การส่งเสริมการฝังยาคุมกำเนิดในวัยรุ่นหลังคลอดโดยการสร้างแรงจูงใจร่วมกับแรงสนับสนุนจากครอบครัว

ผู้แต่ง

  • จารุวรรณ์ ท่าม่วง วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

คำสำคัญ:

การฝังยาคุมกำเนิด, วัยรุ่นหลังคลอด, แรงจูงใจ, แรงสนับสนุนจากครอบครัว

บทคัดย่อ

การตั้งครรภ์ซ้ำในวัยรุ่นหลังคลอดยังคงเป็นปัญหาสำคัญของสังคม ก่อให้เกิดผลกระทบในทุกมิติ ทั้งผลกระทบต่อวัยรุ่น ทารก ครอบครัว รวมถึงสังคมและเศรษฐกิจ สาเหตุสำคัญประการหนึ่งมาจากการขาดการป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำด้วยการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง เช่น การฝังยาคุมกำเนิด เนื่องจากวัยรุ่นขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับยาฝังคุมกำเนิดที่ถูกต้อง มีทัศนคติทางลบเกี่ยวกับยาฝังคุม กำเนิด และขาดการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญในครอบครัว ดังนั้น บุคลากรทางสาธารณสุขจึงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการฝังยาคุมกำเนิดของวัยรุ่นหลังคลอด โดยการกระตุ้นให้วัยรุ่นหลังคลอดเกิดความตระหนักต่อผลกระทบจากการตั้งครรภ์ซ้ำ สร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของการฝังยาคุมกำเนิด รวมทั้งเปิดโอกาสให้บุคคลสำคัญในครอบครัวมีส่วนร่วมในการสนับสนุนและส่งเสริมการฝังยาคุมกำเนิด ซึ่งจะช่วยให้วัยรุ่นหลังคลอดเกิดแรงจูงใจในการเลือกฝังยาคุมกำเนิด อันเป็นการป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ซ้ำในวัยรุ่นหลังคลอด

เอกสารอ้างอิง

กรมอนามัย. (2559ก). ร้อยละของการตั้งครรภ์ซ้ำในหญิงอายุน้อยกว่า 20 ปี. สืบค้นจาก https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/report.php?source=pformated

กรมอนามัย. (2559ข). พระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559. สืบค้นจาก https://www.chiangmaihealth.go.th/cmpho_web/document/161026147746689779.pdf

กรมอนามัย. (2560). ร้อยละของหญิงไทยอายุน้อยกว่า 20 ปี หลังคลอดหรือหลังแท้งที่คุมกำเนิด ได้รับการคุมกำเนิดด้วยวิธีกึ่งถาวร. สืบค้นจาก https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/report.php?source=pformated/format1.php&cat_id=1ed90bc32310b503b7ca9b32af425ae5&id=18f1e8ff96be07d297b51aa8cd21b297

กรมอนามัย. (2561). ร้อยละของหญิงไทยอายุน้อยกว่า 20 ปี หลังคลอดหรือหลังแท้งที่คุมกำเนิด ได้รับการคุมกำเนิดด้วยวิธีกึ่งถาวร. สืบค้นจาก https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/report.php?source=pformated/format1.php&cat_id=1ed90bc32310b503b7ca9b32af425ae5&id=18f1e8ff96be07d297b51aa8cd21b297

กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย. (2556). แม่วัยใส ความท้าทายการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น. กรุงเทพฯ: แอดวานส์ปริ้นติ้ง.

เกตย์สิรี ศรีวิไล. (2559). การตั้งครรภ์ซ้ำในมารดาวัยรุ่น ในโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่งของภาคใต้. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 3(3), 142-152.

จิตติพร ศรีษะเกตุ, พรพิมล ชัยสา, อัศนี วันชัย, เยาวลักษณ์ มีบุญมาก, และวิริยา โพธิ์ขวาง ยุสท์. (2560). แนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานไทย: การสังเคราะห์งานวิจัยอย่างเป็นระบบ. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 11(2), 156-170.

ชัชฎาพร จันทรสุข, พรรณพิไล ศรีอาภรณ์, และสุกัญญา ปริสัญญกุล. (2558). ผลการส่งเสริมเจตคติและบรรทัดฐานกลุ่มอ้างอิงต่อความตั้งใจและการใช้การคุมกำเนิดของวัยรุ่นหลังคลอด. พยาบาลสาร, 42(2), 104-115.

ทรงยศ พิลาสันต์. (2557). ผลกระทบจากการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นไทย. สืบค้นจาก http://www.hitap.net/wp-content/uploads/2014/10/ผลกระทบตั้งครรภ์ในวัยรุ่น-final-for-web.pdf

นาฏนฤมล ทองมี, เอมพร รตินธร, และปิยะนันท์ ลิมเรืองรอง. (2558). ปัจจัยทำนายการคุมกำเนิดของมารดาวัยรุ่นที่มีบุตรคนแรกในระยะหลังคลอด. วารสารพยาบาลศาสตร์, 33(1), 51-59.

ปังปอนด์ รักอำนวยกิจ. (2556). แม่วัยใส: สถานการณ์และบริบทในสังคมไทย (รายงานผลการวิจัย). กรุงเทพฯ: วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ปัญญา สนั่นพานิชกุล, และยศพล เหลืองโสมนภา. (2558). การตั้งครรภ์ในหญิงวัยรุ่น: ปัจจัยทางด้านมารดาที่มีผลต่อทารก. วารสารศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า, 32(2), 147-156.

ปุญชรัสมิ์ ศิริทรัพย์. (2555). ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในเขตนครชัยบุรินทร์. วารสารศูนย์อนามัยที่ 5 นครราชสีมา, 6(13), 8-27.

มนต์ชัย สันติภาพ. (2561). อัตราการเลิกใช้ยาฝังคุมกำเนิดของวัยรุ่นหลังคลอด พ.ศ. 2558-2560. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย, 8(1), 81-87.

มาลี เกื้อนพกุล, ทศพร เรืองกฤษ, และพัชรา อุบลสวัสดิ์. (2556). การตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมของวัยรุ่น: เหตุผลที่ไม่ยุติการตั้งครรภ์. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 7(1), 38-49.

เมธิกา ศรีสด, และพิมลพรรณ อิศรภักดี. (2559). การยอมรับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานของคนไทย. วารสารวิจัยราชภัฏพระนคร สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 11(2), 137-145.

ยุพเยาว์ วิศพรรณ์, และสมจิต ยาใจ. (2559). ผลกระทบด้านสุขภาพ ด้านสังคม และด้านเศรษฐกิจ จากการตั้งครรภ์ของแม่วัยรุ่น จังหวัดจันทบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 27(เพิ่มเติม 1), 1-16.

ฤดี ปุงบางกะดี่, และเอมพร รตินธร. (2557). ปัจจัยและผลกระทบจากการตั้งครรภ์ซ้ำของสตรีวัยรุ่นไทย: กรณีศึกษาในกรุงเทพมหานคร. วารสารพยาบาลศาสตร์, 32(2), 23-31.

ลำเจียก กำธร. (2557). “วัยรุ่น...วัยวุ่นกับปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม...ป้องกันอย่างไร”. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ, 30(3), 97-105.

วิวรรณ พงศ์พัฒนานนท์. (2559). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ของมารดาวัยรุ่นโรงพยาบาลท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย, 6(2), 161-170.

วิไล ตาปะสี, และประไพวรรณ ด่านประดิษฐ์. (2556). สภาพการดำเนินชีวิตของมารดาวัยรุ่นหลังคลอด: กรณีศึกษาวิจัยคุณภาพ. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ, 7(3), 121-132.

ศรีเพ็ญ ตันติเวสส, ทรงยศ พิลาสันต์, อินทิรา ยมาภัย, ยศ ตีระวัฒนานนท์, ชลัญธร โยธาสมุทร, อภิญญา มัตเดช, และณัฐจรัส เองมหัสสกุล. (2556). สถานการณ์การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นในประเทศไทย 2556. สืบค้นจาก https://www.m-society.go.th/article_attach/11829/16120.pdf

ศิริพร จิรวัฒน์กุล, กฤตยา แสวงเจริญ, ดารุณี จงอุดมการณ์, นิลุบล รุจิรประเสริฐ, บำเพ็ญ คำดี, รชยา ยิกุสงข์, … อิงคฏา โคตนารา. (2555). สถานการณ์การตั้งครรภ์วัยรุ่น: การรับรู้ของวัยรุ่นใน 7 จังหวัดของประเทศไทย. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 21(5), 865-877.

ศิริวรรณ กำแพงพันธ์. (2552). ปัจจัยทางจิตสังคมที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ของหญิงวัยรุ่นที่มาฝากครรภ์ในโรงพยาบาลศิริราช (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). นครปฐม: มหาวิทยาลัยมหิดล.

สลักจิต วรรณโกษิตย์. (2555). การศึกษาเปรียบเทียบผลการตั้งครรภ์ในหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ที่มาคลอดในโรงพยาบาลละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า, 29(4), 283-292.

สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย. (2560). สถานการณ์อนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นและเยาวชน ปี 2560. สืบค้นจาก http://rh.anamai.moph.go.th/download/all_file/index/สถานการณ์RH_2560_Website.pdf

สิริลัดดา บุญเนาว์. (2559). ความรู้ ทัศนคติ และความพึงพอใจต่อการคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำของมารดาวัยรุ่น. ชัยภูมิเวชสาร, 36(2), 35-43.

สุนีย์ จุ่มกลาง, รุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์, และพรนภา หอมสินธุ์. (2560). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจใช้ยาฝังคุมกำเนิดโดยใช้แนวคิดการให้ข้อมูลข่าวสาร แรงจูงใจ และทักษะพฤติกรรมในมารดาวัยรุ่น. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 25(2), 31-42.

สุรเดช บุณยเวทย์, จิราพร มงคลประเสริฐ, และรัตนา งามบุณยรักษ์. (2551). วิทยาการระบาดและการตั้งครรภ์ในสตรีวัยรุ่น อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 2(2), 1231-1241.

อนงค์ ประสาธน์วนกิจ, ประณีต ส่งวัฒนา, และบุญวดี เพชรรัตน์. (2552). ความเชื่อเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ และรูปแบบพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นและเยาวชนในสถานศึกษาจังหวัดสงขลา. สงขลานครินทร์เวชสาร, 27(5), 369-380.

อาภาพร เผ่าวัฒนา. (2551). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการสื่อสารเรื่องเพศของมารดาที่มีบุตรสาววัยรุ่น ชุมชนแออัด เขตกรุงเทพมหานคร. วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 22(1), 31-50.

อารียา สมรูป. (2561). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้ยาฝังคุมกำเนิดภายหลังคลอดในมารดาวัยรุ่นครรภ์แรก (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.

อุษณีย์ แสนหมี่. (2560). การวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิด. สืบค้นจาก https://w1.med.cmu.ac.th/obgyn/index.php?option=com_content&view=article&id=1319:2017-04-19-14-49-40&catid=39&Itemid=360

Abma, J. C., & Martinez, G. M. (2017). Sexual activity and contraceptive use among teenagers in the United States, 2011-2015. National Health Statistics Reports, 104, 1-23.

Aronowitz, T., Ogunlade, I. J., Nwosu, C., & Gona, P. N. (2015). Sexual communication intervention for African American mothers & daughters. Applied Nursing Research, 28(3), 229-234.

Bharadwaj, P., Akintomide, H., Brima, N., Copas, A., & D’Souza, R. (2012). Determinants of long-acting reversible contraceptive (LARC) use by adolescent girls and young women. The European Journal of Contraception & Reproductive Health Care, 17(4), 298-306.

Boardman, L. A., Allsworth, J., Phipps, M. G., & Lapane, K. L. (2006). Risk factors for unintended versus intended rapid repeat pregnancies among adolescents. Journal of Adolescent Health, 39(4), 597. e1-8.

Boer, H., & Seydel, E. R. (1998). Protection Motivation Theory. In M. Conner & P. Norman (Eds.), Predicting Health Behaviour (pp. 95-120). Philadelphia: Open University Press.

Espey, E., & Hofler, L. (2017). Practice Bulletin No. 186: Long-acting reversible contraception: Implants and intrauterine devices. Obstetrics and Gynecology, 130(5), e251-e269.

Gavin, L. E., Williams, J. R., Rivera, M. I., & Lachance, C. R. (2015). Programs to strengthen parent-adolescent communication about reproductive health: A systematic review. American Journal of Preventive Medicine, 49(2 suppl. 1), s65-s72.

Hoopes, A. J., Gilmore, K., Cady, J., Akers, A. Y., & Ahrens, K. R. (2016). A qualitative study of factors that influence contraceptive choice among adolescent school-based health center patients. Journal of Pediatric and Adolescent Gynecology, 29(3), 259-264.

Inyang-Etoh, E. C., & Akpan, A. S. (2016). Side effect profile of Jadelle implant in Nigerian women during the first 12 months of usage. International Journal of Reproduction, Contraception, Obstetrics and Gynecology, 5(5), 1461-1466.

Lewis, L. N., Doherty, D. A., Hickey, M., & Skinner, S. R. (2010). Implanon as a contraceptive choice for teenage mothers: A comparison of contraceptive choices, acceptability and repeat pregnancy. Contraception, 81(5), 421-426.

Ngowa, J. D. K., Kasia, J. M., Pisoh, W. D., Ngassam, A., & Noa, C. (2015). Obstetrical and perinatal outcomes of adolescent pregnancies in Cameroon: A retrospective cohort study at the Yaounde General Hospital. Open Journal of Obstetrics and Gynecology, 5(2), 88-93.

Omar, H. A., Fowler, A., & McClanahan, K. K. (2008). Significant reduction of repeat teen pregnancy in a comprehensive young parent program. Journal of Pediatric and Adolescent Gynecology, 21(5), 283-287.

Potter, J., Rubin, S. E., & Sherman, P. (2014). Fear of intrauterine contraception among adolescents in New York City. Contraception, 89(5), 446-450.

Timur, H., Kokanalı, M. K., Topçu, H. O., Topçu, S., Erkılınç, S., Uygur, D., & Yakut, H. I. (2016). Factors that affect perinatal outcomes of the second pregnancy of adolescents. Journal of Pediatric and Adolescent Gynecology, 29(1), 18-21.

Trussell, J. (2011). Contraceptive failure in the United States. Contraception, 83(5), 397-404.

Wilkie, G. L., Leung, K., Kumaraswami, T., Barlow, E., & Simas, T. A. M. (2016). Effects of obstetric complications on adolescent postpartum contraception and rapid repeat pregnancy. Journal of Pediatric and Adolescent Gynecology, 29(6), 612-616.

World Health Organization. (2014). Adolescent pregnancy. Retrieved from http://www.who.int/mediacentre/factsheets/fs364/en/

World Health Organization. (2016). Global strategy for women’s, children’s and adolescents’ health. Retrieved from http://www.apps.who.int/gho/data/node.gswcah

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-06-23

รูปแบบการอ้างอิง

ท่าม่วง จ. (2020). การส่งเสริมการฝังยาคุมกำเนิดในวัยรุ่นหลังคลอดโดยการสร้างแรงจูงใจร่วมกับแรงสนับสนุนจากครอบครัว. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 31(1), 167–177. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/pnc/article/view/218300

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ (Academic Article)