ผลของโปรแกรมการสร้างความมั่นคงภายในจิตใจต่อความวิตกกังวลในผู้สูงอายุโรควิตกกังวลทั่วไป
คำสำคัญ:
โปรแกรมการสร้างความมั่นคงภายในจิตใจ, ความวิตกกังวล, ผู้สูงอายุโรควิตกกังวลทั่วไปบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการสร้างความมั่นคงภายในจิตใจต่อความวิตกกังวลในผู้สูงอายุโรควิตกกังวลทั่วไป กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุโรควิตกกังวลทั่วไปที่มารับการบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในภาคใต้ จำนวน 60 คน แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย โปรแกรมการสร้างความมั่นคงภายในจิตใจ แบบประเมินการหมกมุ่นครุ่นคิด มีค่าความเชื่อมั่น .83 แบบประเมินความวิตกกังวล มีค่าความเชื่อมั่น .82 และ .83 แบบประเมินความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน แบบทดสอบสภาพสมองเบื้องต้นฉบับภาษาไทย และแบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน 2565 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Chi-square test, paired t-test และ independent t-test
ผลการวิจัยพบว่า 1) หลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความวิตกกังวลขณะปัจจุบัน และคะแนนเฉลี่ยความวิตกกังวลประจำตัว ต่ำกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 9.190, p < .001 และ t = 9.390, p < .001 ตามลำดับ) และ 2) หลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความวิตกกังวลขณะปัจจุบัน และคะแนนเฉลี่ยความวิตกกังวลประจำตัว ต่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 5.710, p < .001 และ t = 10.880, p < .001 ตามลำดับ)
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า พยาบาลจิตเวชควรนำโปรแกรมการสร้างความมั่นคงภายในจิตใจไปใช้ในการดูแลผู้สูงอายุโรควิตกกังวลทั่วไป เพื่อลดความวิตกกังวลและป้องกันการเกิดภาวะวิกฤตทางจิตใจ
เอกสารอ้างอิง
กรมสุขภาพจิต. (2561). ผู้สูงอายุกับปัญหาสุขภาพทางใจ. สืบค้นจาก https://dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=27565
กรมสุขภาพจิต. (2563). 93 วันสู่สังคม “คนชรา” 5 จังหวัด? คนแก่เยอะสุด–น้อยสุด. สืบค้นจาก https://dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=30453
กุลปริยา ศิริพานิช, ธนัช มนัสวีพงศ์สกุล, และสรวิศ รัตนชาติชูชัย. (2556). ความสัมพันธ์ระหว่างการหมกมุ่นครุ่นคิดและความวิตกกังวล โดยมีสติเป็นตัวแปรกำกับ. สืบค้นจาก https://cuir.car.chula.ac.th/bitstream/123456789/44156/1/Kulpariya_si.pdf
จันทนา สารแสง. (2561). คุณภาพชีวิตและพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ ตำบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
จุฑารัตน์ ทองสลับ. (2560). โรควิตกกังวลทั่วไป ดีขึ้นได้ด้วยการปรับความคิดและพฤติกรรม. ราชาวดีสาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์, 7(1), 40–51.
ดาราวรรณ ต๊ะปินตา. (2535). การลดความวิตกกังวลของพยาบาลประจำการที่ดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ด้วยวิธีการปรับเปลี่ยนความคิดร่วมกับการฝึกสติ (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทรงศักดิ์ รักพ่วง, และภุชงค์ เสนานุช. (2562). นวัตกรรมทางสังคมสำหรับผู้สูงอายุ: ความสำคัญต่อสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม, 7(2), 205–215.
ธนพล บรรดาศักดิ์, กนกอร ชาวเวียง, สุนทรี สิทธิสงคราม, และผกาทิพย์ ปอยสูงเนิน. (2562). บทบาทพยาบาลในการดูแลบุคคลที่มีภาวะวิกฤตทางจิตใจ. วารสารศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า, 36(1), 82–89.
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2550). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS: ครอบคลุมทุกเวอร์ชั่น (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: วี. อินเตอร์ พริ้นท์.
ธิติพันธ์ ธานีรัตน์, เยาวลักษณ์ พนิตอังกูร, ตันติมา ด้วงโยธา, อุบุญรัตน์ ธุรีราช, และปิยนุช กิมเสาว์. (2559). ความชุกของภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และปัจจัยที่เกี่ยวข้องในผู้ดูแลหลักของผู้ป่วยจิตเวชสูงอายุ. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 61(4), 319–330.
นงค์นุช แนะแก้ว. (2560). ความเครียด ความวิตกกังวล และการพยาบาลผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันในหอผู้ป่วยวิกฤติโรคหัวใจ. เวชบันทึกศิริราช, 10(2), 103–108.
พจณีย์ ดวงจรัส. (2559). ผลของโปรแกรมการบำบัดรายบุคคลทางความคิดและพฤติกรรมต่อความวิตกกังวลในผู้ป่วยโรควิตกกังวลทั่วไป (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
พรพิมล เพ็ชรบุรี. (2559). ผลของโปรแกรมการสนับสนุนทางสังคมต่อภาวะสุขภาพจิตของผู้สูงอายุ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
พัชรินทร์ ครองธรรม, เพ็ญพักตร์ อุทิศ, และสมรักษ์ สันติเบญจกุล. (2561). ผลของโปรแกรมการบำบัดทางความคิดบนพื้นฐานของการเจริญสติต่อความวิตกกังวลในผู้ป่วยโรควิตกกังวลทั่วไป. วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 30(1), 23–34.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. (2559). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2558. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
วัชรากรณ์ ชีวโศภิษฐ. (2562). สังคมผู้สูงอายุ: ปัจจัยการตลาดที่เปลี่ยนไป. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(1), 38–54.
วารีรัตน์ ถาน้อย, รุ้งนภา ผาณิตรัตน์, กอบกุล พันธ์เจริญวรกุล, Elaine A. Thompson, และเดชาวุธ นิตยสุทธิ. (2554). แบบวัดความครุ่นคิดต่อสถานการณ์ฉบับภาษาไทยสำหรับวัยรุ่น: คุณภาพของเครื่องมือ. วารสารพยาบาลศาสตร์, 29(เพิ่มเติม 2), 29–38.
วิลาสินี ฝนดี, มฤษฎ์ แก้วจินดา, และวรางคณา โสมะนันทน์. (2562). การลดภาวะซึมเศร้าและภาวะวิตกกังวลด้วยการปรึกษาเชิงจิตวิทยาโดยเสริมเทคนิคความมั่นคงภายใน: กรณีศึกษานิสิตระดับปริญญาตรี. วารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์, 12(2), 3–13.
วิสาขา แซ่อุ้ย, และระวิวรรณ วรรณวิไชย. (2560). การเคลื่อนไหวบำบัด : กิจกรรมพัฒนาผู้สูงอายุ. วารสารศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 3(2), 1–12.
สถาบันเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ กรมการแพทย์. (2542). คู่มือการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุสำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สิริพร รังสิตเสถียร. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างความจำใช้งาน การควบคุมพฤติกรรมตนเอง การคิดอย่างยืดหยุ่นและความซึมเศร้าโดยมีการหมกมุ่นครุ่นคิดเป็นตัวแปรส่งผ่าน (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุกัญญา สุทธศิลป์, รังสิมันต์ สุนทรไชยา, และสารรัตน์ วุฒิอาภา. (2559). ผลของการบำบัดผู้ป่วยโรควิตกกังวลทั่วไปด้วยโปรแกรมแก้ปัญหา. พุทธชินราชเวชสาร, 33(3), 337–346.
สุทธิชัย จิตะพันธ์กุล, ภิรมย์ กมลรัตนกุล, สุนิตย์ จันทร์ประเสริฐ, และศรีจินตรา บุนนาค. (2537). ภาวะทุพพลภาพของผู้สูงอายุไทยในชุมชนแออัดคลองเตย. วารสารจดหมายเหตุทางแพทย์ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, 77(5), 231–238.
สุวิทย์ เจริญศักดิ์, กอบหทัย สิทธิรณฤทธิ์, ธีรศักดิ์ สาตรา, วีรศักดิ์ เมืองไพศาล, และวราลักษณ์ ศรีนนท์ประเสริฐ. (2561). ความชุกของโรคจิตเวชในผู้ป่วยสูงอายุ คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและผู้ดูแล และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 63(1), 89–98.
Aguilera, D. C. (1994). Crisis intervention: Theory and methodology. St. Louis, MO: Mosby.
Caplan, G. (1964). Principles of preventive psychiatry. New York: Basic Books.
Cohen, J. (1988). Statistical power analysis for the behavioral sciences (2nd ed.). New York: Routledge.
Menta, C., Bisol, L. W., Nogueira, E. L., Engroff, P., & Neto, A. C. (2020). Prevalence and correlates of generalized anxiety disorder among elderly people in primary health care. Jornal Brasileiro de Psiquiatria, 69(2), 126–130. doi:10.1590/0047-2085000000267
Mohlman, J., Eldreth, D. A., Price, R. B., Staples, A. M., & Hanson, C. (2017). Prefrontal-limbic connectivity during worry in older adults with generalized anxiety disorder. Aging & Mental Health, 21(4), 426–438. doi:10.1080/13607863.2015.1109058
Nolen-Hoeksema, S. (2000). The role of rumination in depressive disorders and mixed anxiety/depressive symptoms. Journal of Abnormal Psychology, 109(3), 504–511. Retrieved from https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/11016119/
Park, M. J., & Chung, M. Y. (2020). Effects of anxiety on health related quality of life of the elderly: Multiple mediating effects of self-esteem and social support. Journal of Korean Academy of Community Health Nursing, 31(1), 24–33. doi:10.12799/jkachn.2020.31.1.24
Polit, D. F., & Beck, C. T. (2012). Nursing research: Generating and assessing evidence for nursing practice (9th ed.). Philadelphia: Lippincott, Williams & Wilkins.
Spielberger, C. D. (1985). Assessment of state and trait anxiety: Conceptual and methodological issues. Southern Psychologist, 2(4), 6–16.
Spielberger, C. D., Gorsuch, R. L., & Lushene, R. E. (1970). Manual for the State-Trait Anxiety Inventory. Palo Alto, CA: Consulting Psychologists Press.
Subramanyam, A. A., Kedare, J., Singh, O. P., & Pinto, C. (2018). Clinical practice guidelines for geriatric anxiety disorder. Indian Journal of Psychiatry, 60(Suppl. 3), 371–382. doi:10.4103/0019-5545.224476
Thai PBS. (2567). Aging society ไทยเข้าสู่สังคม “แก่เต็มขั้น” สวนทางเด็กเกิดน้อย. สืบค้นจาก https://www.thaipbs.or.th/news/content/335743
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน