ผลของการส่งเสริมการพัฒนาตนเองเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการฝึกภาคปฏิบัติต่อความรู้และทักษะการปฏิบัติการพยาบาลในหอผู้ป่วยหนักของนักศึกษาพยาบาล
คำสำคัญ:
การพัฒนาตนเอง, การเตรียมความพร้อมก่อนการฝึกภาคปฏิบัติ, ความรู้และทักษะการปฏิบัติการพยาบาล, หอผู้ป่วยหนัก, นักศึกษาพยาบาลบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง เพื่อศึกษาผลของการส่งเสริมการพัฒนาตนเองเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการฝึกภาคปฏิบัติ ต่อความรู้และทักษะการปฏิบัติการพยาบาลในหอผู้ป่วยหนักของนักศึกษาพยาบาล กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาล ชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 48 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแนวทางการส่งเสริมการพัฒนาตนเองเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการฝึกภาคปฏิบัติ แบบบันทึกการวางแผนการพัฒนาตนเอง และแบบประเมินตนเองด้านความรู้และด้านทักษะการปฏิบัติการพยาบาลในหอผู้ป่วยหนักที่มีค่าความเชื่อมั่น .96 และ .97 ตามลำดับ ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2554 ถึงเดือนมีนาคม 2555 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน paired t-test และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่าหลังได้รับการส่งเสริมการพัฒนาตนเองฯ กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ยคะแนนการประเมินตนเองด้านความรู้และด้านทักษะการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤต สูงกว่าก่อนได้รับการส่งเสริมการพัฒนาตนเองฯ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 15.730, p < .001 และ t = 15.051, p < .001 ตามลำดับ)
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่าควรจัดกิจกรรมการเตรียมความพร้อมก่อนการฝึกภาคปฏิบัติในหอผู้ป่วยหนัก เพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมด้านความรู้ และเกิดความมั่นใจในการปฏิบัติการพยาบาลมากขึ้น
References
นงณภัทร รุ่งเนย, จันทร์จิรา สีสว่าง, นิตยา ทองมา, จินตนา ทองเพชร, รัชนู รัตนภาค, และกฤษณา หงษ์ทอง. (2554). การพัฒนาโปรแกรมการเตรียมความพร้อมก่อนสำเร็จการศึกษาสู่การประกอบวิชาชีพการพยาบาล (รายงานผลการวิจัย). วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี.
ภาควิชาการพยาบาลเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี. (2553). มคอ.5 วิชาปฏิบัติการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ 3 ปีการศึกษา 2553. เพชรบุรี: ผู้แต่ง.
มณฑา ลิ้มทองกุล, และสุภาพ อารีเอื้อ. (2552). แหล่งความเครียด วิธีการเผชิญความเครียด และผลลัพธ์การเผชิญความเครียดของนักศึกษาพยาบาลในการฝึกภาคปฏิบัติครั้งแรก. รามาธิบดีพยาบาลสาร, 15(2), 192-205.
ลำเจียก กำธร, มณีนุช ปริสุทธิคุณากร, สุนทรีภรณ์ ทองไสย, และจิณัฐตา ศุภศรี. (2554). ความเครียดและวิถีการปรับแก้ความเครียดในการฝึกภาคปฏิบัติทางคลินิก รายวิชาปฏิบัติการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาทางจิต ของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ตรัง (รายงานผลการวิจัย). วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ตรัง.
สุมาลี จูมทอง, ดุษฎี โยเหลา, งามตา วนินทานนท์, และสธญ ภู่คง. (2552). ประสบการณ์ความเครียดและวิธีการเผชิญความเครียดของนักศึกษาพยาบาลจากการเรียนภาคปฏิบัติในห้องคลอด. วารสารพฤติกรรมศาสตร์, 15(1), 39-56.
Bolhuis, S. (2003). Towards process-oriented teaching for self-directed lifelong learning: A multidimensional perspective. Learning and Instruction, 13(3), 327-347.
Chitty, K. K., & Black, B. P. (2007). Professional nursing: Concepts and challenges (5th ed.). St. Louis, MO: Saunders/Elsevier.
Donner, G. J., & Wheeler, M. M. (2009). Taking control of your career: A handbook for health professionals. Toronto: Mosby/Elsevier.
Guay, F., Ratelle, C. F., & Chanal, J. (2008). Optimal learning in optimal contexts: The role of self-determination in education. Canadian Psychology, 49(3), 233-240.
Huston, C. J. (2014). Professional issues in nursing: Challenges & opportunities (3rd ed.). Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins.
Knowles, M. (1990). The adult learner: A neglected species (4th ed.). Houston: Gulf Publishing.
Krippendorff, K. (2013). Content analysis: An introduction to its methodology (3rd ed). Los Angeles: SAGE publications.
Megginson, D., & Pedler, M. (1992). Self-development: A facilitator’s guide. London: McGraw Hill.
Patterson, C., Crooks, D., & Lunyk-Child, O. (2002). A new perspective on competencies for self-directed learning. Journal of Nursing Education, 41(1), 25-31.
Waltz, C. F., Strickland, O. L., & Lenz, E. R. (2016). Measurement in nursing and health research (5th ed.). New York: Springer.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2016 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน