การวิเคราะห์เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมการพยาบาลโดยตรงในผู้ป่วยศัลยกรรมหัวใจและ ทรวงอก: กรณีศึกษาหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลรามาธิบดี
คำสำคัญ:
การวิเคราะห์เวลา, กิจกรรมการพยาบาลโดยตรง, การจำแนกประเภทผู้ป่วยวิกฤตบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา เพื่อวิเคราะห์เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมการพยาบาลโดยตรงในผู้ป่วยศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงาน ณ หอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลรามาธิบดี จำนวน 22 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วยแบบสอบถามข้อมูลทั่วไปของพยาบาลวิชาชีพ แบบบันทึกข้อมูลทั่วไปของผู้ป่วย คู่มือการจำแนกประเภทผู้ป่วยวิกฤต (TISS-28, Simplified Therapeutic Intervention Scoring System) และแบบบันทึกเวลาที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมการพยาบาลโดยตรง เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงวันที่ 21 กรกฎาคม ถึงวันที่ 19 สิงหาคม 2557 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่าผู้ป่วยวิกฤตส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยประเภทที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 90.49 โดยมีค่าเฉลี่ยผู้ป่วยต่อเวรเท่ากับ 5.42 กลุ่มตัวอย่างใช้เวลาเฉลี่ยในการปฏิบัติกิจกรรมการพยาบาลโดยตรงแก่ผู้ป่วยประเภทที่ 3 มากที่สุด เท่ากับ 393.34 นาที/คน/วัน (SD = 77.78) และน้อยที่สุดคือ ผู้ป่วยประเภทที่ 2 เท่ากับ 306 นาที/คน/วัน (SD = 78.49) ช่วงเวลาปฏิบัติงานที่ใช้เวลามากที่สุดในผู้ป่วยทุกประเภท ตามค่าเฉลี่ยผู้ป่วยต่อเวร คือ เวรบ่าย ส่วนกิจกรรมการพยาบาลโดยตรงที่ใช้เวลามากที่สุดคือ หมวดการปฏิบัติการพยาบาล
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่าผู้บริหารควรเพิ่มอัตรากำลังพยาบาลวิชาชีพในช่วงเวลาปฏิบัติงานเวรบ่าย จัดการระบบส่งต่อผู้ป่วยไปยังหอผู้ป่วยอื่น เพื่อเตรียมพร้อมรับผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที และควรจัดการฝึกอบรมการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตเด็กแบบองค์รวมแก่พยาบาลวิชาชีพ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะการพยาบาล
เอกสารอ้างอิง
ฝ่ายการพยาบาลอาคารหลัก โรงพยาบาลรามาธิบดี. (2556). สถิติการลาออก โอนย้าย ของพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาล. กรุงเทพฯ: ผู้แต่ง.
เพ็ญจันทร์ แสนประสาน. (2553). การจัดการทางการพยาบาลเพื่อความปลอดภัย (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: สุขุมวิทการพิมพ์.
มาณี รักษาเกียรติศักดิ์, และปฏิภาณ ตุ่มทอง. (2549). การประเมินภาระงานและระยะเวลาที่ผู้ป่วยอยู่ไอซียูหลังการผ่าตัดโดยใช้ Therapeutic Intervention Scoring System 28 รายการ (TISS-28). วิสัญญีสาร, 39(1), 19-26.
มาริษา สมบัติบูรณ์. (2546). แนวคิดและการบริหารอัตรากำลังในหน่วยบริการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พี.เอ.ลีฟวิ่ง.
รัชนี อยู่ศิริ. (2551). (บ.ก.). การบริหารการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พิทักษ์การพิมพ์.
โรงพยาบาลรามาธิบดี. (2556). ตัวชี้วัดด้านบริการของโรงพยาบาล. สืบค้น วันที่ 30 พฤศจิกายน 2556, จาก http://www.intra.ra.mahidol.ac.th
วาริดา จงธรรม์. (2552). การวิเคราะห์ภารกิจของบุคลากรทางการพยาบาลในหออภิบาลผู้ป่วยหนักศัลยกรรมทั่วไป โรงพยาบาลศิริราช (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล.
สุจิตรา ลิ้มอำนวยลาภ, และชวนพิศ ทำนอง. (บ.ก.). (2556). การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะเจ็บป่วยวิกฤต (พิมพ์ครั้งที่ 7). ขอนแก่น: โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
สุพร วงค์ประทุม. (2556). การพยาบาลผู้ป่วยผู้ใหญ่ตอนปลายที่มีภาวะเสี่ยงต่ออันตรายจากภาวะวิกฤต. ใน สุจิตรา ลิ้มอำนวยลาภ, และชวนพิศ ทำนอง. (บ.ก.). การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะเจ็บป่วยวิกฤต (พิมพ์ครั้งที่ 7). หน้า 361-372. ขอนแก่น: โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
สุวรรณี เหรียญรุ่งเรือง. (2547). การเปรียบเทียบต้นทุนกิจกรรมการพยาบาลต่อหน่วยตามการจำแนกประเภทผู้ป่วยกับค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บตามจริงกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม: หอบำบัดพิเศษโรคหัวใจ โรงพยาบาลรามาธิบดี (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Miranda, D. R., de Rijk, A., & Schaufeli, W. (1996). Simplified Therapeutic Intervention Scoring System: The TISS-28 items--results from a multicenter study. Critical Care Medicine, 24(1), 64-73.
Urden, L. D., & Roode, J. L. (1997). Work sampling: A decision making tool for determining resources and work redesign. The Journal of Nursing Administration, 27(9), 34-40.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน
