชา. (2561). ผลของโมบายแอพพลิเคชั่นต่อความร่วมมือในการรับประทานยาในผู้ป่วยภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันภายหลังได้รับการจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 28(1), 61–74.
Chow, S. K. Y., & Wong, F. K. Y. (2010). Health-related quality of life in patients undergoing peritoneal dialysis: Effects of a nurse-led case management programme. Journal of Advanced Nursing, 66(8), 1780–1792. doi:10.1111/j.1365-2648.2010.05324.x
Giansanti, D. (2020). WhatsApp in mHealth: An overview on the potentialities and the opportunities in medical imaging. mHealth, 6, 19. doi:10.21037/mhealth.2019.11.01
Jha, V., & Modi, G. K. (2018). Getting to know the enemy better–the global burden of chronic kidney disease. Kidney International, 94(3), 462–464. doi:10.1016/j.kint.2018.05.009
Kim, Y.-L., & Biesen, W. V. (2017). Fluid overload in peritoneal dialysis patients. Seminars in Nephrology, 37(1), 43–53. doi:10.1016/j.semnephrol.2016.10.006
Lozano-Lozano, M., Cantarero-Villanueva, I., Martin-Martin, L., Galiano-Castillo, N., Sanchez, M.-J., Fernández-Lao, C., … Arroyo-Morales, M. (2019). A mobile system to improve quality of life via energy balance in breast cancer survivors (BENECA mHealth): Prospective test-retest quasiexperimental feasibility study. JMIR mHealth and uHealth, 7(6), e14136. doi:10.2196/14136
Marcolino, M. S., Oliveira, J. A. Q., D’Agostino, M., Ribeiro, A. L., Alkmim, M. B. M., & Novillo-Ortiz, D. (2018). The impact of mHealth interventions: Systematic review of systematic reviews. JMIR mHealth and uHealth, 6(1), e23. doi:10.2196/mhealth.8873
Sitjar-Suñer, M., Suñer-Soler, R., Masià-Plana, A., Chirveches-Pérez, E., Bertran-Noguer, C., & Fuentes-Pumarola, C. (2020). Quality of life and social support of people on peritoneal dialysis: Mixed methods research. International Journal of Environmental Research and Public Health, 17(12), 4240. doi:10.3390/ijerph17124240
Wallace, E. L., Rosner, M. H., Alscher, M. D., Schmitt, C. P., Jain, A, Tentori, F., … Sloand, J. A. (2017). Remote patient management for home dialysis patients. Kidney International Reports, 2(6), 1009–1017. doi:10.1016/j.ekir.2017.07.010
World Health Organization. (2011). mHealth: New horizons for health through mobile technologies: Second global survey on eHealth. Retrieved from https://apps.who.int/iris/handle/10665/44607
World Health Organization. (2018). mHealth: Use of appropriate digital technologies for public health. Retrieved from https://apps.who.int/gb/ebwha/pdf_files/WHA71/A71_20-en.pdf
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน