การสัมภาษณ์เพื่อสร้างแรงจูงใจแบบกลุ่มในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้
คำสำคัญ:
การสัมภาษณ์เพื่อสร้างแรงจูงใจแบบกลุ่ม, การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม, ผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้บทคัดย่อ
การสร้างแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตนเพื่อควบคุมโรคได้ อันจะนำมาซึ่งการลดภาวะแทรกซ้อนและอัตราการเสียชีวิต กลวิธีหนึ่งที่ทำให้เกิดแรงจูงใจ คือ การใช้เทคนิคการสัมภาษณ์เพื่อสร้างแรงจูงใจ โดยเฉพาะการสร้างแรงจูงใจแบบกลุ่มสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยจำนวนหลายคนในการทำกิจกรรมแต่ละครั้ง การเข้าใจหลักการพื้นฐานของการสัมภาษณ์เพื่อสร้างแรงจูงใจเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยให้พยาบาลและบุคลากรทางสุขภาพสามารถนำเทคนิคนี้ไปประยุกต์ใช้ในการสัมภาษณ์เพื่อสร้างแรงจูงใจแบบกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหลักการพื้นฐาน ได้แก่ การแสดงความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้ป่วย การช่วยให้ผู้ป่วยเห็นความขัดแย้ง การหลีกเลี่ยงการถกเถียงเอาชนะระหว่างการสนทนา การโอนอ่อนตามแรงต้าน และการสนับสนุนความเชื่อมั่นในความสามารถของตนของผู้ป่วย โดยการสัมภาษณ์เพื่อสร้างแรงจูงใจประกอบ ด้วย 2 ขั้นตอนหลัก คือ 1) การประเมินขั้นความพร้อมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และ 2) การดำเนินกิจกรรมในแต่ละกลุ่มที่มีขั้นความพร้อมในระดับเดียวกัน โดยมุ่งหวังว่ากระบวนการสัมภาษณ์เพื่อสร้างแรงจูงใจแบบกลุ่มนี้ จะช่วยส่งเสริมให้การดูแลผู้ป่วยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
จันจิรา หินขาว, ขนิตฐา หาญประสิทธิ์คำ, และสุนทรี เจียรวิทยกิจ. (2562). ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองร่วมกับการสัมภาษณ์เพื่อสร้างแรงจูงใจ เพื่อชะลอไตเสื่อมจากเบาหวานต่อพฤติกรรมการจัดการตนเองและผลลัพธ์ทางคลินิกในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีความเสื่อมของไตระยะที่ 3. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 30(2), 185-202.
สุดถนอม ปิตตาทะโน. (2556). ผลของการให้คำปรึกษาโดยใช้การสัมภาษณ์เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจ ต่อการควบคุมดัชนีมวลกายของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. สืบค้นจาก http://www.amsarthailand.utcc.ac.th/attachments/article/34/Sudtanorm.pdf
Chen, S. M., Creedy, D., Lin, H. S., & Wollin, J. (2012). Effects of motivational interviewing intervention on self-management, psychological and glycemic outcomes in type 2 diabetes: A randomized controlled trial. International Journal of Nursing Studies, 49(6), 637-644.
Ekong, G., & Kavookjian, J. (2016). Motivational interviewing and outcomes in adults with type 2 diabetes: A systematic review. Patient Education and Counseling, 99(6), 944-952.
Miller, W. R., & Rollnick, S. (1991). Motivational interviewing: Preparing people to change addictive behavior. New York: Guilford Press.
Miller, W. R., & Rollnick, S. (2002). Motivational interviewing: Preparing people for change (2nd ed.). New York: Guilford Press.
Song, D., Xu, T. Z., & Sun, Q. H. (2014). Effect of motivational interviewing on self-management in patients with type 2 diabetes mellitus: A meta-analysis. International Journal of Nursing Sciences, 1(3), 291-297.
Wattanakorn, K., Deenan, A., Puapan, S., & Schneider, J. K. (2013). Effects of an eating behaviour modification program on Thai people with diabetes and obesity: A randomised clinical trial. Pacific Rim International Journal of Nursing, 17(4), 356-370.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2020 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน