การพัฒนารูปแบบการจัดการตนเองของมารดาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน: กรณีศึกษามารดาหลังคลอด ตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี

ผู้แต่ง

  • อารีรัตน์ วิเชียรประภา วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
  • ขนิษฐา เมฆกมล วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
  • กรรณิการ์ แซ่ตั๊ง วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
  • เกษณี พรหมอินทร์ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี
  • สมลักษณ์ ศรีวิรัญ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี

คำสำคัญ:

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน, รูปแบบการจัดการตนเอง, มารดาหลังคลอด

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาและศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการตนเองในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน ของมารดาหลังคลอด กลุ่มตัวอย่างเป็นมารดาหลังคลอดในตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี จำนวน 13 คน เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการตนเองในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน มีค่าความเชื่อมั่น .72 ดำเนินการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูล 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ศึกษารูปแบบการจัดการตนเองในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน ที่มีอยู่ 2) พัฒนารูปแบบ 3) ทดลองใช้รูปแบบ 4) ปรับปรุงรูปแบบ และ 5) ประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่ารูปแบบจากการวิจัยเป็นความร่วมมือระหว่างทีมวิจัย มารดาหลังคลอด และครอบครัว โดยทีมวิจัยทำหน้าที่สนับสนุนการจัดการตนเองในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ประกอบด้วย 1) ร่วมตั้งเป้าหมายในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 2) ทบทวนเป้าหมาย 3) ติดตามเยี่ยมบ้าน และให้คำแนะนำตามความต้องการของมารดาหลังคลอดและครอบครัว 4) ติดตาม ประเมินปัญหา อุปสรรค และกระตุ้นเตือน 5) สร้างช่องทางการขอความช่วยเหลือเมื่อประสบปัญหา 6) จัดพี่เลี้ยงนมแม่ 7) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัว และ 8) สร้างกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน และมารดาหลังคลอดมีการจัดการตนเองโดย 1) ตั้งเป้าหมายในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 2) ลงมือปฏิบัติ 3) แสวงหาข้อมูล 4) ประเมินปัญหา และขอคำแนะนำจากพยาบาล 5) หาแนวทางแก้ไขเมื่อพบอุปสรรค 6) ปรับเปลี่ยนข้อมูล 4) ประเมินปัญหา และขอคำแนะนำจากพยาบาล 5) หาแนวทางแก้ไขเมื่อพบอุปสรรค 6) ปรับเปลี่ยนวิธีการเมื่อยังแก้ปัญหาไม่สำเร็จ และ 7) มุ่งมั่นตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวตามเป้าหมาย ส่วนครอบครัวมีบทบาทในการสนับสนุน ช่วยเหลือ ด้านประสิทธิภาพของรูปแบบ พบว่ามารดาหลังคลอดมีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน ร้อยละ 62 และมีคะแนนเฉลี่ยความคิดเห็นต่อรูปแบบโดยรวมในระดับมาก (X = 4.01, SD = .26)

จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่าบุคลากรที่เกี่ยวข้องควรนำรูปแบบไปใช้ในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และเพิ่มการกระตุ้น ติดตาม เพื่อช่วยเหลือ แก้ปัญหาและอุปสรรค เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน

เอกสารอ้างอิง

กรรณิการ์ วิจิตรสุคนธ์, พรรณรัตน์ แสงเพิ่ม, นันทิยา วัฒายุ, สุพินดา เรืองจิรัษเฐียร, และสุดาภรณ์ พยัคฆเรือง. (บ.ก.). (2555). การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: พรี-วัน.

นิศาชล เศรษฐไกรกุล, และคณะ. (2559). สถานการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของผู้รับบริการในสถานพยาบาลรัฐ. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 25(4), 657-663.

ปฐมพร โพธิ์ถาวร, อำไพอร เพ็ญสุวรรณ, และนิตยา ศรีญาณลักษณ์. (2556). การเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นในเขตเทศบาลนครสงขลา. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 23(3),45-52.

เปรมฤดี ศรีวิชัย, และพรนภา สุริยะไชย. (2558). ความสำเร็จในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียวในมารดาวัยรุ่น 6 เดือนแรกหลังคลอด ที่โรงพยาบาลพะเยา. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 26(1), 17-24.

พัชนียา เชียงตา, ฉวี เบาทรวง, และกรรณิการ์ กันธะรักษา. (2557). ผลของการสนับสนุนทางสังคมต่อความสำเร็จในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียวของมารดาครรภ์แรก. พยาบาลสาร, 41(3), 1-12.

พัชรินทร์ เงินทอง, กรรณิการ์ กันธะรักษา, และนงลักษณ์ เฉลิมสุข. (2558). การให้ความรู้ต่อการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาในมารดาวัยรุ่น: การทบทวนอย่างเป็นระบบ. พยาบาลสาร, 42(พิเศษ), 57-68.

ภาวิน พัวพรพงษ์, คมกฤช เอี่ยมจิรกุล, ศิรินุช ชมโท, และอรพร ดำรงวงศ์ศิริ. (2559). เวชปฏิบัติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. กรุงเทพฯ: บียอนด์ เอ็นเทอร์ไพรซ์.

สุนทร ยนต์ตระกูล, สุวิมล พุทธบุตร, รัตติยา ทองสมบูรณ์, อุมาภรณ์ กั้วสิทธิ์, และศุภวดี แถวเพีย. (2556). การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยการบูรณาการแบบมีส่วนร่วมในชุมชนเครือข่ายโรงพยาบาลมหาสารคาม. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 22(6), 988-996.

อารีรัตน์ วิเชียรประภา, ขนิษฐา เมฆกมล, กรรณิการ์ แซ่ตั๊ง, เกษณี พรหมอินทร์, และสมลักษณ์ ศรีวิรัญ. (2560). รูปแบบการจัดการตนเองของมารดาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน: กรณีศึกษามารดาหลังคลอด ตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 28(2), 29-41.

Bernardo, L. H., & Casar, G. V. (2013). Long-term effects of breastfeeding: A systematic review. Retrieved April 1, 2018, from http://apps.who.int/iris/bitstream/handle/ 10665/79198/9789241505307_eng.pdf;jsessionid=E00C170182FB8F6DCC3D4D2AC289DAA4?sequence=1.

Creer, L. T. (2000). Self-management of chronic illness. In Boekaerts, M., Pintrich, P. R., & Zeidner, M. (Eds.). Handbook of self-regulation. pp. 601-629. San Diego, CA: Academic Press.

Cunningham, F. G., Leveno, K. J., Bloom, S. L., Hauth, J. C., Rouse, D. J., & Spong, C. Y. (2010). William obstetrics (23th ed.). New York: McGraw-Hill.

Global breastfeeding scorecard. (2017). Tracking progress for breastfeeding policies and programmes. Retrieved April 1, 2018, from http://www.who.int/nutrition/publications/infantfeeding/global-bf-scorecard-2017.pdf.

World Health Organization. (2010). Breastfeeding key to saving children’s lives: Ten steps to successful breastfeeding highlighted during world breastfeeding week. Geneva: Author.

World Health Organization. (2017). Infant and young child feeding: Fact sheet updated July 2017. Retrieved August 1, 2017, from http://www.who.int/mediacentre/factsheets/fs342/en/http://www.who.int/%20mediacentre/%20factsheets/fs342/en/

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-07-04

รูปแบบการอ้างอิง

วิเชียรประภา อ., เมฆกมล ข., แซ่ตั๊ง ก., พรหมอินทร์ เ., & ศรีวิรัญ ส. (2018). การพัฒนารูปแบบการจัดการตนเองของมารดาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน: กรณีศึกษามารดาหลังคลอด ตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 29(1), 170–184. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/pnc/article/view/132809

ฉบับ

ประเภทบทความ

รายงานการวิจัย (Research Report)