การพัฒนาห้องปฏิบัติการพยาบาลที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
คำสำคัญ:
ห้องปฏิบัติการพยาบาล, การเรียนรู้ด้วยตนเอง, นักศึกษาพยาบาลบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาห้องปฏิบัติการพยาบาลที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษาพยาบาล กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ปีการศึกษา 2559 และปีการศึกษา 2560 รวมจำนวน 281 คน เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถามความพึงพอใจในการใช้ห้องปฏิบัติการพยาบาลของนักศึกษา แบ่งออก เป็น 3 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลทั่วไป ความต้องการในการพัฒนาห้องปฏิบัติการพยาบาล และความพึงพอใจในการใช้ห้องปฏิบัติการพยาบาล มีค่าความเชื่อมั่น .85 ดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน ได้แก่ การสำรวจความต้องการในการพัฒนา และความพึงพอใจในการใช้ห้องปฏิบัติการพยาบาล การพัฒนาห้องปฏิบัติการพยาบาล การทดลองใช้ห้องปฏิบัติการพยาบาล และการประเมินความพึงพอใจในการใช้ห้องปฏิบัติการพยาบาล ดำเนินการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนธันวาคม 2560 วิเคราะห์ข้อมูล ด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ independent t-test
ผลการวิจัยพบว่า การพัฒนาห้องปฏิบัติการพยาบาลที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่สอดคล้องกับผลการสำรวจข้อมูล ประกอบด้วย 1) การจัดซื้อและเตรียมหุ่นจำลองและวัสดุอุปกรณ์การฝึกให้เพียงพอกับจำนวนนักศึกษาและทักษะการพยาบาลที่นักศึกษาต้องฝึกบ่อยครั้ง 2) การเพิ่มสื่อวีดิทัศน์และจำนวนคอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต 3) การขยายเวลาการใช้ห้องปฏิบัติการนอกเวลา 4) การสนับสนุนระบบการยืม-คืนอุปกรณ์ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น 5) การแนะนำวิธีดูแลรักษาอุปกรณ์และหุ่นจำลอง และ 6) การกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการฝึกทักษะการพยาบาลด้วยตนเองของนักศึกษา และพบว่า นักศึกษาพยาบาลกลุ่มหลังการพัฒนาห้องปฏิบัติการพยาบาลมีคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจในการใช้ห้องปฏิบัติการพยาบาลที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองสูงกว่ากลุ่มก่อนการพัฒนาห้องปฏิบัติการพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 2.925, p < .01)
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า บุคลากรที่เกี่ยวข้องควรสำรวจปัญหาและความพึงพอใจในการใช้ห้องปฏิบัติการพยาบาลของนักศึกษาทุกปีการศึกษา จัดให้มีวัสดุอุปกรณ์และหุ่นจำลองสำหรับการฝึกทักษะการพยาบาลที่พร้อมใช้และเพียงพอ และเปิดให้บริการห้องปฏิบัติการพยาบาลนอกเวลา
References
วิจารณ์ พานิช. (2556). การสร้างการเรียนรู้สู่ศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสยามกัมมาจล.
วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี. (2556). หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2555. ม.ป.ท.
สถาบันพระบรมราชชนก. (2558). คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน วิทยาลัยสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก. นนทบุรี: ผู้แต่ง.
สภาการพยาบาล. (2556). คู่มือการรับรองสถาบันการศึกษาวิชาการพยาบาลและการผดุงครรภ์. นนทบุรี: จุดทอง.
อรพันธุ์ ประสิทธิรัตน์. (2545). สภาพแวดล้อมการเรียนรู้. สารานุกรมศึกษาศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 25, 57-64.
Fraser, B. J., & Walberg, H. J. (Eds.). (1991). Educational environments: Evaluation, antecedents and consequences. Elmsford, NY: Pergamon Press.
Haraldseid, C., Friberg, F., & Aase, K. (2015). Nursing students’ perceptions of factors influencing their learning environment in a clinical skills laboratory: A qualitative study. Nurse Education Today, 35(9), e1-e6.
Strand, I., Nåden, D., & Slettebø, Å. (2009). Students learning in a skills laboratory. Vård I Norden, 29(3), 18-22.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2019 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน