ความสัมพันธ์ระหว่างความรุนแรงของอาการเจ็บหน้าอก ความวิตกกังวล การรับรู้ความสามารถในการควบคุมการนอนหลับ และคุณภาพการนอนหลับของผู้ป่วยกลุ่มอาการโรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน

ผู้แต่ง

  • ยุวรรณฎา แทนมณี มหาบัณฑิต คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  • อาภรณ์ ดีนาน คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  • วัลภา คุณทรงเกียรติ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

คำสำคัญ:

ความรุนแรงของอาการเจ็บหน้าอก, ความวิตกกังวล, การรับรู้ความสามารถในการควบคุมการนอนหลับ, คุณภาพการนอนหลับ, กลุ่มอาการโรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบหาความสัมพันธ์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรุนแรงของอาการเจ็บหน้าอก ความวิตกกังวล การรับรู้ความสามารถในการควบคุมการนอนหลับ และคุณภาพการนอนหลับของผู้ป่วยกลุ่มอาการโรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยกลุ่มอาการโรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลันที่มารับการตรวจตามนัดที่คลินิกโรคหัวใจ โรงพยาบาลชลบุรี จำนวน 90 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย แบบบันทึกข้อมูลทั่วไป แบบประเมินความรุนแรงของอาการเจ็บหน้าอก แบบประเมินความวิตกกังวล มีค่าความเชื่อมั่น .70 แบบสอบถามการรับรู้ความสามารถในควบคุมการนอนหลับ มีค่าความเชื่อมั่น .88 และแบบสอบถามคุณภาพการนอนหลับ มีค่าความเชื่อมั่น .81 เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558 ถึงเดือนเมษายน 2559 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน

ผลการวิจัยพบว่า ความรุนแรงของอาการเจ็บหน้าอกมีความสัมพันธ์ทางลบกับคุณภาพการนอนหลับอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = -.217, p < .05) และการรับรู้ความสามารถในการควบคุมการนอนหลับมีความสัมพันธ์ทางบวกกับคุณภาพการนอนหลับอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = .286, p < .01)

จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า บุคลากรทางการพยาบาลควรส่งเสริมให้ผู้ป่วยกลุ่มอาการโรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลันมีการรับรู้ความสามารถในการควบคุมการนอนหลับ ประเมินและลดระดับความรุนแรงของอาการเจ็บหน้าอก ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพการนอนหลับดียิ่งขึ้น

เอกสารอ้างอิง

กันตพร ยอดใชย. (2547). ปัจจัยคัดสรรที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพการนอนหลับของผู้ป่วยโรคหัวใจที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

เกรียงไกร เฮงรัศมี. (2554). มาตรฐานการรักษาผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน. นนทบุรี: สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์.

ชนกพร จิตปัญญา. (2543). มโนมติและการวัดการนอนหลับ. วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 12(1), 1-9.

ณัฐชา พัฒนา. (2555). ผลของโปรแกรมการสนับสนุนทางสังคมต่อความวิตกกังวลและความพึงพอใจของผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันในหอผู้ป่วยวิกฤติ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.

ธนา นิลชัยโกวิทย์, มาโนช หล่อตระกูล, และอุมาภรณ์ ไพศาลสุทธิเดช. (2539). การพัฒนาแบบสอบถาม Hospital Anxiety and Depression Scale ฉบับภาษาไทยในผู้ป่วยโรคมะเร็ง. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 41(1), 18-30.

นันทิวัน แซ่ซื้อ. (2551). ปัจจัยรบกวนการนอนหลับของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแดงโคโรนารีในโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ (การค้นคว้าแบบอิสระปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. (2553). ระเบียบวิธีการวิจัยทางพยาบาลศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: ยู แอนด์ ไอ อินเตอร์ มีเดีย.

ผ่องพรรณ อรุณแสง. (2551). การพยาบาลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด (พิมพ์ครั้งที่ 5). ขอนแก่น: โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.

ลิวรรณ อุนนาภิรักษ์, จันทนา รณฤทธิวิชัย, วิไลวรรณ ทองเจริญ, วีนัส ลีฬหกุล, และพัสมณฑ์ คุ้มทวีพร. (2555). พยาธิสรีรวิทยาทางการพยาบาล (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: บุญศิริการพิมพ์.

ศิริวัลห์ วัฒนสินธุ์. (2553). การพยาบาลผู้ป่วยระบบหัวใจ (พิมพ์ครั้งที่ 9). ชลบุรี: ศรีศิลปการพิมพ์.

อัญชลี ชุ่มบัวทอง. (2552). วงจรการนอนหลับ. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 18(2), 294-303.

Alcantara, C., Peacock, J., Davidson, K. W., Hiti, D., & Edmondson, D. (2014). The association of short sleep after acute coronary syndrome with recurrent cardiac events and mortality. International Journal of Cardiology, 171(2), e11-e12.

Cicek, H. S., Armutcu, B., Dizer, B., Yava, A., Tosun, N., & Celik, T. (2014). Sleep quality of patients hospitalized in the coronary intensive care unit and the affecting factors. International Journal of Caring Sciences, 7(1), 324-332.

Daneshmandi, M., Sharme, M. S., Ebadi, A., & Neyse, F. (2011). The effect of earplugs on sleep quality in patients with acute coronary syndrome. Iranian Journal of Critical Care Nursing, 4(3), 127-134.

Elliott, R., McKinley, S., & Cistulli, P. (2011). The quality and duration of sleep in the intensive care setting: An integrative review. International Journal of Nursing Studies, 48(3), 384-400.

Fernandes, N. M., Nield, L. E., Popel, N., Cantor, W. J., Plante, S., Goldman, L., … Miner, S. E. (2014). Symptoms of disturbed sleep predict major adverse cardiac events after percutaneous coronary intervention. The Canadian Journal of Cardiology, 30(1), 118-124.

George, C. F., & Bayliff, C. D. (2003). Management of insomnia in patients with chronic obstructive pulmonary disease. Drugs, 63(4), 379-387.

Lenz, E. R., & Pugh, L. C. (2014). The theory of unpleasant symptoms. In M. J. Smith & P. R. Liehr (Eds.), Middle-range for nursing (pp. 165-195). Philadelphia: Springer.

Lenz, E. R., Pugh, L. C., Milligan, R. A., Gift, A., & Suppe, F. (1997). The middle-range theory of unpleasant symptoms: An update. Advances in Nursing Science, 19(3), 14-27.

McCarthy, S. (2013). Pain and anxiety in acute coronary syndrome patients awaiting transfer for diagnostic cardiac catheterization (Master’s thesis). Toronto University.

McKinley, S., Fien, M., Riegel, B., Meischke, H., Aburuz, M. E., Lennie, T. A., & Moser, D. K. (2012). Complications after acute coronary syndrome are reduced by perceived control of cardiac illness. Journal of Advanced Nursing, 68(10), 2320-2330.

Moser, D. K., Riegel, B., McKinley, S., Doering, L. V., Meischke, H., Heo, S., … Dracup, K. (2009). The Control Attitudes Scale-Revised: Psychometric evaluation in three groups of patients with cardiac illness. Nursing Research, 58(1), 42-51.

Orwelius, L., Nordlund, A., Nordlund, P., Edell-Gustafsson, U., & Sjoberg, F. (2008). Prevalence of sleep disturbances and long-term reduced health-related quality of life after critical care: A prospective multicenter cohort study. Critical Care, 12(4), R97.

Overbaugh, K. J. (2009). Acute coronary syndrome. The American Journal of Nursing, 109(5), 42-52.

Pilkington, S. (2013). Causes and consequences of sleep deprivation in hospitalised patients. Nursing Standard, 27(49), 35-42.

Weintraub, W. S., Spertus, J. A., Kolm, P., Maron, D. J., Zhang, Z., Jurkovitz, C., … Mancini, G. B. (2008). Effect of PCI on quality of life in patients with stable coronary disease. The New England Journal of Medicine, 359(7), 677-687.

Yasuhara, Y., Kobayashi, H., Tanioka, T., Fujikawa, E., Fujinaga, H., Kongsuwan, W., & Locsin, R. (2013). Sleep conditions and quality of life among patients with ischemic heart disease after elective percutaneous coronary intervention. Health, 5(3), 532-537.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-05-30

รูปแบบการอ้างอิง

แทนมณี ย., ดีนาน อ., & คุณทรงเกียรติ ว. (2019). ความสัมพันธ์ระหว่างความรุนแรงของอาการเจ็บหน้าอก ความวิตกกังวล การรับรู้ความสามารถในการควบคุมการนอนหลับ และคุณภาพการนอนหลับของผู้ป่วยกลุ่มอาการโรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 30(1), 113–124. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/pnc/article/view/167810

ฉบับ

ประเภทบทความ

รายงานการวิจัย (Research Report)