ผลของโปรแกรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองต่อความสามารถในการดูแลเด็กป่วยวิกฤตที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
คำสำคัญ:
การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง, ความสามารถในการดูแล, เด็กป่วยวิกฤตบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองต่อความสามารถในการดูแลเด็กป่วยวิกฤตที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ปกครองที่ดูแลเด็กป่วยวิกฤตที่ได้รับการรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจ หอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลชลบุรี จำนวน 30 คน แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 15 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย โปรแกรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กป่วยวิกฤตที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กป่วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ปกครอง และแบบสอบถามความสามารถในการดูแลเด็กป่วยวิกฤตที่ใช้เครื่องช่วยหายใจของผู้ปกครอง มีค่าความเชื่อมั่น .82 ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงเดือนมกราคม 2562 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Chi-square test, Fisher’s exact test และ independent t-test
ผลการวิจัยพบว่า หลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการดูแลเด็กป่วยวิกฤตที่ใช้เครื่องช่วยหายใจสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 20.070, p < .001)
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า พยาบาลเด็กควรนำโปรแกรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กป่วยวิกฤตที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ ไปใช้ในการเสริมสร้างความมั่นใจแก่ผู้ปกครองเด็กป่วยวิกฤตที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ เพื่อให้สามารถดูแลเด็กป่วยวิกฤตที่ใช้เครื่องช่วยหายใจได้ดียิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข. (2559). รายงานแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ช่วงแผนพัฒนาสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2555–2559. นนทบุรี: ผู้แต่ง.
กลุ่มงานเวชระเบียน โรงพยาบาลชลบุรี. (2560). สถิติผู้ป่วยเด็ก หอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลชลบุรี. ชลบุรี: ผู้แต่ง.
เกศรา เสนงาม. (2551). การพยาบาลผู้ป่วยเด็กภาวะวิกฤตของระบบหายใจ. สงขลา: อัลลายด์เพรส.
ไกรวรร กาพันธ์, ศรีพรรณ กันธวัง, และอุษณีย์ จินตะเวช. (2553). การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการดูแลเด็กที่มีความเจ็บป่วยวิกฤต ในหอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง. พยาบาลสาร, 37(3), 62–75.
ณัฐิกา ปฐมอารีย์. (2551). การมีส่วนร่วมของมารดาในการดูแลทารกแรกเกิดในหออภิบาลทารกแรกเกิด (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
บงกช นิลอ่อน. (2556). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของมารดาต่อความสามารถในการดูแลบุตรที่มีภาวะชักจากไข้สูง (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
ปวารณา จำปาแขม. (2554). การมีส่วนร่วมของผู้ดูแลในการดูแลผู้ป่วยเด็กในหอผู้ป่วยระยะวิกฤต. วารสารสาธารณสุขขอนแก่น, 23(263), 27–29.
พรทิพย์ ศิริบูรณ์พิพัฒนา. (บ.ก.). (2555). การพยาบาลเด็ก เล่ม 3. นนทบุรี: ยุทธรินทร์การพิมพ์.
ศิริวรรณ หุ่นท่าไม้, นุจรี ไชยมงคล, และยุนี พงศ์จตุรวิทย์. (2553). ผลของโปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัวต่อความสามารถของมารดาในการดูแลบุตรป่วยโรคหอบหืด. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 18(1), 44–55.
สรณี อักษรกวน. (2551). ผลการใช้รูปแบบการบริการพยาบาลแบบครอบครัวมีส่วนร่วมต่อการกลับเข้ารับการรักษาซ้ำของผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบ พฤติกรรมการดูแลเด็กของครอบครัว และความพึง พอใจในบริการพยาบาล. วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 20(1), 81–95.
สุธิศา ล่ามช้าง, อรพินท์ จันทร์ปัญญาสกุล, ฐิติมา สุขเลิศตระกูล, และปรีชา ล่ามช้าง. (2552). ผลของโปรแกรมการสนับสนุนด้านข้อมูลและอารมณ์ต่อความเครียด ความรู้และพฤติกรรมการดูแลเด็กของผู้ปกครองเด็กที่ติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน. วารสารสาธารณสุขศาสตร์, 39(3), 233–244.
Phuong, D. T., Pongjaturawit, Y., & Chaimongkol, N. (2016). A comparison between actual and preferred participation in the care among parents of hospitalized children in Vietnam. Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, 11(4), 137–143.
Polit, D. F., & Beck, C. T. (2006). Nursing research: Principles and methods (6th ed.). Philadelphia: Lippincott.
Pongjaturawit, Y., Chontawan, R., Yenbut, J., Sripichyakan, K., & Harrigan, R. C. (2006). Parent participation in the care of hospitalized young children. Thai Journal of Nursing Research, 10(1), 18–28.
Schepp, K. G. (1995). Psychometric assessment of the preferred participation scale for parent of hospitalized children. Washington, DC: National Academy Press.
Youngblut, J. M., Brooten, D., & Kuluz, J. (2005). Parents’ reactions at 24–48 hrs after a preshool child’s head injury. Pediatric Criticnal Care Medicine, 6(5), 550–556. doi:10.1097/01.pcc.0000163283.27419.e9
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน