ผลของกลุ่มบำบัดด้วยศิลปะต่อความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของผู้ป่วยโรคจิตเภท

ผู้แต่ง

  • พิมจันทร์ ภูแก้ว มหาบัณฑิต คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  • จิณห์จุฑา ชัยเสนา ดาลลาส คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  • ชนัดดา แนบเกษร คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

คำสำคัญ:

กลุ่มบำบัดด้วยศิลปะ, ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง, ผู้ป่วยโรคจิตเภท

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง เพื่อศึกษาผลของกลุ่มบำบัดด้วยศิลปะต่อความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของผู้ป่วยโรคจิตเภท กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคจิตเภทที่มารับบริการที่แผนกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลจิตเวชสระแก้วราชนครินทร์ จำนวน 20 คน แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 10 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย กลุ่มบำบัดด้วยศิลปะ แบบประเมินอาการทางจิต แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล และแบบประเมินความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง มีค่าความเชื่อมั่น .84 ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม 2559 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน independent t-test และ two-way repeated measures ANOVA โดยทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธี Bonferroni

ผลการวิจัยพบว่า 1) ระยะหลังการทดลองเสร็จสิ้นทันที และระยะติดตามผล 1 เดือน กลุ่มทดลองมี คะแนนเฉลี่ยความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .01) และ 2) ระยะหลังการทดลองเสร็จสิ้นทันที และระยะติดตามผล 1 เดือน กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองสูงกว่าระยะก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .01)

จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า บุคลากรทางสุขภาพควรนำกลุ่มบำบัดด้วยศิลปะไปประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภท เพื่อเสริมสร้างความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง

เอกสารอ้างอิง

กรมสุขภาพจิต. (2548). รายงานประจำปี กรมสุขภาจิต ปีงบประมาณ 2548. นนทบุรี: ผู้แต่ง.

กรมสุขภาพจิต. (2559). สถิติผู้ป่วยที่มารับบริการโรงพยาบาลสังกัดกรมสุขภาพจิต. นนทบุรี: ผู้แต่ง.

เครเมอร์, อี. (2552). ศิลปะเพื่อการบำบัด [Art as therapy: Collected papers] (เลิศศิริร์ บวรกิตติ, ผู้แปลและเรียบเรียง). กรุงเทพฯ: กรุงเทพเวชสาร.

ดวงจันทร์ จงรักษ์. (2549). ทฤษฎีการให้การปรึกษาและจิตวิทยาเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น).

นปภัช กันแพงศรี. (2557). ผลของโปรแกรมกิจกรรมศิลปะต่อการเห็นคุณค่าในตนเองของผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมระยะแรก (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นาตยา วงศ์หลีกภัย. (2532). ผลของกลุ่มจิตสัมพันธ์ที่มีต่อการเห็นคุณค่าในตนเองของวัยรุ่น (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นิดารัตน์ ชูวิเชียร. (2550). ผลของศิลปะบำบัดต่อความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของเด็กวัยรุ่นที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

เปรมฤดี ดำรักษ์, อังคณา วังทอง, และอนุชิต วังทอง. (2557). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลผู้ป่วยจิตเภทเรื้อรังซับซ้อน อำเภอหนองจิก จงหวัดปัตตานี. วารสารสมาคมนักวิจัย, 19(2), 92-103.

ผ่องศรี ดวงแก้ว. (2553). การวิเคราะห์สถานการณ์การเกิดตราบาปของผู้ที่เป็นโรคจิตเภทในโรงพยาบาลสวนปรุง จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

พันธุ์นภา กิตติรัตนไพบูลย์. (2544). โครงการอบรมแนวทางการสัมภาษณ์และให้คะแนน BPRS ในรูปแบบของ T-PANSS. ใน เอกสารประกอบการบรรยายเรื่องการประเมินอาการผู้ป่วยจิตเวช โรงพยาบาลสวนปรุง (น. 1-10). เชียงใหม่: โรงพยาบาลสวนปรุง.

พิเชฐ อุดมรัตน์, และสรยุทธ วาสิกนานนท์. (2552). ตำราโรคจิตเภท. สงขลา: ชานเมืองการพิมพ์.

มาโนช หล่อตระกูล, และปราโมทย์ สุคนิชย์. (บ.ก.). (2555). จิตเวชศาสตร์ รามาธิบดี (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: บียอนด์ เอ็นเทอร์ไพรซ์.

รัฐ ลอยสงเคราะห์. (2552). ผลของศิลปะบำบัดต่อการเห็นคุณค่าในตนเองของผู้ติดสารเสพติดชาย สถาบันธัญญารักษ์ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

โรงพยาบาลจิตเวชสระแก้วราชนครินทร์. (2559). รายงานประจำปีงบประมาณ 2559. สระแก้ว: ผู้แต่ง.

หทัยรัตน์ ปฏิพัทธ์ภักดี. (2554). การเสริมสร้างพลังอำนาจในผู้ป่วยจิตเภทเรื้อรังหญิงที่มีคุณค่าในตนเองต่ำ (การศึกษาอิสระปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

American Psychiatric Association. (2000). Diagnostic and statistical manual of mental disorders (4th ed.). Washington, DC: Author.

Brooke, S. L. (1995). Art therapy: An approach to working with sexual abuse survivors. The Arts in Psychotherapy, 22(5), 447-466.

Corring, D. J., & Cook, J. V. (2007). Use of qualitative methods to explore the quality-of-life construct from a consumer perspective. Psychiatric Services, 58(2), 240-244.

Polit, D. F., & Hungler, B. P. (2001). Nursing research: Principles and methods (6th ed.). Philadelphia: J. B. Lippincott.

Varcarolis, E. M., Carson, V. B., & Shoemaker, N. C. (2006). Foundation of psychiatric mental health nursing: A clinical approach. St. Louis: Elsevier.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-06-29

รูปแบบการอ้างอิง

ภูแก้ว พ., ชัยเสนา ดาลลาส จ., & แนบเกษร ช. (2019). ผลของกลุ่มบำบัดด้วยศิลปะต่อความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของผู้ป่วยโรคจิตเภท. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 30(2), 123–133. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/pnc/article/view/188164

ฉบับ

ประเภทบทความ

รายงานการวิจัย (Research Report)