ผลของโปรแกรมการป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดต่อปริมาณเลือดหลังคลอดและผลลัพธ์ของการคลอดในผู้คลอดครั้งแรกที่มีความเสี่ยงต่ำ

ผู้แต่ง

  • วราภรณ์ ทองนาท คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  • สุพิศ ศิริอรุณรัตน์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  • ตติรัตน์ เตชะศักดิ์ศรี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

คำสำคัญ:

โปรแกรมการป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอด, ปริมาณเลือดหลังคลอด, ผลลัพธ์ของการคลอด

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดต่อปริมาณเลือดหลังคลอดและผลลัพธ์ของการคลอดในผู้คลอดครั้งแรกที่มีความเสี่ยงต่ำ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้คลอดครั้งแรกที่มีความเสี่ยงต่ำที่เข้ารับบริการคลอด ณ ห้องคลอด โรงพยาบาลทั่วไปแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี จำนวน 54 คน แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 27 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย โปรแกรมการป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอด แบบบันทึกข้อมูลทั่วไปและข้อมูลการตั้งครรภ์ และแบบบันทึกข้อมูลการคลอด ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนตุลาคม 2561 ถึงเดือนกรกฎาคม 2562 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน independent t-test, Chi-square test, Mann-Whitney U test และ Fisher’s exact test

ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยปริมาณเลือดหลังคลอด ค่าเฉลี่ยระยะเวลาในระยะที่ 1 ของการคลอด ค่าเฉลี่ยระยะเวลาในระยะที่ 2 ของการคลอด และระดับการฉีกขาดของแผลฝีเย็บ ไม่แตกต่างจากกลุ่มควบคุม

จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า พยาบาลห้องคลอดควรนำโปรแกรมในการวิจัยครั้งนี้ไปปรับใช้ในการดูแลผู้คลอดที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะการเบ่งคลอดแบบ open glottis และการตัดฝีเย็บเมื่อจำเป็น เพื่อช่วยลดการฉีกขาดของฝีเย็บ

เอกสารอ้างอิง

กรมอนามัย. (2558). รายงานประจำปี กรมอนามัย 2558. สืบค้นจาก https://dohdatacenter.anamai.moph.go.th/coverpage/1805e862ad36da00e9ca38d41e7d4dd7.pdf

กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2560). สถิติสาธารณสุข พ.ศ. 2560. สืบค้นจาก http://bps.moph.go.th/new_bps/sites/default/files/stratistics60.pdf

เกศินี ไชยโม, ธัญญมล สุริยานิมิตรสุข, และกิตติพร ประชาศรัยสรเดช. (2560). การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในระยะคลอด. วารสาร มฉก.วิชาการ, 20(40), 141–150.

ขวัญใจ เพทายประกายเพชร, ฉวีวรรณ อยู่สำราญ, และวรรณา พาหุวัฒนกร. (2558). ผลของการบริหารการหายใจร่วมกับการจัดท่าศีรษะสูงต่อความเจ็บปวดและระยะเวลาการคลอดในผู้คลอดครรภ์แรก. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 26(2), 52–62.

เธียรชัย ชัณวิจิตร, และธิดารัตน์ ชวงค์เหลือง. (2559). ภาวะแทรกซ้อนของผู้คลอดที่ได้รับการตัดหรือไม่ตัดฝีเย็บ โรงพยาบาลกระบี่. วารสารกรมการแพทย์, 41(5), 108–112.

ปราณี ธีรโสภณ, สมจิตร เมืองพิล, สมสกูล นีละสมิต, สุธัญญณัฐ นาจเมืองจันทร์, อารยา ฉัตรธนะพานิช, และเกรียงศักดิ์ หาญสิทธิพร. (2560). ผลของการส่งเสริมการเคลื่อนไหวและการอยู่ในท่าศีรษะสูงของมารดาในระยะที่หนึ่งของการคลอด. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 28(1), 1–13.

พะยอม ปอนสืบ, สุกัญญา ปริสัญญกุล, และฉวี เบาทรวง. (2553). โปรแกรมส่งเสริมการจัดผู้คลอดในท่าศีรษะสูงและการปฏิบัติของพยาบาลผดุงครรภ์. พยาบาลสาร, 37(1), 73–85.

พิมาลา เล้าประจง. (2559). ผลลัพธ์ของการตัดฝีเย็บตามกิจวัตรกับการตัดฝีเย็บเท่าที่จำเป็นในผู้คลอดครั้งแรก (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.

ไพรินทร์ สุคนธ์ตระกูล. (2559). ความก้าวหน้าของการคลอดกับบทบาทพยาบาลผดุงครรภ์. วารสารพยาบาลทหารบก, 17(2), 1–6.

ลัดดาวัลย์ ปลอดฤทธิ์, สุชาตา วิภวกานต์, และอารี กิ่งเล็ก. (2559). การพัฒนาแนวปฏิบัติการป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรกในห้องคลอด โรงพยาบาลกระบี่. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 3(3), 127–141.

วิทยา ถิฐาพันธ์. (2552). การทำคลอดปกติ: ถึงเวลาที่จะต้องทบทวน?. ใน มงคล เบญจาภิบาล, ประเสริฐ ศันสนีย์วิทยกุล, ประสงค์ ตันมหาสมุทร, ธันยารัตน์ วงศ์วนานุรักษ์, ปัทมา เชาว์โพธิ์ทอง, ตรีภพ เลิศบรรณพงษ์, และภัทรวลัย ตลึงจิตร (บ.ก.), สูตินรีเวชทันยุค (น. 3–13). กรุงเทพฯ: พี.เอ. ลิฟวิ่ง.

สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล. (2561). บัญชีตัวชี้วัดเปรียบเทียบ โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศเปรียบเทียบวัดระดับคุณภาพโรงพยาบาล. สืบค้นจาก https://www.ha.or.th/thip/KIPDictionar2561.pdf

สร้อย อนุสรณ์ธีรกุล. (2557). การป้องกันการตกเลือดใน 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด: บทบาทผดุงครรภ์. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ, 37(2), 155–162.

สินีนาฏ หงษ์ระนัย. (2559). เทคนิคการประคองฝีเย็บในขณะทำคลอดศีรษะทารก: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 24(3), 13–21.

สุธิต คุณประดิษฐ์. (2553). การตกเลือดหลังคลอด. ใน ถวัลย์วงค์ รัตนสิริ, ฐิติมา สุนทรสัจ, สมศักดิ์ สุทัศน์วรวุฒิ (บ.ก.), สูติศาสตร์ฉุกเฉิน (น. 248–266). กรุงเทพฯ: พิมพ์ดี.

สุภาพร จันภูงา, และสมพร วัฒนนุกูลเกียรติ. (2558). การพัฒนาแนวปฏิบัติทางการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับยาออกซิโทซินชักนำหรือเร่งคลอด โรงพยาบาลมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ, 38(4), 56–67.

สุสัณหา ยิ้มแย้ม. (2560). การพยาบาลสตรีที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะหลังคลอด. ใน นันทพร แสนศิริพันธ์, และฉวี เบาทรวง (บ.ก.), การพยาบาลและการผดุงครรภ์สตรีที่มีภาวะแทรกซ้อน (น. 321–332). เชียงใหม่: สมาร์ทโคตรติ้ง แอนด์ เซอร์วิส.

เอกชัย โควาวิสารัช. (2559). คลอดแบบไหนดี? คลอดเองหรือผ่าคลอด. กรุงเทพฯ: ตถาตา.

Adams, E. D., & Bianchi, A. L. (2008). A practical approach to labor support. Journal of Obstetric, Gynecologic, and Neonatal Nursing, 37(1), 106–115. doi:10.1111/j.1552-6909.2007.00213.x

Brown K. E., & Curran, C. (2015). Postpartum haemorrhage part I: Prevention strategies nursing considerations. Retrieved from http://www.medicalinteractive.com/courses/POSTHEM1/document/Monograph.pdf?cidReq=POSTHEM1

Calvert, C., Thomas, S. L., Ronsmans, C., Wagner, K. S., Adler, A. J., & Filippi, V. (2012). Identifying regional variation in the prevalence of postpartum haemorrhage: A systematic review and meta-analysis. PLoS One, 7(7), e41114. doi:10.1371/journal.pone.0041114

Cunningham, F. G., Leveno, K. J., Bloom, S. L., Dashe, J. S., Hoffman, B. L., Casey, B. M., … Spong, C. Y. (2018). Williams obstetrics (25th ed.). New York: McGraw-Hill Medical.

Dahlke, J. D., Mendez-Figueroa, H., Maggio, L., Hauspurg, A. K., Sperling, J. D., Chauhan, S. P., & Rouse, D. J. (2015). Prevention and management of postpartum hemorrhage: A comparison of 4 national guidelines. American Journal of Obstetrics and Gynecology, 213(1), 76.e1–76.e10. doi:10.1016/j.ajog.2015.02.023

Eto, H., Hasegawa, A., Kataoka, Y., & Porter, S. E. (2017). Factors contributing to postpartum blood-loss in low-risk mothers through expectant management in Japanese birth centres. Women and Birth, 30(4), e158–e164. doi:10.1016/j.wombi.2016.11.003

Harvey, M.-A., Pierce, M., Alter, J.-E., Chou, Q., Diamond, P., Epp, A., … Thakar, R. (2015). Obstetrical anal sphincter injuries (OASIS): Prevention, recognition, and repair. Journal of Obstetrics and Gynaecology Canada, 37(12), 1131–1148. doi:10.1016/s1701-2163(16)30081-0

Hodnett, E. D., Gates, S., Hofmeyr, G. J., Sakala, C., & Weston, J. (2011). Continuous support for women during childbirth. The Cochrane Database of Systematic Reviews, (2), CD003766. doi:10.1002/14651858.CD003766.pub3

International Federation of Gynecology and Obstetrics. (2012). Prevention and treatment of postpartum hemorrhage in low-resource settings. International Journal of Gynecology & Obstetrics, 117(2), 108–118. doi:10.1016/j.ijgo.2012.03.001

Khireddine, I., Le Ray, C., Dupont, C., Rudigoz, R. C., Bouvier-Colle, M. H., & Deneux-Tharaux, C. (2013). Induction of labor and risk of postpartum hemorrhage in low risk partuients. PLoS One, 8(1), 1–7. doi:10.1371/journal.pone.0054858

Koyucu, R. G., & Demirci, N. (2017). Effects of pushing techniques during the second stage of labor: A randomized controlled trial. Taiwanese Journal of Obstetrics & Gynecology, 56(5), 606–612. doi:10.1016/j.tjog.2017.02.005

Kumar, N. (2016). Postpartum hemorrhage; a major killer of woman: Review of current scenario. Obstetrics and Gynecology International Journal, 4(4), 130–134. Retrieved from https://medcraveonline.com/OGIJ/OGIJ-04-00116.pdf

Lisonkova, S., Mehrabadi, A., Allen, V. M., Bujold, E., Crane, J. M., Gaudet, L., … Joseph, K. S. (2016). Atonic postpartum hemorrhage: Blood loss, risk factors, and third stage management. Journal of Obstetrics and Gynaecology Canada, 38(12), 1081–1090. doi:10.1016/j.jogc.2016.06.014

Nyfløt, L. T., Sandven, I., Stray-Pedersen, B., Pettersen, S., Al-Zirqi, I., Rosenberg, M., … Vangen, S. (2017). Risk factors for severe postpartum hemorrhage: A case-control study. BMC Pregnancy and Childbirth, 17(1), 17. doi:10.1186/s12884-016-1217-0

Nyfløt, L. T., Stray-Pedersen, B., Forsen, L., & Vangen, S. (2017). Duration of labor and the risk of severe postpartum hemorrhage: A case-control study. PLoS One, 12(4), 1–10. doi:10.1371/journal.pone.0175306

Rubio-Álvarez, A., Molina-Alarcón, M., & Hernández-Martínez, A. (2018). Incidence of postpartum anaemia and risk factors associated with vaginal birth. Women and Birth, 31(3), 158–165. doi:10.1016/j.wombi.2017.09.020

Sheldon, W. R., Blum, J., Vogel, J. P., Souza, J. P., Gülmezoglu, A. M., & Winikoff, B. (2014). Postpartum hemorrhage management, risks, and maternal outcomes: Findings form the World Health Organization Multicountry Survey on maternal and newborn health. International Journal of Obstetrics and Gynaecology, 121(suppl. 1), 5–13. doi:10.1111/1471-0528.12636

World Health Organization. (2012). WHO recommendations for the prevention and treatment of postpartum haemorrhage. Retrieved from http://apps.who.int/iris/bitstream/10665/75411/1/9789241548502_eng.pdf?ua=1

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-12-22

รูปแบบการอ้างอิง

ทองนาท ว., ศิริอรุณรัตน์ ส., & เตชะศักดิ์ศรี ต. (2021). ผลของโปรแกรมการป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดต่อปริมาณเลือดหลังคลอดและผลลัพธ์ของการคลอดในผู้คลอดครั้งแรกที่มีความเสี่ยงต่ำ. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 32(2), 37–53. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/pnc/article/view/241181

ฉบับ

ประเภทบทความ

รายงานการวิจัย (Research Report)