ความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา กระทรวงสาธารณสุข
คำสำคัญ:
ความผูกพันต่อองค์การ, ความพึงพอใจในการทำงาน, ปัจจัยจูงใจ, ปัจจัยค้ำจุนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะส่วนบุคคล และความพึงพอใจ ในการทำงาน กับความผูกพันต่อองค์การ และปัจจัยทำนายความผูกพันต่อองค์การของบุคลากร กลุ่มตัวอย่าง เป็นบุคลากรโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 117 คน เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถาม แบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่ คุณลักษณะส่วนบุคคล ความพึงพอใจในการทำงานในส่วนปัจจัยจูงใจ ความพึงพอใจ ในการทำงานในส่วนปัจจัยค้ำจุน ความผูกพันต่อองค์การ และข้อเสนอแนะ มีค่าความเชื่อมั่น .98 เก็บรวบรวมข้อมูล ในเดือนธันวาคม 2557 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน independent t-test, one-way ANOVA สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัยพบว่า 1) บุคลากรมีคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจในการทำงานโดยรวม และคะแนนเฉลี่ย ความผูกพันต่อองค์การโดยรวม ในระดับมาก (M = 3.60, SD = .72 และ M = 3.79, SD = .69 ตามลำดับ) 2) อายุ ประสบการณ์การทำงาน และรายได้ มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์การอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = .370, p < .001; r = .850, p < .001 และ F = 8.240, p < .001 ตามลำดับ) 3) ความพึงพอใจในการทำงาน ในส่วนปัจจัยจูงใจ และในส่วนปัจจัยค้ำจุน มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความผูกพันต่อองค์การอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ (r = .720, p < .001 และ r = .700, p < .001 ตามลำดับ) และ 4) ปัจจัยค้ำจุนด้านความมั่นคง และ ปลอดภัยในการทำงาน ปัจจัยจูงใจด้านความก้าวหน้า ปัจจัยจูงใจด้านความสำเร็จของงาน และปัจจัยค้ำจุน ด้านความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา สามารถร่วมกันทำนายความผูกพันต่อองค์การได้ร้อยละ 65.90 อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ (adj. R2 = .659, p < .001)
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่าผู้บริหารโรงพยาบาลควรส่งเสริมให้บุคลากรมีกิจกรรมร่วมกัน ให้เข้ารับ การอบรมหรือสัมมนาตามความเหมาะสม และกำหนดนโยบายที่ทำให้บุคลากรรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในการทำงาน เพื่อให้บุคลากรมีความผูกพันต่อองค์การสูงขึ้น
เอกสารอ้างอิง
งานบุคลากร โรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา. (2555). ข้อมูลการสำรวจจำนวนบุคลากร โรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว. ฉะเชิงเทรา: ผู้แต่ง.
ดวงพร พรวิทยา. (2550). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันต่อสถาบันของอาจารย์พยาบาล สังกัดวิทยาลัยพยาบาล สถาบันพระบรมราชชนก สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
ธงชัย สันติวงษ์. (2543). องค์การและการบริหาร (พิมพ์ครั้งที่ 11). กรุงเทพฯ: วัฒนาพานิช.
นิสิต ทิพย์รักษ์. (2548). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์การ: กรณีศึกษากรมอุตุนิยมวิทยา (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยปทุมธานี.
ประยงค์ มีผล. (2545). ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป บริษัทไหมทอง จำกัด กรุงเทพมหานคร (สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ปิยะ บุนนาค. (2543). ความผูกพันต่อสถาบันและความพึงพอใจในงานของอาจารย์คณะครุศาสตร์ สถาบันราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี.
มะปราง จันทร. (2552). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์กรและแนวโน้มที่จะทำงานต่อไปของพนักงานโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
วัชพร ชัยชนะ. (2551). ความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของบุคลากรสาธารณสุขในศูนย์สุขภาพชุมชน จังหวัดหนองคาย (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ศิริพร พงศ์ศรีโรจน์. (2550). องค์การและการจัดการ (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: เทคนิค.
สุทธิลักษณ์ คำก๋อง. (2549). ปัจจัยค้ำจุนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของบุคลากรโรงเรียนวชิรวิทย์ จังหวัดเชียงใหม่ (การค้นคว้าแบบอิสระปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
อรพินท์ สุขสถาพร. (2542). ความผูกพันต่อองค์การ: ศึกษากรณีกรมส่งเสริมการเกษตร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
อรุณ จิรวัฒน์กุล. (บ.ก.). (2550). ชีวสถิติ (พิมพ์ครั้งที่ 4). ขอนแก่น: โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
Herzberg, F. (1974). The motivation to work. New York: John Wiley and Sons.
Steers, R. M. (1991). Introduction to organization behaviour. New York: Harper Collins.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน